ปชป.เดินสายปฏิรูปประเทศรับปีใหม่ ชู มาร์ค แจงพิมพ์เขียว ปท. 4 ม.ค. “ชวนนท์” ประณามรัฐอำมหิต ล้าง ตร.ตำรวจเกลียด ปชช. จวก ยิ่งลักษณ์ ใจดำเกินคาด ชอปปิ้งเสื้อหนาว ขณะที่คนไทยกำลังฆ่ากันเอง หลอกใช้ตรงชั้นผู้น้อยให้มือเปื้อนเลือดแทน วอนอย่าตกเป็นเครื่องมือรัฐบาลชั่ว จ่อเอาผิดอาญา นายกฯ ผู้บังคับบัญชา ตร.ยกแผง หลังมีการบิดเบือนข้อมูลป้ายสีผู้ชุมนุม แนะ “ปู” เร่งทบทวน ปลดล็อก หยุดดึงดันเดินหน้าเลือกตั้ง 2 ก.พ.57 ทั้งที่รู้ว่าไปไม่รอด ทำไทยเข้าสู่มิคสัญญี เตือนชะตากรรมเลวร้ายกว่าพี่ชาย
วันนี้ (29 ธ.ค.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีมีการใช้ปืนเอ็ม 16 ยิงกราดให้การ์ด คปท.จนมีผู้เสียชีวิตว่า เกิดจากรัฐบาลไม่จริงใจในการแก้ปัญหา มีการบิดเบือนข้อเท็จจริงให้ประชาชนเป็นคู่ขัดแย้งกับตำรวจ ผลักตำรวจให้เป็นศัตรูกับประชาชน กล่าวหาว่าผู้ชุมนุมขัดขวางการเคลื่อนย้ายผู้ได้รับบาดเจ็บ กล่าวหาว่าใช้อาวุธโจมตีเจ้าหน้าที่ เป็นความเลวร้ายแรงที่สุดของรัฐบาล เพราะรัฐบาลเป็นคู่ขัดแย้งกับประชาชน คนไทยไม่มีปัญหากับตำรวจ แต่กลับมีการบิดเบือนว่าเป็นความขัดแย้งระหว่างตำรวจกับประชาชน ล้างสมองตำรวจให้โกรธเกลียดประชาชน เป็นความอำมหิต และอันตรายอย่างยิ่งต่อสังคมไทยที่มีผู้บริหารจิตใจคับแคบเช่นนี้
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยังตำหนิ นายแพทย์ประดิษฐ์ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข หนึ่งในแก๊งออฟโฟร์ที่ใกล้ชิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกมากล่าวหาประชาชนด้วยข้อมูลที่เป็นเท็จว่า สาเหตุที่ตำรวจเสียชีวิตเพราะผู้ชุมนุมขัดขวางไม่ให้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ สร้างบรรยากาศความโกรธเกลียดระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับประชาชน ตนเชื่อว่าตำรวจส่วนใหญ่เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่เป็นธรรม วิงวอนว่าอย่าเห็นประชาชนเป็นศัตรู เพราะรัฐบาลกำลังหลอกใช้ตำรวจชั้นผู้น้อยให้มามือเปื้อนเลือดแทน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จึงวิงวอนว่าอย่าหลงเชื่อแผนร้ายของรัฐบาล แม้แต่การยิงการ์ด คปท.จนเสียชีวิตก็มีการพูดกันว่าเป็นฝีมือตำรวจจึงไม่อยากให้มีความขัดแย้ง
ระหว่างตำรวจกับประชาชน ทั้งที่ปัญหาเกิดจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่เป็นภูมิแพ้ กทม.หนีไปเชียงใหม่ และยังเดินชอปปิ้งเสื้อหนาวใน
ขณะที่คนไทยกำลังฆ่ากัน เป็นเรื่องที่ต้องประณาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตนคิดว่าใจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อำมหิตเกินกว่าที่ใครจะคาดถึง ดังนั้น ทุกการสูญเสียที่เกิดขึ้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ และรัฐบาลชุดนี้ต้องรับผิดชอบ ซึ่งพรรคได้รวบรวมหลักฐานที่จะเอาผิดตามกฎหมายอาญาต่อ นายกฯ และผู้บังคับบัญชาของตำรวจที่เกี่ยวข้อง โดยจะพยายามไม่เอาผิดกับตำรวจชั้นผู้น้อย
สำหรับกระบวนการเลือกตั้งที่นายกรัฐมนตรีพยายามพูดว่าเป็นกระบวนการที่มีความชอบธรรม นำพาประเทศพ้นวิกฤตความขัดแย้งนั้น ต้องถามว่าถ้ายังสติดีอยู่ กล้าพูดหรือว่าการเลือกตั้งเป็นไปตามปกติ เพราะเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ไทยที่มีการรับสมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ และ ส.ส.เขตแล้วแต่กลับไม่มีป้ายหาเสียงเลยแม้แต่ป้ายเดียว มีแต่ป้ายสวัสดีปีใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ แล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะบอกได้อย่างไรว่าการเลือกตั้งเป็นการแก้ปัญหาประเทศ ในเมื่อยังไม่กล้าติดป้าย ไม่กล้าเดินหาเสียง จึงต้องยอมรับความจริงว่าการแก้ปัญหาไม่สามารถแก้ปัญหาได้ซึ่งนายกฯ ก็ทราบดี นอกจากนี้ ยังมี 7 จังหวัด 72 เขต ไม่สามารถรับสมัครได้ ทั้งนี้ พรรคไม่เคยคิดขวางการเลือกตั้ง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะประชาชนมีความรู้สึกคับแค้นจากการกระทำรุนแรงต่อประชาชน จนมีการออกไปขัดขวางเพราะไม่สามารถยอมรับการเลือกตั้งครั้งนี้ได้ นายกฯ จะดื้อดึงไปทำไม ตนขอย้ำว่าในสถานการณ์แบบนี้ให้เลือกตั้งอีกสิบครั้งก็สร้างความชอบธรรมให้ไม่ได้ ถ้ายังเดินหน้าต่อก็จะทำเป็นการกระทำที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิต เท่ากับพาตัวเองเข้าสู่แท่นประหาร เพราะกลุ่มเดียวที่ทำให้ปัญหาแก้ไม่ได้คือ พรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาลที่ต้องการให้มีการเลือกตั้ง 2 ก.พ.57 ต้องปลดล็อกตรงนี้ก่อน ถ้ายังยืนยันตรงนี้ก็หวังแค่ช่วงชิงความได้เปรียบทางการเมือง เดินไปสู่เป้าหมายเดิมเท่านั้นเอง
“ประเทศไทยต้องหยุดคิดสักพักว่าเราจะแก้ปัญหาอย่างไร พี่น้องคนไทยไม่มีใครสบายใจที่เห็นสภาพปัญหาเป็นแบบนี้ หยุดแล้วมาคุยว่าจะเดินหน้าประเทศอย่างไร อย่าเดินหน้าทั้งที่รู้ว่าจะพาชาติลงเหวเลย นี่คือข้อเรียกร้องของพรรคประชาธิปัตย์ไปยังนายกรัฐมนตรี เพื่อถามใจท่านว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร เพราะผมเชื่อว่าจะมีอีกหลายเขตที่เลือกตั้งไม่ได้ จึงไม่อยากให้สถานการณ์พัฒนาไปจนกลายเป็นการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับประชาชน เนื่องจากความอำมหิตของรัฐบาล จึงขอให้ใช้เวลาช่วงวันหยุดทบทวนเรื่องราวทั้งหมด อย่าเปลี่ยนประเทศไทยให้เป็นแดนมิคสัญญี พรรคการเมืองต้องรับผิดชอบ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นข้อเสนอแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องตัดสินใจ ไม่เช่นนั้นอาจมีชะตากรรมที่ร้ายแรงกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พี่ชาย” นายชวนนท์ กล่าว
นายชวนนท์ กล่าวถึงบทบาทของพรรคในการนำเสนอแนวทางปฏิรูปประเทศที่จะเริ่มต้นตั้งแต่หลังปีใหม่เป็นต้นไปว่า นอกจากจะมีเวทีต่างจังหวัดแล้ว จะมีการทำงานพบปะกับองค์กรต่างๆ เริ่มตั้งแต่วันที่ 2-3 มกราคม 2557 เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดในการปฏิรูปประเทศ อีกทั้งจะมีการแสดงวิสัยทัศน์เรื่องการปฏิรูปประเทศโดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในวันที่ 4 มกราคม 2557 ภายใต้คำขวัญประชาธิปัตย์ ขจัดคอร์รัปชัน มุ่งมั่นปฏิรูปถึงโรดแมปประชาธิปัตย์นำประเทศไทยหลุดพ้นความขัดแย้่ง ซึ่งนายอภิสิทธิ์ จะมีการโพสต์แนวทางผ่านเฟซบุ๊กในช่วงก่อนปีใหม่นี้ด้วย ทั้งนี้ สิ่งที่พรรคเสนอจะเป็นรูปธรรมที่สังคมจับต้องได้ และเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ