อดีตแกนนำพันธมิตรฯ ชี้ ผบ.นสร.พูดมีนัย-ทำนายอนาคตได้ เตือน “สุเทพ” ระวังถูกสอย ซัด “ทักษิณ” สุดอำมหิตเล่นแรงหลังแพ้หมดรูป แฉ ตร.ขนอาวุธจากใต้ป่วนม็อบเตรียมปะทะทหาร จวก “ประยุทธ์” ดีแต่พลิ้ว สับ “ธนะศักดิ์” ใช้ไม่ได้ ปูด “อดุลย์” เด็ก “วิริยา” ชี้การเปลี่ยนแปลงใกล้มาถึง “ยิ่งลักษณ์” เตรียมหนีออกนอกประเทศ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (22 ม.ค.) ที่สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการ กล่าวในรายการ “สภาท่าพระอาทิตย์” ว่า ตนได้อ่านข่าวเจอ บทสัมภาษณ์ของ พล.ร.ต.วินัย กล่อมอินทร์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (ผบ.นสร.) กองเรือยุทธการ กองทัพเรือ (หน่วยซีล) ซึ่งมีนัยลึกกว้างและลึกสามารถอธิบายปรากฏการณ์ พอจะทำนายได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น และบ่งชี้ถึงสถานะของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. และ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส.
นายสนธิกล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะความโลภ ความอหังการ์ และยโสโอหังของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่สั่งทาง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เห็นว่าตัวเองควบคุมได้ทุกอย่างแล้วจะทำอะไรก็ได้ ในสภามีการผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแบบสุดซอย ที่เขากล้าทำเพราะเห็นว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยประกาศยุติบทบาทไปแล้ว แต่ตนได้บอกหลายครั้งว่าการยุติบทบาทของพันธมิตรฯ เพื่อเพิ่มพลังให้มวลชนเพิ่มมากขึ้น การเคลื่อนไหวที่ผ่านมามีทั้งคนรักและคนเกลียด บางคนก็เหยียบศพเราขึ้นไปมีอำนาจ เมื่อเรายุติบทบาทจึงเกิดนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส.ขึ้นมา สิ่งที่ตนเคยพูดนายสุเทพก็ทำตามทุกอย่าง แต่มีอย่างเดียวที่นายสุเทพ ไม่แตะคือการปฏิรูปเรื่องพลังงาน ซึ่งทุกคนก็สงสัยว่าทำไม แต่ก็ไม่เป็นไร ถือว่านายสุเทพทำดีแล้ว
“ผมยังเป็นห่วงเหตุการณ์ ณ วันนี้ ผมเป็นห่วงความปลอดภัยของนายสุเทพ ผมอยากให้คนที่รอบตัวคุณสุเทพ ให้ดูแลและระมัดระวังอย่างชัดเจน เพราะว่าการเปลี่ยนกระบวนการใหม่ในการต่อสู้กับประชาชนครั้งนี้ เป้าหมายจริงๆ คือการฆ่านายสุเทพ ผมยืนยันได้” นายสนธิกล่าว
อดีตแกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนอำมหิตมาก ที่ส่งน้องสาวมาตายแทนเขา แต่ความเป็นพี่เป็นน้องก็ยังมี ทำไมนายเอกยุทธ อัญชันบุตร ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ไทยอินไซเดอร์ถึงตาย ก็เพราะไปพูดเรื่องโฟร์ซีซั่นส์ และขู่จะเปิดคลิปสวาทที่มัลดีฟส์ ถือเป็นการเซ็นใบมรณบัตรให้ตัวเอง เราก็รู้ใครเป็นคนทำ คนที่ได้ดีเพราะพี่ให้เป็นคนสั่งการ และตั้งแต่นายสุเทพประกาศจับตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นจุดที่ตัดสินใจต้องเล่นแรงต้องฆ่านายสุเทพให้ได้ การขว้างระเบิดที่บรรทัดทอง และจุดอื่นมุ่งเป้าที่แกนนำทั้งสิ้น ตนยืนยันงานนี้ตำรวจอยู่เบื้องหลัง มีการนำอาวุธมาจากภาคใต้ทั้งสิ้น
นายสนธิวิเคราะห์อีกว่า ตนเคยบอกว่าจะมีการเล่นแรงขึ้น เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนแพ้ไม่เป็น ถ้ากูไม่ได้มึงก็อย่าได้ เมื่อสู้ในสภาไม่ได้ก็ต้องออกมาสู้นอกสภา ที่มีการผลักดันให้มีการเลือกตั้งเพื่อสร้างเครดิตในทางสากลปกป้องประชาธิปไตย แต่ในทางลึกเขารู้ว่าเขาแพ้หมดแล้ว ทั้ง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม การแก้รัฐธรรมนูญที่มา ส.ว.เพื่อต้องการกระชับอำนาจในการเลือกองค์กรอิสระโดยที่ไม่มีใครค้าน การทำทุกอย่างเพื่อขายประเทศให้ต่างชาติ ในเรื่องทรัพยากรธรรมชาติพลังงาน เงินกู้ 2 ล้านล้านก็ทำท่าจะไม่ได้ แถมโดน ป.ป.ช.ชี้มูลเรื่องจำนำข้าว ธนาคารออมสิน, ธอส.ก็ไม่ยอม เอาเงินประกันสังคมมาใช้ก็ไม่ได้
นายสนธิกล่าวว่า แต่สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือการที่ได้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นพวกเขา ดูได้จากคลิปถังเช่า ตนจึงฟันธงได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ กับ พ.ต.ท.ทักษิณ จับมือกันตลอด แต่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนที่น่าสมเพช ที่อยู่ในสภาพที่ไม่รู้จะทำอย่างไร จะมาทางนายสุเทพก็ไม่ได้ มาทาง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ถูกสังคมจับตามอง จึงได้แต่พลิ้วไปพลิ้วมา การที่ พล.อ.ประยุทธ์ ลงใต้ไม่เข้าร่วมประชุมออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็เพื่อทำให้ฝ่ายประชาชนเห็นว่าไม่ได้เข้าไปร่วมด้วย แต่ในขณะเดียวกันการหนีไปใต้ก็เหมือนส่งสัญญาณว่าตนไม่ยุ่ง ใครทำอะไรก็จะไม่ยุ่ง กำลังเลียนแบบ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีต ผบ.ทบ.คือประคองเหตุการณ์ไปเรื่อยๆ แถมไม่รู้หน้าที่ในการปกป้องสถาบัน เป็นเรื่องที่น่าสมเพช
นายสนธิกล่าวอีกว่า อีกคนหนึ่งคือ พล.อ.ธนะศักดิ์ เป็นทหารที่ใช้ไม่ได้ หลังจากคลิปถังเช่าก็เห็นได้ชัดว่าเทมาอยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ทหารจริงๆ ไม่ต้องปฏิวัติ เพียงแค่แสดงออกว่าไม่เห็นด้วยกับวิธีการ แต่วันนี้ไม่มี รวมไปถึงการแต่งตั้งตำแหน่ง อย่างตำรวจ สมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ใครจะเอาตำแหน่งต้องจ่ายเงิน จึงไม่มีบุญคุณกัน แต่สมัยรัฐบาลนี้ใครอยากได้ตำแหน่งต้องไปหา พ.ต.ท.ทักษิณ จึงจะได้ตำแหน่ง ไม่ต้องเสียเงิน แต่ให้ทำงานให้ จึงมีบุญคุณกัน อย่างระเบิดก็นำมาจากภาคใต้ เพราะระเบิดสามารถนำมาใช้จากคลังโดยไม่มีใครรู้ และพบว่ามีการนำรถหุ้มเกราะเข้ามา ตอนนี้ที่กำลังจะเกิดขึ้น เป็นการเผชิญหน้าระหว่างตำรวจกับทหาร จะเริ่มเห็นมีการปะทะกันระหว่างตำรวจกับทหาร แต่เป้าแรกต้องฆ่านายสุเทพก่อน ขณะที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ก็เป็นคนสนิทของท่านผู้หญิงวิริยา ชวกุล คนสนิทของ พ.ต.ท.ทักษิณ และได้ผลประโยชน์จากรัฐบาลนี้
นายสนธิกล่าวต่อว่า สิ่งที่ พล.ร.ต.วินัยพูด ทำให้มองย้อนกลับไปปี 2549 และนึกถึง พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร สมัยนั้น พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.ไม่พูดออกมาต่อต้านทักษิณ นั่งเงียบๆ แต่คนซึ่งออกมาซัดระบอบทักษิณ คือ พล.ท.สพรั่ง กัลยาณมิตร แม่ทัพภาค 3 ตอนนั้น เหมือนกัน วันนี้ ผบ.ซีลออกมาชัดเจน ไม่ต้องแปล และคราวนี้ท่านพูดบอกว่ามีกองกำลังเขมรมา ท่านพูดได้เจ็บใจมาก เพราะว่าทหารบางส่วนและตำรวจส่วนใหญ่รู้เห็นเป็นใจที่ให้ไอ้พวกนี้ขนกำลังจากเขมรมา ไอ้พวกนี้ไปฝึกมา เพราะฉะนั้นพวกนี้เป็นพวกที่ทำร้ายประเทศไทยหมดทุกอย่าง
“ผมจะให้จับตาดู การเปลี่ยนแปลงใกล้จะมาแล้ว และผมจะบอกให้รู้ วันนี้ทั้งยิ่งลักษณ์เตรียมตัวหนีออกนอกประเทศ เฉลิม อยู่บำรุง ทำซ่าอย่างนี้ แต่เตรียมตัวถอยแล้ว ปุ๊บปั๊บๆ รับรองหนีทันทีเลย คนพวกนี้ หลายคนเตรียมตัวหนีออกต่างประเทศ มีเงินมีทองทิ้งไว้ที่ต่างประเทศเยอะแยะไปหมด นักการเมืองส่วนใหญ่ อย่างที่สำนักข่าวเอเอฟพีเขียน เป็นคนที่ขี้โกง โกงชาติ โกงบ้านโกงเมือง เพราะฉะนั้นแล้ว พวกนี้จะพูดบอกว่าประชาธิปไตยคือการเลือกตั้ง เราต้องไม่ยืนยันในการเลือกตั้ง แต่เราต้องบอกว่า ประชาธิปไตยมีหลายรูปแบบ การมีส่วนร่วมของประชาชนคือรูปแบบหนึ่ง ที่สำคัญที่สุด ประชาธิปไตยคือประโยชน์ส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ประโยชน์เฉพาะตระกูลชินวัตร หรือทักษิณ
ประชาธิปไตยบ้าบอคอแตกอะไร มีน้องสาวเป็นนายกฯ ตัวเองสั่งการอยู่เมืองนอก คนจะเป็นตำรวจ เป็นพลตำรวจโท พลตำรวจเอก ต้องไปกราบตีนที่ฮ่องกง พวกนี้อายแก่ใจตัวเองบ้างหรือเปล่า ละอายแก่ใจตัวเองบ้างหรือเปล่า แล้วก็รังแกประชาชน เอาระเบิดมาขว้างบ้าง เอาปืนมายิงบ้าง แล้วคอยดูจะแรงมากกว่านี้อีก” นายสนธิกล่าว
คำต่อคำ “สนธิ ลิ้มทองกุล”
คลิปสัมภาษณ์ พล.ร.ต.วินัย กล่อมอินทร์ ผู้บัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ โดย ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ และ อมรรัตน์ มหิทธรุกข์ ทางสปริงนิวส์ทีวี
ดนัย :- ท่าน ผบ.ครับ เมื่อวานผมได้ฟังท่าน ผบ.ให้สัมภาษณ์ ต้องถือว่าตรงไปตรงมาและตรงประเด็นมากทีเดียว ท่าน ผบ.ฟันธงว่าคนที่เอาภาพลูกน้องของท่าน ผบ.มาเผยแพร่ และไปเปรียบเทียบกับมือบึ้ม จากกล้องวงจรปิด เป็นฝีมือ วันนี้ เช้าวันนี้ก็ยังยืนยันว่าฝีมือตำรวจปล่อยภาพ
อมรรัตน์: - ใช่มั้ยคะ ช่องทางเดียวที่ออกมาได้หรือเปล่าคะ
พล.ร.ต.วินัย - ใช่ครับ เพราะว่ารูปนั้นมันใช้ในราชการของกรมตำรวจ
ดนัย :- ใช้ในราชการของตำรวจ ดังนั้น ประเด็นที่ 1 มั่นใจเลย เป็นฝีมือการปล่อยภาพของตำรวจ
พล.ร.ต.วินัย- ใช่ครับ
ดนัย :- ประเด็นที่ 2 ตำรวจปล่อยภาพเพื่อเบี่ยงเบนประเด็น เพื่อกลบเกลื่อน
พล.ร.ต.วินัย- เพื่อเบี่ยงเบนประเด็น และเพื่อดิสเครดิตทหารด้วยครับ
ดนัย :- เป็น 2 เด้ง เด้งที่ 1 ก็คือเพื่อเบี่ยงเบนประเด็น เด้งที่ 2 ก็คือเพื่อดิสเครดิตทหาร เขาจะดิสเครดิตทหารทำไม ท่าน ผบ.
พล.ร.ต.วินัย- ก็พยายามกันว่า งานนี้เดี๋ยวทหารจะต้องมาปฏิวัติ เอากำลัง เอาอะไรต่ออะไรออกมานี่เพื่อจะให้มันเกิดความไม่สงบ แล้วจะหาเหตุปฏิวัติ อย่างนั้นไงครับ
ดนัย :- อ๋อ เพื่อตีกันทหารปฏิวัติ
พล.ร.ต.วินัย- ใช่ครับ
ดนัย :- จริงๆ พยายามที่จะดิสเครดิต พยายามที่จะป้ายสีว่า ทหารสร้างสถานการณ์เสียเองเพื่อจะปฏิวัติ อะไรประมาณนั้น
พล.ร.ต.วินัย- ใช่ครับ มันเป็นอย่างนั้น จากรูปการณ์ เราวิเคราะห์กันแล้ว จริงๆ แล้วทหารเรา เราเป็นทหารของประเทศชาติ ทหารขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และทหารของประชาชน เราเรียนมาทางนี้ เราเป็นทหารโดยอาชีพ
ดนัย :- ถ้าเป็นอย่างนี้ ท่านผู้บัญชาการทหารเรือไม่โกรธตำรวจตายเหรอฮะ เล่นกันอย่างนี้
พล.ร.ต.วินัย- ไม่ นี่ท่านในระดับผู้ใหญ่เขาคุยกัน ผมว่าคนเพียงไม่กี่คนหรอกครับที่จะทำ ผมว่าถ้าท่านผู้ใหญ่ที่ท่านคิดกัน ท่านไม่ได้มีเจตนาอะไร แต่ว่าไอ้คนบางคนที่มีเจตนาไม่ดีเป็นคนทำ ผมคิดว่าผู้ใหญ่ข้างบนอาจจะไม่รู้เรื่องตรงนี้หรอกครับ
อมรรัตน์:- มีการคุย การเคลียร์กันมั้ยคะ ระดับผู้ใหญ่
พล.ร.ต.วินัย- ก็สุดแล้วแต่นะครับ แต่ของผมเนี่ย หมายถึงว่าผมเป็นผู้ถูกกระทำ แล้วชื่อเสียงมันเสีย เสียแก่กองทัพเรือ เสียแก่หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ แล้วก็เสียกับลูกน้องผม
ดนัย :- จ่าทหารเรือคนที่ถูกเอาภาพขึ้นนั้น ก็ยังอยู่ที่สัตหีบ ไม่ได้ไปไหนเลย
พล.ร.ต.วินัย- อยู่ครับ ผู้บัญชาการทหารเรือท่านสั่งให้ออกนอกพื้นที่นะครับ จริงๆ แล้วเรามีการทำงานของเราอยู่ ทั้งนี้เพื่อต้องการเคลียร์ตรงนี้ เราก็ออกจากพื้นที่ เราก็อยู่ในที่ตั้งของเรา
ดนัย :- ก็กลับหน่วยที่สัตหีบนะครับ
พล.ร.ต.วินัย- ใช่ครับ
ดนัย :- วันเกิดเหตุที่อนุสาวรีย์ชัยฯ จ่าคนนั้นก็ไม่ได้ไปไหนเลย
พล.ร.ต.วินัย- เราจะไปทำทำไมครับ ไม่ได้ไปไหนเลย ก็อยู่ในสัตหีบ
อมรรัตน์:- อันนี้ยืนยันเลยใช่ไหมคะ มีการตรวจสอบว่าเขาอยู่ที่สัตหีบ
พล.ร.ต.วินัย- ถูกต้องฮะ 100 เปอร์เซ็นต์ มันเป็นไปไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์เลย
ดนัย :- ครับ ประเด็นที่ 1 ตำรวจปล่อยภาพ ประเด็นที่ 2 เพื่อเบี่ยงเบน แล้วก็ประเด็นที่ 3 เพื่อดิสเครดิตทหาร และประเด็นที่ 4 เพื่อตีกันทหารจะปฏิวัติ ประมาณนั้นนะครับ ประเด็นที่ 5 นั้น เห็นท่าน ผบ.พูดถึง ไทยโกหกจนกระทั่งไม่มีใครเชื่อถือแล้ว อะไรประมาณนั้น หมายความว่าอย่างไร
พล.ร.ต.วินัย- อ้าว ก็สังเกตดูสิครับ ฟรีทีวีที่ออกๆ กันมาอยู่เนี่ย เวลาที่พูดกันมา ขณะนี้คนที่เขาเข้าถึงสื่อ โดยเฉพาะสื่อหลายด้าน เขาไม่ดูหรอกฟรีทีวีที่ออกมาน่ะ
อมรรัตน์:- หมายถึงแถลงการณ์ต่างๆ หรือเปล่าคะ
พล.ร.ต.วินัย- ผู้มีอำนาจรัฐโกหกเสียจนกระทั่งประชาชนเขาไม่เชื่อแล้ว
ดนัย :- ผู้มีอำนาจรัฐโกหกจนกระทั่งประชาชนเขาไม่เชื่อ
พล.ร.ต.วินัย- ใช่ครับ
ดนัย :- ดังนั้นจึงมีความเชื่อมั่นว่าผู้มีอำนาจรัฐจะใช้ตำรวจปล่อยภาพเบี่ยงเบนประเด็น ดิสเครดิตอย่างไร ก็มั่นใจว่าประชาชนจะไม่เชื่อถือ
พล.ร.ต.วินัย- ครับ คนที่เขารู้จริง ไม่มีใครเขาเชื่อถือ แต่ก็อย่างว่านะครับ นิสัยคนไทยส่วนใหญ่ ถ้าได้รู้ได้เห็นอะไรก่อน ก็จะเชื่อไปก่อนแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นอย่างนั้น พอกลั่นกรองด้วยเหตุและผลแล้ว ได้คิดกลั่นกรองเหตุและผลแล้ว มันจะมีคำตอบของมันเอง แต่ส่วนใหญ่ทำไมมันถึงได้มีเรื่องของการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ทำอะไรเนี่ย ตรงนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งเลย ทำไมถึงชอบทำ เพราะรู้ว่าคนไทยอ่านแล้วเชื่อ ดูแล้วเชื่อ ก็เป็นอย่างนั้นครับ
ดนัย :- อะไรที่ทำให้ท่าน ผบ.เชื่อว่ามือบึ้ม ทั้งที่บรรทัดทอง และโดยเฉพาะที่อนุสาวรีย์ชัยฯ เป็นฝีมือของชายชุดดำ ของคนในจัดตั้งของคนเสื้อแดง ที่เคยปฏิบัติการสมัยปี 52-53 ครับ
พล.ร.ต.วินัย- พฤติกรรม ลักษณะ ของการขว้าง ที่เราดูจากวงจรปิด อะไรทั้งหลายแหล่ เราเองเราถูกฝึกมา เราจะมองออกนะครับ เราจะมองออกว่าคนเหล่านี้มาจากไหน อะไร ยังไง
ดนัย :- อ๋อ มันมีลายเซ็นอยู่ ลีลา ท่าทาง ท่วงท่า อาวุธที่ใช้
พล.ร.ต.วินัย- ใช่ครับ คุณดูสิครับ
อมรรัตน์:- เชื่อว่าเป็นกลุ่มเดียวกันเลยมั้ยคะ
พล.ร.ต.วินัย- ผมมั่นใจ
อมรรัตน์:- มั่นใจว่าคือกลุ่มเดียวกันเลยนะ
พล.ร.ต.วินัย- ใช่ครับ
ดนัย :- มั่นใจว่าอยู่ในกลุ่มชายชุดดำสมัยปี 53
พล.ร.ต.วินัย- ใช่ครับ
ดนัย :- และอยู่ในเครือข่ายของคนเสื้อแดง
พล.ร.ต.วินัย- ตรงนี้ผมมั่นใจเลยว่าเป็นอย่างนั้น
ดนัย :- เกี่ยวโยงกับเครือข่ายของ เสธ.แดง เก่า
พล.ร.ต.วินัย- ตรงนั้นผมไม่แน่ใจ แต่ผมแน่ใจผู้ก่อความไม่สงบในปี 52-53
ดนัย :- ถ้าคิดว่าเป็นฝีมือคนในจัดตั้งของคนเสื้อแดง คิดว่าผู้มีอำนาจรัฐ ณ ปัจจุบัน รู้เห็นเป็นใจด้วยมั้ย
พล.ร.ต.วินัย- ตรงนี้ผมว่าความจริงก็คือความจริง ใครทำอะไรก็รู้อยู่แก่ใจ เอาอย่างนี้ดีกว่า ถึงจะปฏิเสธไป ความจริงก็คือความจริง กฎแห่งกรรมที่มันเป็นกรรมที่แท้จริงก็จะตอบสนองเขาเหล่านั้นเองครับ
อมรรัตน์:- แต่ในมุมมองของท่านเชื่อว่าน่าจะรู้เห็นด้วยมั้ยคะ
พล.ร.ต.วินัย- ของผม .. เอาอย่างนี้ เหตุเกิดมาเมื่อไม่เท่าไร กำลังพลที่มีหน้าที่ตั้งเยอะแยะ คุณทำอะไรกันอยู่ คุณทำอะไรกันอยู่ นี่คิดแบบเป็นตรรกะ ด้วยเหตุและผลเลย คุณทำอะไรกันอยู่ ทีคนอื่นคุณจับได้หมด เยอะแยะไปหมด แต่ไอ้เรื่่องนี้แค่นี้คุณทำไม่ได้ ผมไม่เข้าใจ
ดนัย :- กำลังพูดถึงตำรวจใช่มั้ยครับ
พล.ร.ต.วินัย- เอ้า ก็ผู้ที่มีหน้าที่ไงครับ เขามีหน้าที่มั้ยล่ะ เขามีอำนาจมั้ย คุณทำอะไรกันอยู่
ดนัย :- กำลังตั้งคำถามว่าตำรวจจับไม่จริงใช่มั้ยครับเที่ยวนี้
พล.ร.ต.วินัย- เอ้า คนทั้งประเทศเขาถามแบบผมนี่ล่ะ แต่เขาไม่มีโอกาสพูด คนพูดกันหมดแหล่ะ นะครับ คุณก็ต้องเข้าใจนะครับว่าประชาชนชาวไทยเขากินข้าว เขาไม่ได้กินอย่างอื่น โดยเฉพาะผู้ที่มีความรู้ เขาวิเคราะห์ออกว่าอะไรมันเป็นอะไร เพราะฉะนั้นสิ่งที่ทำอยู่ในปัจจุบันเนี่ย ผมว่าเลิกเถอะครับ คนไทยจะได้ไม่ฆ่ากัน หรือเอาคนอื่นมาฆ่าคนไทยเนี่ย ผมว่ามันไม่ควรจะเกิด
ดนัย :- ตรงนี้ผมต้องถามตรงๆ เลย ผบ.ฮะ ที่ ผบ.บอกว่าสมัยปี 53 คนเสื้อแดงใช้บริการเขมร ครั้งนี้มีการใช้บริการเขมรเช่นกัน ผบ.ยืนยันอย่างนั้นเหรอฮะ
พล.ร.ต.วินัย- มันมีข่าว มีข่าวขนเข้ามาก่อนหน้านี้ แล้วเมื่อคืนนี้ก็มีขนเข้ามาอีก
ดนัย :- อ๋อ เหรอฮะ เมื่อคืนก็ขนเขมรเข้ามา?
อมรรัตน์:- ล็อตใหญ่มั้ยคะ เมื่อคืน ที่ได้ข่าวมา
พล.ร.ต.วินัย- ประมาณ 10 คันรถตู้
ดนัย :- 10 คันรถตู้ จากชายแดนฝั่งตะวันออกเหรอฮะ
พล.ร.ต.วินัย- ใช่ครับ
ดนัย :- ขนเข้ามาในกรุงเทพฯ เนี่ยเหรอฮะ
พล.ร.ต.วินัย- ใช่ ขนเข้ามาเพื่อจะก่อความไม่สงบ มันเป็นหน้าที่ของตำรวจแล้ว คุณมีหูตาสับปะรดมากกว่า คุณอยู่ทุกท้องที่ สายสืบเยอะแยะเต็มไปหมด ผมก็ไม่เข้าใจทำไมจึงไม่ทำ ปล่อยปละละเลย
ดนัย :- มั่นใจว่าผู้มีอำนาจรัฐปัจจุบันจะเล่นเกมแรงเหรอฮะ สัปดาห์นี้
พล.ร.ต.วินัย- ก็คุณดูสิ เล่นเกมแรง มันแรงมาเรื่อยๆ ใช่มั้ยล่ะ ถามว่ามวลหมู่ประชาชนเขาทำอะไร ไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่ได้เสียหายเลย แม้กระทั่งเขาไปชุมนุมกัน ร้านค้าเขาก็ขายดี เขาไม่เคยไปทำความเสียหายอะไรเลย ผมก็ไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ดนัย :- คำถามสุดท้ายครับ ผบ.ครับ ถ้าวันนี้ รัฐบาลเขาประชุมกันแล้วนะฮะ แล้วเขาตัดสินใจประกาศบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ใน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นั้นเขาต้องใช้บริการ เขาต้องสั่งทหารออกแน่ ถ้าเขาสั่ง ผบ. ผบ.จะออกมั้ย
พล.ร.ต.วินัย- ไอ้ออกน่ะ มันเป็นไปตามหน้าที่ แต่เราจะทำหรือไม่ทำก็เรื่องของเรา
ดนัย :- ไอ้ออกมันต้องออก แต่จะทำหรือไม่ทำ อีกเรื่อง
พล.ร.ต.วินัย- เรื่องของเรา เพราะเรามีวิจารณญาณ เรารู้อยู่แล้ว ถ้าเผื่อมาสั่งเรื่องเลวๆ เราเป็นทหารเราจะทำมั้ย
ดนัย :- ไอ้ออก ที่มันต้องออก หมายความว่าเคลื่อนกำลังออกจากหน่วยตามคำสั่ง แต่ว่า
พล.ร.ต.วินัย- ถ้าสั่งมา แต่ถ้าให้ทำในเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ผมก็ไม่ทำ
อมรรัตน์:- ท่านจะใช้สิทธิไม่ทำ
ดนัย :- นี่คือจุดยืนของกองทัพเรือเลยนะครับ
พล.ร.ต.วินัย- นี่เป็นจุดยืนของผมนะครับ จุดยืนของผมเลย เพราะว่าผมเป็นทหารของชาติ ทหารขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และทหารของประชาชน เรากินเงินเดือนจากภาษีของประชาชน
ดนัย :- กราบขอบพระคุณมากครับ ท่าน ผบ.
รัตติกรณ์ - สวัสดีค่ะคุณผู้ชม นี่คือรายการสภาท่าพระอาทิตย์ เราพบกันวันนี้ 22 มกราคม 2557 ดิฉัน รัตน์ติกรณ์ จารุเกษตรวิทย์ ดำเนินรายการ เราเริ่มต้นรายการวันนี้ด้วยเสียงสัมภาษณ์ของ พล.ร.ต.วินัย กล่อมอินทร์ ผู้บัญชาการหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ หรือหน่วยซีล ที่ตอนนี้กำลังถูกจับตามองว่า เป็นบุคคลผู้ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ต่อสถานการณ์บ้านเมืองอย่างชัดเจนเหลือเกิน จนหลายคนบอกว่าทำไมผู้บัญชาการทหารบกไม่พูดชัดๆ แบบนี้้บ้าง ประกาศตนเองว่าอยู่เคียงข้างประชาชน เป็นทหารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กินเงินเดือนของพี่น้องประชาชน
พูดถึง ผบ.ทบ.วันนี้ลงไปในพื้นที่ภาคใต้ จะหนีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหรือไม่ ที่เมื่อวานรัฐบาลได้ประกาศใช้ นี่คือสิ่งที่จะเป็นตัวชี้เหตุการณ์ในอนาคตอย่างไร เดี๋ยววันนี้เราจะได้ร่วมพูดคุยกัน และการแสดงบทบาทของหนึ่งในทหารจากทางด้านของกองทัพเรือนี้ เป็นตัวที่บ่งชี้อะไรอยู่บ้าง และในขณะเดียวกัน เมื่อเราพูดถึงสถานการณ์ฉุกเฉินที่จะนำมาใช้ในการจัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุมนี้ ผู้ที่ทำหน้าที่ในการเป็นผู้อำนวยการ ศรส. ชื่อ ร.ต.อ.ดร.เฉลิม อยู่บำรุง เมื่อเขามาทำหน้าที่นี้ ยินดีมารับใช้รัฐบาลชุดนี้ในตำแหน่งนี้ จะเกิดอะไรขึ้น รวมถึงเราจะไปดูกัน อย่างที่ ผบ.หน่วยซีล ของกองทัพเรือบอกว่ามีการขนคน 10 รถตู้มาจากฝั่งเขมร แล้วด้านของรัฐบาลเลือกใช้คนที่อยู่ในประเทศไทย อย่างในพื้นที่ภาคใต้ หรือในหน่วยอื่นๆ เข้ามาปฏิบัติการนั้น จะมีเหตุการณ์อย่างไรต่อไป วันนี้เราจะร่วมกันวิเคราะห์สถานการณ์ หลายคนรอฟังอยู่ ผ่านมา 3 เดือนแล้ว ยังไม่ได้ยินเสียงของท่านนี้ที่จะร่วมกันวิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมืองของเราที่กำลังวิกฤตอยู่ในตอนนี้ วันนี้เราจะร่วมสนทนากันกับผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ช่วยวิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมืองในตอนนี้กัน สวัสดีค่ะคุณสนธิ
สนธิ - สวัสดีครับ คุณรัตน์ติกรณ์ ผมเคยชินกับเรียก"จิ"
รัตน์ติกรณ์ - เราเริ่มต้นวันนี้เป็นเสียงสัมภาษณ์ ขอบคุณทางสปริงนิวส์ที่สัมภาษณ์ อีกครั้งหนึ่งของ พล.ร.ต.วินัย กล่อมอินทร์
สนธิ - เมื่อเช้าผมนั่งเช็กข่าว อ่านข่าว แล้วก็เจอคำให้สัมภาษณ์ของ พล.ร.ต.วินัย ผมเลยตัดสินใจ บอกพรรคพวกว่า ขออนุญาตลัดคิวนิดหนึ่ง มาออกรายการสภาท่าพระอาทิตย์ดีกว่า เพราะว่าการให้สัมภาษณ์ของ พล.ร.ต.วินัย มีนัยกว้างและลึก มากมายหลายอย่าง ซึ่งสามารถจะอธิบายปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น และในขณะเดียวกัน พอที่จะทำนายได้ว่าอะไรบ้างจะเกิดขึ้นต่อไป และเป็นการชี้ถึงสถานภาพของคนบางคนได้ ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือว่า พล.อ.ธนะศักดิ์
รัตน์ติกรณ์ - ปฏิมาประกร
สนธิ - ปฏิมาประกร ซึ่งประเดี๋ยวผมจะอธิบายให้คุณจิฟัง ขอเรียกจิดีกว่านะครับ ทีนี้ก่อนที่เราจะมาถึงเหตุการณ์ในวันนี้ที่ พล.ร.ต.วินัยพูด เราต้องถามตัวเราเองก่อนว่า ทั้งหมดนี้มันเกิดขึ้นเพราะอะไร ทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะความโลภ ความอหังการ มมังการ ตลอดจนความยโสโอหังคิดว่า ตัวเองมีเสียงในสภาฯ จะทำอะไรก็ทำได้ของทักษิณ ชินวัตร ที่สั่งผ่านมาทางน้องสาว และสั่งผ่านมาทาง ส.ส.คุณประยุทธ์ ที่เขาเรียกว่าหัวเกรียน เพื่อที่จะผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้สุดซอย ซึ่งการผลักดันนิรโทษกรรมอันนี้ เหตุผลหนึ่งที่เขากล้าที่จะทำเช่นนั้นก็เพราะว่า แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตัดสินใจยุติบทบาท การยุติบทบาทของเรา เราชี้แจงมาหลายครั้งแล้วว่า การยุติบทบาทของเราจริงๆ แล้ว เป็นการเพิ่มพลังให้กลุ่มอื่นๆ ซึ่งรอดูท่าทีรีรอดู
อีกประการหนึ่ง พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็ต้องยอมรับว่า เราอะไรก็ตามเกิดขึ้นในสังคมไทย เราจะแอ่นอกรับหมด รับจนกระทั่งเรากลายเป็นเครื่องมือของหลายฝ่าย หลายครั้งคนเหยียบศพเราไปขึ้นมีอำนาจทางการเมืองเราไม่ว่ากัน แต่มาถึงวันนี้แล้ว ในขณะซึ่งเราประท้วงก็ต้องมีคนชอบเรา และไม่ชอบเราเช่นกันนะครับ เราก็เลยคิดว่า ถ้าอย่างนั้นแล้ว เผือกร้อนที่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเราไปรับหมด ไปโยนให้คนอื่นบ้าง เราปฏิเสธที่จะรับแล้ว ในที่สุดนั่นคือที่มาของคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ หลังจากที่ผมชี้แจงให้ฟังหลายครั้งแล้วว่า ให้เขาออก ให้พรรคประชาธิปัตย์ลาออก วันนี้ทุกอย่างที่คุณสุเทพทำ ทำตามที่ผมบอกหมดทุกประการ แม้กระทั่งการพูดการจาทุกวันนี้ ก็พูดเหมือนที่ผมพูด คุณสุเทพติดอยู่เรื่องเดียวที่ไม่ยอมแตะเลยแม้แต่นิดเดียวนั้นคือ ปฏิรูปพลังงาน ซึ่งทุกคนก็สงสัยว่าทำไมถึงคุณสุเทพจะไม่ให้เครดิตผม จะไม่ขอบคุณเอเอสทีวีไม่เป็นไรผมไม่ถือสา ผมถือว่าคุณสุเทพทำหน้าที่ดีแล้ว นอกจากไม่ถือสาแล้ว ผมยังเป็นห่วงเหตุการณ์ ณ วันนี้ ผมเป็นห่วงความปลอดภัยของคุณสุเทพ ผมอยากให้คนที่ดูแลคุณสุเทพ ให้ดูแลและระมัดระวังคุณสุเทพอย่างชัดเจน เพราะว่าการเปลี่ยนกระบวนการใหม่ ในการต่อสู้กับประชาชนครั้งนี้ เป้าหมายจริงๆ คือ การฆ่าคุณสุเทพ ผมยืนยันได้นะครับ ทำไมผมถึงพูดอย่างนี้ได้ เดี๋ยวผมจะเล่าหลักการก่อน แล้วค่อยอธิบายองค์ประกอบต่างๆ นะครับ
ทักษิณ ชินวัตร แน่นอนที่สุดเขาอำมหิตมากที่เขาใช้น้องสาวเขามาตายแทนเขา แต่ความเป็นพี่เป็นน้องก็ยังมีอยู่ ทำไมเอกยุทธ อัญชัญบุตรถึงตาย เพราะเอกยุทธ อัญชัญบุตร เป็นคนไปเปิดประเด็นเรื่องโฟร์ซีซั่นส์ และยังไปขู่อีกว่ามีคลิปสวาทที่หมู่เกาะมัลดีฟที่พร้อมจะเปิดเผย และมีอีกข้อมูลอีกหลายข้อมูล นั่นคือการที่พูดออกไปเช่นนั้นเท่ากับเป็นการเซ็นใบมรณบัตรให้ตัวเอง และเราก็รู้ว่า ทักษิณว่า คุณเอกยุทธตาย ทั้งที่เราก็รู้ว่าฝีมือใคร ใครเป็นคนทำ คนที่ได้ดีเพราะพี่ให้เป็นคนสั่งการหมดทุกอย่างนะครับ แต่ไม่เป็นไรพัฒนามาเรื่อยๆ สังเกตได้อย่างหนึ่ง ตั้งแต่คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ประกาศจับตัวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตรงจุดนั้นแหละคือการตัดสินใจที่เปลี่ยนว่า จะต้องเล่นแรงกับคุณสุเทพ เทือกสุบรรณให้ได้นะครับ แต่การซึ่งจะเข้าไปจับคุณสุเทพ หรือจัดการคุณสุเทพไม่ใช่เป็นเรื่องง่าย
เพราะฉะนั้นแล้ว การที่จะต้องใช้การสนธิกำลังทุกอย่าง ตลอดจนเอาอำนาจทางกฎหมายมาเพิ่มเติมให้ เผื่อมีการปะทะกัน ลูกปืนหลุดไปหลงไปโดนคุณสุเทพ การขว้างระเบิดที่บรรทัดทอง และหลายๆ จุดนั้น เป้ามุ่งที่แกนนำทั้งสิ้น ส่วนประชาชนจะตายหรือไม่ตายนั้นช่างมัน และผมยืนยันงานนี้ตำรวจอยู่เบื้องหลังทั้งหมด คนที่ทำเป็นมือตำรวจทั้งสิ้น อาวุธที่ทำเอามาจากทางภาคใต้ทั้งสิ้น
เพราะฉะนั้นแล้ว ผมกำลังจะวิเคราะห์ให้ฟังว่า ผมเคยวิเคราะห์ผ่านเฟซบุ๊กของอาจารย์ปานเทพ ผมบอกจากนี้ไปอะไรจะเกิดขึ้น ผมบอกจะมีการเล่นแรงขึ้น มากขึ้นๆ เพราะว่าทักษิณ ชินวัตรเป็นคนที่ข้อที่ 1 แพ้ไม่เป็น ข้อที่ 2 เป็นคนซึ่งเมื่อแพ้ไม่เป็นแล้ว ถ้ากูไม่ได้มึงก็อย่าได้ด้วย นี่คือนิสัยเขา แต่ไหนแต่ไรแล้วเขาเป็นคนอย่างนี้นะครับ ถ้าทักษิณ ชินวัตร ถือไพ่เหนือกว่าทุกคน วันนี้จะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เขาจะนั่งเฉยๆ ใครอยากทำอะไรทำไป แต่เนื่องจากว่าการสู้ในสภาฯ เขาจบแล้ว เขาสู้ไม่ได้แล้ว และการเลือกตั้งเขาก็รู้ว่า เลือกตั้งเสร็จวันที่ 2 แล้ว เขาก็เปิดสภาฯ ไม่ได้ แต่ทำไมเขาต้องผลักดันในการเลือกตั้ง เพราะเขาต้องการจะสร้างเครดิตในการเลือกตั้งในทางสากล เพื่อสอดคล้องกับสิ่งที่น้องสาวเขาพยายามจะพูดด้วยการ ได้คำปรึกษาจากที่ปรึกษาว่า ดิฉันออกมาปกป้องประชาธิปไตย ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่เข้าใจประชาธิปไตยคืออะไร แต่ตัวเองเป็นนกแก้วนกขุนทองพูดออกไปเรื่อยๆ ตรงนี้
เพราะฉะนั้นแล้ว การผลักดันให้เกิดการเลือกตั้งคือ การสร้างเครดิตให้กับตัวเองในทางสากล แต่ในทางลึกเขารู้ว่า เขาแพ้หมด ศาลรัฐธรรมนูญชี้มูลตั้งไม่รู้กี่เรื่อง คือพูดง่ายๆ ว่า เขาจะผลักดันประการแรก เขาจะผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษสุดซอยให้เขาแต่คนเดียวนั้น เขาทำไม่ได้จบแล้ว ในการที่จะทำเช่นนี้ พอเขาถอนออกมาแล้ว เขาถอน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมทุกอันเลย เขาถอนเฉพาะของเขา และยังคงอยู่ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเฉพาะกลุ่มเสื้อแดงที่ติดคุก เขาก็ยังพอได้ใจเสื้อแดงด้วย วันนี้เสื้อแดงเขาก็ไม่ได้ใจ เพราะเสื้อแดงเริ่มรู้แล้วว่า ทักษิณเอาตัวเองรอดแต่คนเดียว 2.เขาเปลี่ยนแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อให้ที่มาของ ส.ว.มาเป็นสภาผัวเมีย เพราะเขาต้องการกระชับอำนาจ เขาไม่อยากจะเห็นหน้า 40 ส.ว. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณรสนา คุณคำนูณ สิทธิสมาน หรือ ส.ว.ไพบูลย์ นิติตะวัน เขาไม่อยากเห็นหน้าคนพวกนี้ เพราะคนพวกนี้รู้ทันเขา
เพราะฉะนั้น เขาอยากจะเป็น ส.ว.ที่เป็นน้ำหนึ่งเดียวกันกับเขา และเขาอยากให้ ส.ว.เลือกองค์กรอิสระ โดยที่ไม่มีค้าน โดยที่ไม่มีใครขุดคุ้ย ถึงแม้ว่า ณ วันนี้เสียงของ ส.ว.ส่วนใหญ่เขาชนะอยู่ แต่ว่าเนื่องจากมีอยู่ 40 คน ซึ่งเป็น 40 คน ซึ่งผนังทองแดงกำแพงเหล็กที่เขาเจาะเข้ายาก เขาเลยต้องการที่จะล้มระบบ ส.ว.แต่งตั้ง เขาพลาดไปแล้ว เขาทำไม่ได้แล้ว อันที่ 3 ทั้งหมดที่เขาสู้มาทุกวันนี้ เขาให้น้องสาวเขาทำ เพียงเพื่อที่จะให้เขายกประเทศ และขายประเทศให้กับต่างชาติ โดยที่ประชาชนคนไทยไม่มีสิทธิ์ได้รับรู้ ยกสัมปทานน้ำมันให้ เจรจาเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา เพื่อให้เอื้อประโยชน์กัมพูชา กัมพูชาจะได้เอื้อประโยชน์ในเรื่องของน้ำมันให้เขานะครับ โดยที่ไม่ต้องผ่านสภาฯ เขาก็ทำไม่ได้อีกแล้ว เงินที่เขาต้องการที่จะใช้จากการคอร์รัปชัน 2 ล้านล้าน ก็มีแนวโน้มจะไม่ได้อีก เสร็จเรียบร้อยมิหนำซ้ำยังโดน ป.ป.ช.ชี้มูลในเรื่องความผิดการจำนำข้าว มาวันนี้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ก็ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนไปจ่ายเงินจำนำข้าว จะไปเอาเงินทางออมสิน นายวรวิทย์ กรรมการผู้จัดการออมสิน ซึ่งเป็นเด็กของ นายวราเทพ อยากจะให้ใจแทบขาด แต่บอร์ดออมสินไม่ยอมติดคุกด้วยก็ปฏิเสธ ออมสินก็ถูกปิดประตู ธ.ก.ส.ก็ปิดประตูเช่นกัน
รัตน์ติกรณ์ - พนักงานไม่ยอม
สนธิ - พนักงานไม่ยอม ก็เหลือข่าวออกมาบอกว่า สั่งให้เฉลิม อยู่บำรุง สั่งให้เอาเงินประกันสังคมออกมา ปลัดกระทรวงฯ ก็ไม่ยอม คนซึ่งเป็นกรรมการก็ไม่ยอม ประธานสหภาพแรงงานทุกคนไม่ยอมหมด เพราะว่าเงินนี้เป็นเงินประกันสังคมก็เอามาจำนำข้าวได้อย่างไร สรุปแล้วทุกเรื่องที่ผมไล่มาแต่ละเรื่อง ทุกอย่างพังทลายหมดแล้ว เขาไม่มีทาง ตลอดจนเลือกตั้งสภาฯ ก็เปิดไม่ได้ และเขารู้ว่าวุ่นวาย แต่สิ่งเดียวที่เขาทำได้ และเขารอดมาตลอดเวลา นั่นก็คือการซึ่งเขาได้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นพวกเขา เพราะว่าคำพูดที่อยู่ในคลิปถั่งเช่า ซึ่งในเว็บไซต์ผู้จัดการลง ซึ่งมีคนดูล้านคนระบุชัดเจนว่าไอ้ตู่ไว้ใจได้ ไว้ใจตู่มาก คนอย่างทักษิณจะมาไว้ใจประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้อย่างไร ถ้าประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ได้รับปาก หรือทำอะไรให้ทักษิณเห็นเขาจะไม่มีวันพูด
เพราะฉะนั้นผมฟันธงได้ว่า ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับทักษิณ ชินวัตร จับมือกัน จับมือกันตลอด ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เลยไม่กล้าทำหน้าที่ที่ตัวเองต้องทำ ไม่กล้าทำเลยแม้แต่นิดเดียว หลบ หลีก เลี่ยง แต่ประยุทธ์ จันทร์โอชา วันนี้ เป็นประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่น่าสงสารและน่าสมเพชที่สุด น่าสงสารตรงที่ว่า ตัวเองอยู่ในสภาพที่ไม่รู้จะทำยังไง จะมาทางสุเทพ ก็กลัวทักษิณโกรธ เพราะตัวเองไปมีอะไรกับทักษิณบ้าง ไม่มีใครรู้ แต่ว่าความใกล้ชิดสนิทสนมมีมาก มากจนผิดปกติ ในขณะเดียวกัน จะเข้ามาทางยิ่งลักษณ์มากจนเกินไป ก็โดนสังคมจับตาดู แล้วคนก็จะถามว่า เฮ้ย คุณเป็นผู้บัญชาการทหารบก อดีตทหารเสือราชินี ยังเป็นทหารเสือราชินีอยู่ คุณไม่มั่นคงต่อสถาบันกษัตริย์ได้ยังไง ก็เลยทำอะไรไม่ถูกเลยแม้แต่นิดเดียว ก็เลยได้แต่พลิ้วไปพลิ้วมา มัวแต่เต้นชะชะช่าอยู่นั่น ไปซ้ายที ไปขวาที จนกระทั่งตัวเองหลายครั้งสับสนกับตัวเอง น่าสมเพชตรงไหน ตรงที่ว่าไม่รู้จักหน้าที่ตัวเอง การที่ตัวเองลงไปใต้ แล้วตัวเองไม่เข้าร่วม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เหตุผลก็ง่ายนิดเดียว ก็คือพูดง่ายๆ ว่า ไม่ต้องการที่จะทำให้ฝ่ายประชาชนเข้าไปร่วมด้วย แต่ในขณะเดียวกัน หนีลงไปใต้เลย เหมือนกับบอกทั้งทักษิณและฝ่ายลูกน้องตัวเอง และฝ่ายประชาชนว่า เฮ้ย ผมไม่เกี่ยวนะ ผมไม่ยุ่งนะ ใครจะทำอะไรทำไป
รัตน์ติกรณ์ - เอาตัวรอดสิคะ
สนธิ - เอาตัวรอด คุณประยุทธ์เป็นคนที่เอาตัวรอดมานานแล้ว คุณประยุทธ์ไม่เคยรบ คุณประยุทธ์ได้ดีมาเพราะเป็นทหารเสือพระราชินี ได้รับการส่งเสริมจากองค์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งพระองค์ท่านเสียพระทัยมาก เกี่ยวกับบทบาทคุณประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะฉะนั้นแล้วคุณประยุทธ์ จันทร์โอชา วันนี้กำลังเลียนแบบ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา กำลังคิดว่าประคองไปหน่อย ดูรุ่นพี่สิ ประคองไป เกาะสมัคร สุนทรเวช ตอนที่เราชุมนุมประท้วง ชุมนุมรัฐสภา ประชาชนถูกแก๊สน้ำตาตำรวจยิงตายเกือบ 10 ศพ พิการหลายสิบคน บาดเจ็บเป็นร้อย คุณอนุพงษ์ เผ่าจินดา ทำได้อย่างเดียวคือ เอาทหารถือโล่หวาย ถือกระบองออกมาป้องกัน บอกผมทำหน้าที่ผมแล้วนะ
มีคนถามถึงความจงรักภักดีที่มีต่อสถาบันกษัตริย์ คุณอนุพงษ์ก็พูดบอกว่า ผมไม่มีความเห็น แล้วคุณอนุพงษ์ก็จบลงด้วยการเกษียณอายุสบายๆ เป็นประธานของทรูวิชั่นส์ ของนายธนินทร์ เจียรวรานนท์ ซึ่งวันนี้นายธนินทร์ เจียรวรานนท์ ก็เชียร์ทักษิณเต็มที่ เชียร์ 2 ล้านล้าน เชียร์โน่นเชียร์นี่ คล้ายๆ ว่าทุกคนแทงม้าไปที่ทักษิณหมดเลย คุณประยุทธ์เป็นรุ่นน้องเตรียมทหารรุ่น 12
รัตน์ติกรณ์ - เห็นตัวอย่าง
สนธิ - เห็นตัวอย่างไว้แล้ว ถ้ากูประคองไปเรื่อยๆ ประคองไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเกษียณ อีก 8 เดือนเกษียณนี่ กันยายนนี้เกษียณแล้ว ก็กำลังฝันหวานถ้าเกษียณแล้วก็จะได้ไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุข มีเงินมีทอง ซึ่งอาจจะเก็บไว้ตรงไหนก็ได้ ไม่รู้ เดินทางไปต่างประเทศ ไปซื้อบ้านที่ลอนดอน ไปซื้อบ้านที่โน่น สร้างบ้านให้ลูกราคาแพงๆ มีความสุข ไม่ต้องเสี่ยง เพราะการปกป้องสถาบันกษัตริย์ ปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นงานที่เสี่ยง และอีกประการหนึ่ง ก็รับปากทักษิณ ชินวัตร ไปแล้ว
รัตน์ติกรณ์ - นี่คือมุมของเขานะคะ ที่เขามองว่านี่คืองานเสี่ยง แต่นี่คือหน้าที่เขาที่เขาควรทำ
สนธิ - นี่คือที่ผมสมเพชไง นี่คือความสมเพชที่ผมบอก เขาไม่รู้หน้าที่ของเขา จนกระทั่งผมฟัง พล.ร.ต.วินัย กล่อมอินทร์ ผมถึงเห็นว่า ไม่ได้ วันนี้ต้องมาออก อธิบายให้ฟัง อีกคนหนึ่งซึ่งต้องพูดถึง คือ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร เราไม่ได้พูดถึงคนคนนี้เลย คนคนนี้เป็นทหารที่ใช้ไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว สมัยก่อนเป็นคนที่ใกล้ชิดกับสมเด็จพระนางเจ้าฯ มาก เดินไปไหน เวลาสมเด็จพระนางเจ้าฯ เสด็จพระราชดำเนิน สังเกตมั้ย พระองค์ท่านเอามือเกาะแขน แขนนั้นคือแขนของ พล.อ.ธนะศักดิ์ แต่ พล.อ.ธนะศักดิ์ หลังจากคลิปถั่งเช่าออกก็พิสูจน์ชัดเจนว่า พล.อ.ธนะศักดิ์ ตอนนั้นเทตัวเองมายืนข้างทักษิณ ชินวัตร เป็นได้ทุกอย่าง ออกมาปกป้องรัฐบาลชุดยิ่งลักษณ์ ไม่มีศักดิ์ศรีความเป็นทหาร ออกมาบอก ทหารไม่มีวันปฏิวัติ คุณติ คุณไม่ต้องปฏิวัติหรอก คุณเพียงแต่แสดงออกว่าคุณไม่เห็นด้วยกับวิธีการ ประยุทธ์ จันทร์โอชา แสดงออกว่าไม่เห็นด้วยกับวิธีการ แค่นี้ ผมคิดว่าหลายเรื่องจากแรงมันก็จะกลายเป็นเบาไป แต่คุณนอกจากไม่แสดงออกแล้ว คุณยังจะไปสนับสนุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์เงียบไป สังเกตมั้ย คนที่พูดแทนประยุทธ์ คือธนะศักดิ์ จะเกษียณเหมือนกัน นักเรียนเตรียมทหารรุ่น 12 เหมือนกันหมด ไม่รู้ว่าอะไรยัดปากอยู่ หรือมีอะไรอยู่ เสียดาย ตัวเขานี่ เขาไม่ต้องปฏิวัติหรอก เพราะเขาไม่มีกำลัง เขาเป็นแค่ผู้บัญชาการทหารสูงสุด แต่ทำงานครั้งสุดท้ายเผื่อฟลุก อาจจะได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าใจหรือยัง
รัตน์ติกรณ์ - ก็คือจากคลิปถั่งเช่า ที่เป็นตัวบ่งบอกให้รู้ว่าถ้าทำอะไร จะมีอนาคตยังไง
สนธิ - ทักษิณจะเป็นอย่างนี้ อดีตอธิบดีสรรพากร ก่อนเป็นอธิบดีสรรพากร เป็นรองอธิบดี ถูกสั่งว่าถ้าแก้ปัญหาเรื่องภาษีได้ ให้กับตระกูลชินวัตร จะได้เป็นอธิบดี แล้วก็ได้เป็นจริงๆ ทักษิณนี่เวลาตั้งตำรวจ กับทางด้านคุณสุเทพตั้ง ไม่เหมือนกัน สมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลตั้งตำรวจ มีผลประโยชน์ ใครอยากเป็นอะไร ต้องเสียเงิน ตำรวจก็เลยมองว่าไม่ได้เป็นหนี้อะไรกับพรรคประชาธิปัตย์ ผมจ่ายเงินคุณไปแล้วนี่ แต่ทักษิณ แค่ไปที่ฮ่องกง ไปกราบเท้ากราบตีน มันก็เลยมีวันนี้เพราะพี่ให้ เพราะพี่ให้จริงและพี่ไม่เรียกเงิน แต่พี่บอกว่า เฮ้ย เป็นแล้วต้องทำนี่ให้พี่นะ พวกนี้พอได้เป็น ถึงทำกัน เหมือนกับชุดนี้ ล่าสุด เขาเอา พล.ต.ต.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ลูกชายของ พล.ต.อ.แสวง ธีระสวัสดิ์
รัตน์ติกรณ์ - อดีตอธิบดี
สนธิ - อดีตอธิบดีกรมตำรวจ ซึ่งเป็นรองผู้บัญชาการอยู่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีรองผู้บัญชาการอยู่ 3 คน คนหนึ่งคือสุชาติ อีกคนหนึ่งชื่อ พล.ต.ต.สมศักดิ์ ซึ่งเป็นอดีตผู้การจังหวัดเชียงใหม่ ตอนนี้ก็เป็นฝ่ายทักษิณเต็มตัว อีกคนหนึ่งผมจำชื่อไม่ได้ เอาขึ้นมาแลกกับตำแหน่ง คือตั้งเป็นผู้บัญชาการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นยศพลตำรวจโท และผมจะบอกให้รู้ ระเบิดที่ระเบิดอยู่ทุกวันนี้ อาวุธปืนที่มา มาจากภาคใต้ทั้งสิ้น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำไมมาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น การเบิกคลังอาวุธออกมา เบิกอาวุธออกจากคลังนั้น จำหน่ายศูนย์ได้ เอาไปใช้ไง เอาไปใช้สู้ผู้ก่อการร้ายไง ใช้หรือไม่ใช้ ไม่มีใครรู้ ข่าววันนี้ถึงออกมาว่าจับได้ 23 ลูก ตำรวจกำลังถูกจับตาดู ชุดดำที่อยู่บนเพดาน อยู่บนดาดฟ้าของอาคาร สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง นั่นเป็นตำรวจจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แล้วก็หน่วยซีล ที่ถูกตำรวจจับได้ เพราะเป็นการติดตามและสืบข่าวจากลูกน้องของ พล.ต.ท.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ พี่ชายเขาคือ พล.ต.ต.สกลรัฐ ธีระสวัสดิ์ ซึ่งเปลี่ยนชื่อไปแล้ว ผมจำไม่ได้ พี่ชายเขา พอขึ้นไปเป็นรองผู้บัญชาการภาค 5 ก็วิ่งเต้น เกาะนายเฉลิม อยู่บำรุง เพื่อจะได้รับแต่งตั้ง และวิ่งเข้าหาคุณเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ วิ่งเข้าหาพวกนี้ ขนาดที่เรียกว่าใกล้ชิด พยายามรับใช้ จนกระทั่ง ผมนะรู้จักพ่อเขา รู้จักเขาตั้งแต่เขาเป็นร้อยตำรวจโท พอมีคนคนหนึ่งเจอเขาที่แม่สาย ถามบอกว่า เจอพี่สนธิบ้างหรือเปล่า เขาพูดยังไงรู้มั้ย เขาบอกผมไม่คบแล้วคนคนนี้
รัตน์ติกรณ์ - เขาพูดประโยคนี้เลย
สนธิ - เขาพูดประโยคนี้เลย เพราะเขากลัว เขากลัวว่า ความที่เขารู้จักผม จะทำให้เขาไม่มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน คนพวกนี้เป็นคนที่น่าสมเพช ต้องการที่จะได้รับยศฐาบรรดาศักดิ์เพียงเพื่อต้องการที่จะให้ได้ตำแหน่งสูงขึ้น แล้วเขาสั่งทำอะไรจะทำหมด เพราะฉะนั้นแล้ว นี่คือที่มา นายเฉลิม อยู่บำรุง ขึ้นมาเป็นหัวหน้าดำเนินการในเรื่อง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
รัตน์ติกรณ์ - ผอ.ศรส.
สนธิ - คนที่เป็นที่ปรึกษา ชื่อ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา คนพวกนี้ไม่ใช่เป็นนักรบ คนพวกนี้เป็นนักสืบ เป็นนักสืบ ลูกน้องเขาอุ้มฆ่า เพราะฉะนั้นแล้ว วันนี้ที่เขาประกาศออกมาอย่างนี้ ผมฟันธงได้ก่อนเลยทันทีว่า เพื่อจะฆ่าสุเทพ เทือกสุบรรณ โดยไม่ผิดกฎหมาย คุณคอยดู ระเบิดใส่ตูม เขาบอก เขามารักษาความสงบเรียบร้อย คำถามคือ คนรอบตัวคุณสุเทพ จะสู้ไหมสู้ ถ้าคนรอบตัวคุณสุเทพสู้ ก็ต้องยิงสวนกัน พอยิงสวนก็สร้างความชอบธรรม และทางใต้ ตำรวจชายแดนภาคใต้ขนรถหุ้มเกราะขึ้นมานะ เอามาเพื่อยันทหาร วันนี้ เป็นสงครามระหว่างทหารกับตำรวจ เมื่อผมพูดถึงทหาร ผมต้องตัดประยุทธ์ จันทร์โอชา ทิ้งไป วันนี้ คุณประยุทธ์ จันทร์โอชา สั่งลูกน้องตัวเองไม่ได้ ขอให้เชื่อผม คุณประยุทธ์จะพูดยังไงก็ตาม แต่ลูกน้องมีความรู้สึกอับอายขายหน้ามาก
ด้วยเหตุนี้ คำพูดของ พล.ร.ต.วินัย กล่อมอินทร์ ถึงมีความสำคัญมาก คำพูดที่ว่า ผมเป็นทหารของพระเจ้าอยู่หัว ผมเป็นทหารของประเทศไทย ผมเป็นทหารของประชาชน ชัดเจน และผมจะบอกให้รู้ว่า พล.ร.ต.วินัย กล่อมอินทร์ จะพูดอย่างนี้ไม่ได้ ถ้าผู้บัญชาการทหารเรือไม่เอาด้วย และผู้บัญชาการทหารเรือเอาด้วยเพราะเหตุใด คิดกันเอาเอง แต่วันนี้ ทหารเตรียมที่จะประจันกับตำรวจ เพราะว่าทักษิณจะใช้ตำรวจขวางทหาร ถ้าต้องสู้กันก็จะสู้ เพราะทักษิณต้องการให้มีการสู้รบตบมือกันให้มันนองเลือด ถึงจะแพ้และหนีไปอยู่กับฮุน เซน ก็ให้บ้านเมืองมันสลักหักพัง นี่คือสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่เป้าแรกที่้ต้องทำคือ ต้องฆ่าสุเทพก่อน
เพราะฉะนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นชายชุดดำที่ไปยิงที่นู่นยิงที่นี่ เชื่อผม ฝีมือตำรวจทั้งนั้น ไอ้ตำรวจรู้จักหมด ชายชุดดำก็พวกมึงทั้งนั้นแหละ ไอ้โกตี๋นี่กอดคอกับคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง คำรณวิทย์เลี้ยงดูมันตั้งแต่สมัยคำรณวิทย์ยังเป็นผู้การ จ.ปทุมธานี เพราะฉะนั้นแล้ว วันนี้คุณกำลังจะเริ่มเห็นการปะทะกันระหว่างตำรวจกับทหาร ขึ้นอยู่กับว่าเมื่อคุณรังแกประชาชนแล้วทหารจะออกไหม ผมภาวนาเช้าภาวนาเย็น ขอให้ทหารเข้ามายึดอำนาจ ผมไม่ขัดข้อง เพราะอะไร เพราะชาติบ้านเมืองมันชั่วมาก ชั่วช้ามาก ยึดอำนาจ หรือปล่อยให้พวกชั่วช้ามันปกครองอยู่ ตำรวจเลวๆ ทั้งหมดปกครองอยู่ ไม่ได้ต่างอะไรกัน เพียงแต่การยึดอำนาจยังจะดีกว่า ตรงที่ว่า เมื่อยึดแล้วถวายอำนาจคืนพระเจ้าอยู่หัวเลย และบอกพระองค์ท่าน บอกข้าพระพุทธเจ้า หัวหน้าการปฏิวัติขอมอบอำนาจในการแต่งตั้งผู้คนมาบริหารชาติบ้านเมืองให้กับประเทศไทย ทหารอย่าตั้งเอง อย่าคิดว่าต้องเอา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เอานู่นมา อย่าไปคิด จัดการสำรวจความเรียบร้อย ปราบปรามคนที่ทำร้ายประชาชน ผิดกฎหมายให้หมด ไม่ผิดได้ยังไง ทุกอย่างรู้หมด คุณจู่ๆ บ้านเมืองเราวันนี้ ไม่ยิ่งกว่า ยิ่งกว่าไม่มีขื่อไม่มีแป บ้านป่าเมืองเถื่อน ตำรวจที่เราจะพึ่ง เราก็พึ่งไม่ได้ ทหารบกที่เราควรจะพึ่ง ข้างล่างเงียบกริบ พูดไม่ออก เพราะนายเป็นอย่างนี้ นายเป็นคนที่น่าสมเพช มีทหารเรือฝ่ายเดียว
ผมเคยศึกษา ผมงง สมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช คนที่ดูแลความปลอดภัยคือทหารเรือ แล้วพระองค์ท่านลงไปที่วังไกลกังวล หน่วยรักษาความปลอดภัยพระองค์ท่านทั้งหมดเป็นทหารเรือทั้งสิ้น ทหารบกหายไปไหน ผมว่าคุณประยุทธ์ต้องอายเรื่องนี้ ต้องอายมาก แล้วผมคิดว่าทหารระดับล่างต้องรู้ว่าประชาชนไม่ได้ว่าอะไรคุณ แต่นายคุณต้องแสดงจุดยืน คุณประยุทธ์เอาใจทักษิณ ไม่อยากจะทำให้คุณสุเทพเสียใจ ในขณะเดียวกันตัวเองรักษาภาพ ไม่มีปฏิวัติๆ ไม่จริง วันนี้ พล.ร.ต.วินัย พูด ทำให้ผมมองย้อนกลับไปปี 2549 ผมนึกถึงใครรู้มั้ย พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร สมัยนั้น สนธิบัง ซึ่งวันนี้เละไปหมดแล้ว เป็นบังเละไปแล้ว ไม่พูดออกมาต่อต้านทักษิณ นั่งเงียบๆ แต่คนซึ่งออกมาซัดระบอบทักษิณ คือ พล.ท.สพรั่ง กัลยาณมิตร แม่ทัพภาค 3 ตอนนั้น เหมือนกัน วันนี้ ผบ.ซีลออกมา ชัดเจน ไม่ต้องแปล และคราวนี้ท่านพูดบอกว่ามีกองกำลังเขมรมา ท่านพูดได้เจ็บใจมาก เพราะว่าทหารบางส่วน และตำรวจส่วนใหญ่รู้เห็นเป็นใจที่ให้ไอ้พวกนี้ขนกำลังจากเขมรมา ไอ้พวกนี้ไปฝึกมา เพราะฉะนั้นพวกนี้เป็นพวกที่ทำร้ายประเทศไทยหมดทุกอย่าง ผมจะให้จับตาดู การเปลี่ยนแปลงใกล้จะมาแล้ว และผมจะบอกให้รู้ วันนี้ทั้งยิ่งลักษณ์เตรียมตัวหนีออกนอกประเทศ เฉลิม อยู่บำรุง ทำซ่าอย่างนี้ แต่เตรียมตัวถอยแล้ว ปุ๊บปั๊บๆ รับรองหนีทันทีเลย คนพวกนี้ หลายคนเตรียมตัวหนีออกต่างประเทศ มีเงินมีทองทิ้งไว้ที่ต่างประเทศเยอะแยะไปหมด นักการเมืองส่วนใหญ่ อย่างที่สำนักข่าวเอเอฟพีเขียน เป็นคนที่ขี้โกง โกงชาติ โกงบ้านโกงเมือง เพราะฉะนั้นแล้ว พวกนี้จะพูดบอกว่า ประชาธิปไตยคือการเลือกตั้ง เราต้องไม่ยืนยันในการเลือกตั้ง แต่เราต้องบอกว่า ประชาธิปไตยมีหลายรูปแบบ การมีส่วนร่วมของประชาชนคือรูปแบบหนึ่ง ที่สำคัญที่สุด ประชาธิปไตยคือประโยชน์ส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ประโยชน์เฉพาะตระกูลชินวัตร หรือทักษิณ หรือพวกเขา ประชาธิปไตยบ้าบอคอแตกอะไร มีน้องสาวเป็นนายกฯ ตัวเองสั่งการอยู่เมืองนอก คนจะเป็นตำรวจ เป็นพลตำรวจโท พลตำรวจเอก ต้องไปกราบตีนที่ฮ่องกง พวกนี้อายแก่ใจตัวเองบ้างหรือเปล่า ละอายแก่ใจตัวเองบ้างหรือเปล่า แล้วก็รังแกประชาชน เอาระเบิดมาขว้างบ้าง เอาปืนมายิงบ้าง แล้วคอยดูจะแรงมากกว่านี้อีก
กองบัญชาการเขาอยู่ชั้น 20 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีหมดเลย ภาพผ่านดาวเทียมมา ประชุมโน่นประชุมนี่ สั่งโน่นสั่งนี่ ท่าน พล.ร.ต.วินัย ท่านพูดถูก ตำรวจปิดหูปิดตาไว้ทำไม ไม่เห็นหรือว่าขนคนเข้ามา ตำรวจรู้ ตำรวจไทยมันคบกับโจร ถ้ามันจะทำงาน มันทำได้หมด แล้วพอมันจับ มันจำเป็นต้องจับ มันก็จับของมา แล้วหลังจากนั้นผู้ต้องหาเงียบหายเลย เห็นมั้ย สังเกตหรือเปล่า ที่ไปยิงบ้านอภิสิทธิ์ จำได้มั้ย จับมาได้ 3 คน และผู้หญิง 1 คน ตอนจับนี่ของเต็มหมดเลย ทั้งอาวุธปืน ทั้งระเบิด ไปๆ มาๆ กลายเป็นเหลือแค่ 1-2 ชิ้น แล้วเงียบ ไม่มีการอธิบายว่าดำเนินการอะไรบ้าง อดุลย์ แสงสิงแก้ว พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว คนไม่รู้ อดุลย์ แสงสิงแก้ว นี่คนของใคร ให้คุณทาย วิระยา ชวกุล สนิทสนมกันมาก เป็นคนดูแล และวิระยา ชวกุล วันนี้ยืนข้างทักษิณเต็มตัว 100 เปอร์เซ็นต์ ผมไม่เรียกท่านผู้หญิง เพราะยัยคนนี้ไม่มีคุณสมบัติพอที่จะใช้คำว่าท่านผู้หญิงที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระราชทานให้ เป็นคนใช้ไม่ได้ วิระยา เป็นคนของอดุลย์ แสงสิงแก้ว อดุลย์ แสงสิงแก้ว วันนี้จะเกษียณ เดือนกันยายนนี้ เหมือน ผบ.ทบ. เหมือน ผบ.สูงสุด เฮ้ย ทำไง ปีสุดท้าย ยังไง รักษาตัวไว้
รัตน์ติกรณ์ - เลี้ยงตัวเองไว้
สนธิ - เลี้ยงเอาไว้ แล้วผลประโยชน์ได้หมด มีน้องสาวคนหนึ่งทำงานอยู่การบินไทย เป็นหัวหน้านายสถานีทั่วประเทศไทย ทั่วโลก มีสิทธิ์จะตั้งคนโน้นคนนี้ไป มีน้องสาวอีกคน ได้สัมปทานรถที่นั่งในสนามบิน ที่เดินทางจากประตูมาลงสนามบินสุวรรณภูมิมันไกล ผูกขาดอยู่เจ้าเดียว บริษัทสายการบินอื่นที่เขาเคยใช้รถเขาบริการผู้โดยสารเขา ห้ามไม่ให้หมด ให้ใช้เฉพาะจากรถคนนี้ ปรากฏว่าเจ้าของบริษัทเป็นน้องสาวอดุลย์ แสงสิงแก้ว แต่ผมจะเตือนสติคนพวกนี้เอาไว้ ทุกคน ไม่ว่าจะอดุลย์ แสงสิงแก้ว ไม่ว่าจะสกุลธีระสวัสดิ์ ไม่ว่าจะเป็นเฉลิม อยู่บำรุง
หลวงตามหาบัว เคยบอกผม ท่านบอกว่า สนธิ เงินทักษิณมันคือไฟบรรลัยกัลป์ ใครได้เงินมันไป จะต้องฉิบหายกันทั้งหมด ทั้งตระกูล หมดทุกๆ คน คุณติ
รัตน์ติกรณ์ - เพราะฉะนั้นแล้ว วันนี้ทำให้เราได้เห็นภาพที่มันชัดมากขึ้น
สนธิ - ถูกต้อง
รัตน์ติกรณ์ - มองสถานการณ์แล้วก็รู้ว่า แต่ละคนที่ทำอยู่ ทำร้ายทำลายประชาชน ทำลายชาติบ้านเมือง ล้วนแล้วแต่มันก็เชื่อมโยงกับความเหี้ยมโหดอำมหิตของทักษิณ ชินวัตร ทั้งนั้น
สนธิ - ถูกต้อง
รัตน์ติกรณ์ - นี่เป็นจุดหนึ่งที่คุณสนธิอยากจะบอกกับพี่น้องประชาชน คนดูเอเอสทีวี ทั้งพันธมิตรฯ ด้วย ว่า ให้เรามองสถานการณ์กันแบบนี้ และจะมีความเข้มข้นและรุนแรงมากยิ่งขึ้น
สนธิ - มากขึ้น แล้วก็จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงแน่นอน
รัตน์ติกรณ์ - เดี๋ยวเราตามดูสถานการณ์กันจากนี้ไป ขอบคุณคุณสนธิค่ะ
สนธิ - ขอบคุณมากครับ สวัสดีครับ