กกต.ถก มท.หาที่ตั้งหน่วย-กรรมการประจำหน่วย 5 หมื่นให้ครบ ชงแก้ระเบียบให้ตั้งผู้มีสิทธินอกเขตเป็นกรรมการได้ ผู้ว่าฯ สงขลา-สุราษฎร์ คาด 2 ก.พ.เลือกตั้งไม่ได้ กปปส.ปิดล้อม เลขาฯ กกต.ระบุผลตรวจสอบไม่พบบัตรเลือกตั้งถูกทำลาย หลังม็อบไปโรงพิมพ์คุรุสภา อีกด้านยังไม่ได้ข้อยุติปัญหาข้อ กม.28 เขตไร้ผู้สมัคร ขณะเดียวกันเปลี่ยนที่ประชุมฟังคำชี้แจง “โต้ง” คาดใช้เซฟเฮาส์ใน กทม.
วันนี้ (20 ม.ค.) นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ได้ประชุมร่วมกับ นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยตัวแทนเหล่าทัพ กระทรวงศึกษาธิการ ผู้ว่าราชการจังหวัด 15 จังหวัดภาคใต้ และกรุงเทพมหานคร เพื่อหารือเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. 2557
โดยนายภุชงค์ กล่าวรายงานสถานการณ์ภาพรวมปัญหาและความพร้อมทั้งสถานที่และบุคลากร ในการจัดการเลือกตั้งในพื้นที่ 15 จังหวัดที่ขณะนี้เป็นปัญหา ว่า ล่าสุดจนถึงขณะนี้ สำนักงาน กกต.12 จังหวัด ใน 15 จังหวัดภาคใต้ ถูกผู้ชุมนุมกลุ่ม กปปส.ปิดล้อมจนไม่สามารถทำงานได้ แต่มีเพียง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติ เช่นเดียวกับกรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ กกต.ต้องย้ายสถานที่ทำงานไปอยู่ในพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง รวมถึงการจัดหาสถานที่การลงคะแนนเลือกตั้งกลาง ซึ่งจะเป็นการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 26 ม.ค.ที่ได้ย้ายจากศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหาคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง เป็นสนามกีฬาคลองจั่น บางกะปิ
ทั้งนี้ ในการประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ส่วนใหญ่ได้หารือถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในการจัดการเลือกตั้ง พร้อมกับแสดงความกังวลว่าในพื้นที่ที่ไม่มีผู้ลงสมัคร ส.ส. ประชาชนก็จะไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันเลือกตั้งล่วงหน้า และวันเลือกตั้งจริง นอกจากนี้ในหลายหน่วยเลือกตั้งยังไม่มีกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) เพราะมีการขอลาออกไปหลังมีการกดดันจากกลุ่ม กปปส.ซึ่งทางผู้ว่าฯได้ขอประสานกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ดูแลความเรียบร้อยประจำหน่วยเลือกตั้ง 2 คน ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และสุราษฎร์ธานี ยอมรับต่อที่ประชุมว่าอาจจะไม่สามารถจัดการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.นี้ได้ เนื่องจากสถานการณ์การเมืองยังคงขัดแย้งแตกแยก วันเลือกตั้งเชื่อว่าจะมีมวลชนไปขัดขัดขวางการลงคะแนนเลือกตั้งเหมือนกับช่วงการเปิดรับสมัคร ส.ส.ที่ผ่านมา ส่วนผู้ว่าราชการจังหวัดใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็แสดงความเป็นห่วงสถานการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในวันเลือกตั้ง จึงได้ขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร จาก กอ.รมน.เข้าดูแลพื้นที่แล้ว และยังมีความกังวลว่าอาจมีมวลชน กลุ่ม กปปส.เข้าปิดล้อมสถานที่เลือกตั้ง แม้ว่าขณะนี้จะยังไม่มีการส่งสัญญาณ แต่เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน
ด้าน นายบรรจง สุขดี รองปลัด กทม.รายงานว่า กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งของกทม.ยังขาดอีกหลายพันคน เนื่องจากไม่สามารถแต่งตั้งผู้มีสิทธินอกเขตเลือกตั้งเข้ามาเป็นกรรมการประจำหน่วยได้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวนายภุชงค์ ได้รับปากว่าจะนำประเด็นนี้ไปหารือในที่ประชุม กกต.เพื่อแก้ไขปัญหา รวมทั้งเรื่องการขอใช้สถานที่จากภาคเอกชนในการตั้งหน่วยเลือกตั้งที่มีการทำหนังสือขอปฏิเสธในการใช้สถานที่ เพราะเกรงว่าในวันเลือกตั้งจะถูกกลุ่ม กปปส.ปิดล้อม และทำให้สถานที่เสียหาย นอกจากนี้ยังมีเรื่องค่าเช่าเต๊นท์ในหน่วยเลือกตั้งที่ภาคเอกชนขอเพิ่มราคาจาก 900 บาท เป็น 1,500 บาท เพราะเกรงว่าจะเกิดความเสียหายหากมีการปิดล้อมนั้น ก็จะนำไปหารือเพื่อขออนุมัติงบจาก กกต.ต่อไป
ส่วนตัวแทนจากกระทรวงกลาโหม และกองทัพบก ที่ได้เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ กล่าวว่า พร้อมให้ความร่วมมือในการดูแลหน่วยเลือกตั้งในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ในส่วนการใช้พื้นที่อื่นๆ เป็นหน่วยลงคะแนนเลือกตั้ง กองทัพพร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาหากมีคำสั่งลงมา และยังยึดตามแนวทางของผู้บัญชาการทหารบกที่ให้นโยบายว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเว้นกรณีมีคำสั่ง พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าหากตั้งหน่วยเลือกตั้งในพื้นที่เขตทหารอาจจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศโดยเฉพาะในสายตาของสื่อต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม นายภุชงค์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า จากที่ได้รับฟังปัญหาเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้งจากผู้ราชการจังหวัดใน 15 จังหวัดภาคใต้ และกรุงเทพมหานคร ยืนยันว่าแม้ขณะนี้จะยังมีปัญหาในเรื่องของการหากรรมการประจำหน่วยที่หาไม่ได้ 5 หมื่นคน และสถานที่ตั้งหน่วยเลือกตั้งทั้งในการเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ และการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าในและนอกเขตจังหวัด แต่ก็เชื่อว่าจะสามารถจัดหาและดำเนินการจัดการเลือกตั้งได้ ซึ่งตนเองก็ได้ขอให้ทุกกระทรวง ทบวง กรม และเหล่าทัพให้ความร่วมมือ โดยจะนำข้อเสนอที่ให้มีการแก้ไขระเบียบ กกต.ให้สามารถแต่งตั้งกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งนอกเขตเลือกตั้งไปเสนอให้ กกต.พิจารณา หาก กกต.เห็นชอบก็สามารถดำเนินการได้ทันที
ส่วนการปิดล้อมโรงพิมพ์คุรุสภาของกลุ่มมวลชนคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส.ซึ่งเป็นสถานที่พิมพ์บัตรเลือกตั้งนั้น วันนี้ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้งและคณะได้เดินทางไปตรวจสอบแล้ว และไม่พบว่ามีการทำลายบัตรเลือกตั้งอย่างที่ปรากฏเป็นข่าวก่อนหน้านี้ มีเพียงการตัดน้ำ ตัดไฟของโรงพิมพ์ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบบัตรเลือกตั้งว่าอยู่ครบตามจำนวนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ทางโรงพิมพ์คุรุสภา ลาดพร้าว คงจะเป็นผู้ดำเนินการทางกฎหมายต่อไป ซึ่งจะเป็นส่วนความรับผิดชอบของโรงพิมพ์คุรุสภา ลาดพร้าว ตามที่ได้ทำสัญญากับ กกต.ไว้ และขอยืนยันว่า กกต.ไม่ได้มีการพิมพ์บัตรเลือกตั้งเกินถึง 10 ล้านใบ ตามที่เป็นกระแสในโซเชียลเน็ตเวิร์ก
ทั้งนี้ นายภุชงค์ ยังกล่าวด้วยว่า กรณี 28 เขตเลือกตั้งใน 8 จังหวัดภาคใต้ ที่ไม่มีผู้สมัครรับเลือกตั้งนั้น ทางสำนักงาน กกต.ได้มีความเห็นเสนอต่อที่ประชุม กกต.แล้วว่า ว่าจะต้องออกเป็น พ.ร.ฎ.เลือกตั้งใหม่ หลังการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.ไปแล้ว โดยกระบวนการจะต้องนับหนึ่งใหม่ ด้วยการเปิดรับสมัครใหม่ และให้มีการจับหมายเลขประจำตัวผู้สมัคร เหมือนกับการเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่าง อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.หน่วยเลือกตั้งต่างๆ ก็ต้องจัดให้มีการลงคะแนน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทั้ง 54 พรรคการเมือง แม้ใน 28 เขตจะไม่มีผู้สมัครก็ตาม
อย่างไรก็ตาม มีการประชุม กกต.ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งมีวาระสำคัญกรณีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี จะไปชี้แจง กกต.เพื่อขอให้พิจารณาอนุมัติเงินกู้ 1.3 แสนล้านบาท เพื่อนำมาชำระหนี้ชาวนาในโครงการรับจำนำข้าวนั้น นายภุชงค์ ได้แจ้งต่อสื่อมวลชนว่า ไม่ต้องไปทำข่าวในจังหวัดที่ กกต.ประชุมพรุ่งนี้แล้ว โดยที่ไม่ได้อธิบายหรือแจ้งเหตุผลว่าเพราะอะไร รวมทั้งปัดที่จะตอบว่า เพราะ กกต.เปลี่ยนมาประชุมที่เซฟเฮาส์ในกรุงเทพมหานคร ใช่หรือไม่ แต่ทั้งนี้ ก็มีรายงานว่า กกต.จะยังคงมีการประชุมและรับฟังคำชี้แจงของนายกิตติรัตน์อยู่ ซึ่งคาดว่าจะเป็นการประชุมในสถานที่แห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร แต่ทั้งนี้นายภุชงค์ไม่ได้แจ้งเหตุผลว่าเพราะอะไร หรือ กกต.มีประชุมหรือไม่ กกต.ยกเลิกการใช้สถานที่ใน จ.ชลบุรี เป็นที่ประชุม แต่จะใช้เซฟเฮาส์ที่คาดว่าจะเป็นภายในกรุงเทพมหานครแทนซึ่งก็ปกปิดไม่ให้สื่อมวลชนทราบ