“วราเทพ” ได้ที อ้างตัวเลขจังหวัดที่สามารถลงสมัครเลือกตั้งได้ 72 จังหวัดเท่ากับ 90% แสดงว่าประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้มีการเลือกตั้ง จึงต้องเดินหน้าต่อ เรียกร้อง กกต.เร่งดำเนินการให้ลุล่วง ส่วนสภาปฏิรูปประเทศของ “ยิ่งลักษณ์” สรุปแนวทางได้ก่อน 2 ก.พ.
นายวราเทพ รัตนากร รักษาการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงสถานการณ์การเลือกตั้ง ณ ขณะนี้ว่า แต่ละจังหวัดทั่วประเทศทั้ง 77 จังหวัดสามารถดำเนินการเปิดรับสมัครได้แล้วถึง 72 จังหวัด เหลืออยู่เพียง 5 จังหวัดในเขตพื้นที่ภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดกระบี่ จังหวัดภูเก็ต จังหวัดพัทลุง จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งคิดเป็นตัวเลขแล้วขณะนี้การรับสมัครสามารถดำเนินการได้แล้วกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ และคิดว่าในช่วงเวลาที่เหลืออีก 4 วันนั้นการรับสมัครจะสามารถดำเนินการได้ครบถ้วนทุกจังหวัด
นายวราเทพกล่าวว่า จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้มีความมั่นใจว่า การเลือกตั้งที่ได้มีการกำหนดไว้ คือ วันที่ 2 กุมภาพันธ์นั้นจะสามารถได้หน้าต่อไปได้อย่างแน่นอน เพราะขณะนี้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ต้องการให้มีการเลือกตั้ง และเมื่อดูจากตัวเลขผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองต่างๆ นั้น มีถึง 53 พรรค ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความต้องการให้มีการเลือกตั้งได้อย่างชัดเจน และอยากขอให้ทาง กกต.จังหวัดที่ ยังไม่สามารถเปิดรับผู้สมัครได้ทั้ง 5 จังหวัด ให้ช่วยเร่งดำเนินการ เพื่อให้เกิดการรับสมัครได้โดยเร็ว หากมีอุปสรรคใดๆ ทาง กกต.จังหวัดสามารถขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือทหารได้โดยตรงอยู่แล้ว
รักษาการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงแนวทางการปฏิรูปประเทศ ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เคยเสนอแนวทางไว้นั้น ขณะนี้ได้มีเครือข่ายและกลุ่มองค์กรต่างๆ เสนอเป็นแนวทางกลับมายังที่สำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งโดยรวมแล้วเป็นข้อเสนอให้มีการปรับปรุงในบางส่วน แต่คิดว่าก่อนการเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ รายละเอียดกรอบในการดำเนินการต่างๆ คงจะเรียบร้อย และจะนำเสนอสู่สาธารณะเพื่อให้ประชาชนได้เป็นผู้ตัดสิน และอยากเห็นแนวทางของพรรคการเมืองอื่นๆ ได้นำเสนอออกมาให้ประชาชนได้พิจารณาด้วย
สำหรับข้อเสนอที่อดีตผู้นำฝ่ายค้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ออกมาระบุว่า พรรคประธิปัตย์พร้อมจะเป็นผู้นำในการปฏิรูป โดยขอให้มีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไปก่อนนั้น นายวราเทพกล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์หมดความชอบธรรมจะมาเป็นแกนนำในการปฏิรูปแล้ว
“ขณะนี้ พรรคการเมืองส่วนใหญ่ถึง 53 พรรค เขาพร้อมแล้วสำหรับการเลือกตั้ง มีเพียงพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้นที่ยังไม่ยอมรับการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย จึงคิดว่าไม่มีความชอบธรรมใดๆ แล้วที่พรรคประชาธิปัตย์จะมาเสนอตัวดังกล่าว อีกทั้งขณะนี้สังคมยังมีความคลางแคลงใจต่อพรรคการเมืองดังกล่าวอยู่ด้วยว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มบุคคลที่ชุมนุมและใช้ความรุนแรงอยู่ด้วยหรือไม่”
