xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” อัดอั้นถูกด่า-กดดัน ลั่นไม่หวงเก้าอี้ โทร.จี้ “อดุลย์” ล่ามือบึ้ม วอนหยุดว่าทหาร-ตร.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (แฟ้มภาพ)
“ประยุทธ์” ประธานวันสถาปนา ร.11 รอ. รับเป็นห่วงความรุนแรงไม่เป็นผลดีต่อชาติ จี้ จนท.-การ์ดรักษาความปลอดภัย อย่าเพิ่งเชื่อใครปาบึ้ม ชี้บางพวกรุนแรงแก้ปัญหาไม่ได้ เตือนอย่าล้ำเหมือนปี 53 อ้างทหารทำงานตาม กม. เผยจี้ “อดุลย์” เร่งหาคนร้าย แนะหาจุดตรงกลาง ยันสถานการณ์คนละบริบทกับเผาเมือง อ้างตัดสินใจต้องผ่านคณะทำงาน จวกพวกปั้นน้ำเป็นตัว ไล่ไปหาปมแก้ อัดอั้นถูกตำหนิกดดัน ลั้่นไม่ได้หวงเก้าอี้ พอได้แล้วหยุดว่าทหารตำรวจ



วันนี้ (20 ม.ค.) ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานวันสถาปนา ร.11 รอ. ครบรอบ 112 ปีถึงความเป็นห่วงต่อสถานการณ์บ้านเมืองที่มีเหตุระเบิดในขณะนี้ว่า รู้สึกเป็นห่วงทุกเรื่อง ความรุนแรงที่เกิดขึ้นไม่เป็นผลดีต่อประเทศไทย แต่ทุกคนต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่และกลุ่มผู้ชุมนุมต้องรักษาความปลอดภัยให้ได้ ขณะนี้มีหลายอย่างที่เข้ามาทำให้เกิดปัญหามากขึ้น โดยเฉพาะในโซเชียลมีเดียที่กล่าวหากันไปมา คิดว่าคงต้องให้เวลากับเจ้าหน้าที่เพื่อให้เกิดความชัดเจน อย่าเพิ่งไปลงความเห็นว่าใครเป็นคนทำ สถานการณ์ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า มีคนกลุ่มหนึ่งใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา ตนมองว่าไม่สามารถแก้ได้ เพราะเรามีบทเรียนในปี 2553 ว่า การใช้ความรุนแรงจะทำให้เกิดความวุ่นวายบานปลายไปเรื่อยๆ จนบีบบังคับให้เจ้าหน้าที่ต้องนำอาวุธมาต่อสู้กันและเป็นปัญหามาทุกวันนี้ แม้ที่ผ่านมาจะมีขั้นตอนการพิสูจน์ทราบแต่ยังไม่เสร็จสิ้น

“ครั้งนี้ขอเตือนว่าอย่าให้สถานการณ์ก้าวไปถึงจุดนั้น คนที่พยายามก่อให้เกิดความรุนแรงต้องเข้าใจหัวอกเขาหัวอกเรา หากมีการสูญเสียจะเกิดความเกลียดชัง แล้วเราจะอยู่กันท่ามกลางความเกลียดชังหรือไม่ สิ่งที่รู้สึกกังวลคือความไม่ไว้วางใจเจ้าหน้าที่ และมาพาดพิงถึงทหารว่าไม่ออกมาทำหน้าที่ อยากให้สังคมเข้าใจบทบาทหน้าที่ของทหารที่มีการแยกแยะภารกิจตามกฎหมาย การที่ทหารออกมาทำงานวันนี้ไม่ได้มีความขัดแย้งหรือมีปัญหากับใคร ผมได้ย้ำเสมอว่า ให้ทหารทุกนายปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง ดูแลความปลอดภัยประชาชน และประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะเราไม่สามารถใช้อาวุธต่อกันได้ ไม่ว่าประชาชนจะทำความผิดอะไรก็ตาม กฎหมายก็คุ้มครอง ตราบใดที่ยังไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม” ผบ.ทบ.กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การกระทำการใดๆที่ไม่ได้อยู่ในกระบวนการตามกฎหมายเป็นสิ่งที่ไม่สมควร ใครก็ตามที่เกี่ยวข้อง เราสืบหาติดตามอยู่ โดยตนได้โทรศัพท์พูดคุยกับทาง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ให้ติดตามความคืบหน้าและพิสูจน์ความจริงให้ประจักษ์แก่สังคม พร้อมทั้งทำความเข้าใจกับสังคมว่าใครมีหน้าที่ทำอะไร วันนี้ตนคิดว่ากองทัพบกยังไม่มีความบกพร่องในการทำงาน สังคมอาจมองว่าทหารต้องออกมาทำหน้าที่ แต่ไม่ใช่ จะให้ประเทศนี้มีทหารอย่างเดียวคงไม่ได้ วันนี้มีหลายกลุ่มที่ออกมาทั้งเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย และกลุ่มที่อยู่ตรงกลาง ประเทศไทยเป็นอะไร จะอยู่ท่ามกลางความแตกแยกแบบนี้ แล้วจะชนะกันอย่างไร คิดว่าทุกฝ่ายต้องหันกลับมามอง สิ่งไหนที่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ก็หาจุดที่ตรงกลาง

“ผมไม่อยากย้อนไปในเวลาที่เจ็บปวดของทหาร เพราะปี 53 เราออกมาทำงานด้วยใจที่บริสุทธิ์ ทำตามหน้าที่ตามสถานการณ์และความรับผิดชอบ เพราะมีการใช้อาวุธสงครามยิงใส่ประชาชนและสถานที่ราชการ แต่สถานการณ์วันนี้ เป็นคนละเหตุผล คนละบริบทกัน และสถานการณ์ยังไปไม่ถึงจุดนั้น ดังนั้นทหารไม่น่าจะออกมาทำอะไรได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ถ้าสถานการณ์มีความรุนแรงมากๆ จนควบคุมไม่ได้ มีการใช้อาวุธสงครามในหลายพื้นที่ แต่วันนี้เหตุการณ์ยังพัฒนาไม่ถึงตรงนั้น สังคมต้องมองแล้วแยกให้ออก อย่ามาว่าผมไม่ทำหน้าที่ ทหารทุกคนเสียสละอยู่แล้ว ทุกวันนี้ทหารทำหน้าที่ได้เกิน 100 เปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำ พวกเราเป็นทหารของชาติ และประชาชน อยากขอบคุณประชาชนทุกคนที่ฝากความหวังไว้ที่ทหาร” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การทำงานของตนในทุกวันนี้ ต้องผ่านคณะทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจจะดำเนินการอะไรต้องใคร่ครวญรอบคอบจะตัดสินด้วยความเกลียดชังใครไม่ได้ ที่ผ่านมาตนสนับสนุนทุกส่วนราชการให้ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ไม่ได้ให้น้ำหนักไปทางฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ตนยังเป็นทหารของชาติและประชาชนเสมอ ถ้าตำหนิติเตียนทั้งองค์กรทั้งสถาบันก็ไม่มีใครทำงานให้ วันนี้ยืนยันว่าทหารทุกคนทำงานเต็มที่ ตามคำสั่งและนโยบายที่ได้รับมอบหมายทุกประการ และยังอยู่ในกรอบระเบียบวินัยของทหารทุกประการ ดังนั้นอย่าไปลือกันให้เสียหาย เพราะที่ลือกันยังไม่มีสิ่งไหนเกิดขึ้นจริงสักเรื่อง ปั้นน้ำกันเป็นตัวกันทุกวัน ใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปี 53 อย่ามาออกมาพูดเลย คนที่เกี่ยวข้องในวันนี้ยังคงรับผิดชอบเหมือนเดิม และยืนยันว่า ใครที่ทำให้ครอบครัวทหารเสียหายต้องรับผิดชอบ และปีนี้อย่าให้เกิดขึ้นมาอีก ตนยืนยันว่าเราจะทำหน้าที่ของทหารให้ดีที่สุดด้วยเกียรติทหาร การพูดอะไรก็ตามทำให้ทหารเสียหายถือเป็นการบ่อนทำลายกองทัพ ซึ่งกองทัพคงไม่ยอม เพราะทหารทุกคนรักเกียรติยศและศักดิ์ศรี

“เหตุการณ์วันนี้ไปหากันให้เจอว่าปัญหาอยู่ที่ไหน แล้วใครจะเป็นคนแก้แล้วจะแก้กันอย่างไร อย่ามาไล่ล่าฆ่าฟันกันเอง ตำรวจและทหารดีๆมีอยู่มาก ผมต้องพูดเพราะรู้สึกอัดอันตันใจ ทหารทุกคนไม่มีความสุข นอกจากจะห่วงลูกน้องที่ปฏิบัติหน้าที่ตามชายแดน ต้องมานั่งฟังคนด่าตำหนิอีก คนส่วนใหญ่ก็เข้าใจทหาร แต่คนอีกส่วนหนึ่งที่มากดดัน ขอให้รู้ว่าทหารทุกคนกดดันมากกว่าท่าน ผมไม่ได้ห่วงตำแหน่ง ตราบใดที่ยังไม่ทำอะไรผิด และรักษากฎกติกาอยู่ ผมไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น ส่วนคนที่กลัวที่หวาดระแวง เพราะกำลังทำความผิดอยู่หรือไม่ ผมอยากพูดเพื่อให้ทุกคนเข้าใจ เพราะไม่มีคนพูดให้สังคมลดความรุนแรง มีแต่พูดใส่กันไปมา อีกฝ่ายหนึ่งก็โยนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ทำ ทางเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าบอกว่าเป็นกลุ่ม กปปส.ทำ แต่ไม่ว่าใครทำต้องไปหาคนทำมาให้ได้ และใครเป็นคนทำให้เกิดความรุนแรงไปไล่กันตรงนั้น อย่ามาไล่ว่าเมื่อไรทหารจะออกมา เมื่อไรตำรวจจะเลิกทำงาน ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วจะเอาใครมาดูแล วันนี้คนไทยทุกคนต้องออกมาช่วยกันและหยุดการกล่าวให้ร้ายแก่เจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ พอกันได้แล้ว ไปหาคนที่ทำจริงๆ สังคมต้องช่วยกันไล่ล่าคนพวกนี้ นำตัวออกมาให้ได้ ผมว่าทุกคนรู้ว่าใครทำ ไปตามมาอย่าให้คนพวกนี้อยู่ในสังคมได้ และนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้ ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น