กกต.ประชุมแจงรับสมัครเลือกตั้งบัญชีรายชื่อ มาหมดทุกพรรครวมประชาธิปัตย์ “เด็จพี่” ขอทหารมาช่วยดู ด้านตัวแทน ปชป.อ้างมาฟังไม่เกี่ยวว่าจะลงสมัคร ยันยังใช้สนามไทย-ญี่ปุ่นสมัคร 23 ธ.ค.นี้ รอประเมินย้ายหนีม็อบหรือไม่ แต่ยันมีแผน ขู่ผิดกฎหมาย ขณะที่ กกต.นัดสื่อแถลงข้อเสนอพรุ่งนี้
วันนี้ (18 ธ.ค.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดประชุมชี้แจงการรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ โดยมีนายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต.เป็นประธาน เพื่อเป็นการอธิบายถึงขั้นตอนการรับสมัคร และการเตรียมเอกสารหลักฐาน รวมทั้งชี้แจงเรื่องการหาเสียง ที่จะมีการหาเสียงทางโทรทัศน์ โดยกำหนดให้แต่ละพรรคมีเวลาหาเสียงเท่าๆ กัน และชี้แจงเรื่องสมุหบัญชีของพรรคการเมือง ที่พรรคการเมืองจะต้องรายงานค่าใช้ในการเลือกตั้ง ทั้งนี้การประชุมครั้งนี้มีพรรคการเมืองกว่า 40 พรรค จากทั้งหมด 70 พรรค มาร่วมประชุม อาทิ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย นายสาธิต อุไรเวโรจนากร จากพรรคชาติพัฒนา นายเกษม สรศักดิ์เกษม จากพรรคชาติไทยพัฒนา นายนำชาติ ตาสระคู จากพรรคภูใจไทย อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าการประชุมครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ก็ได้ส่งตัวแทนมาร่วมประชุม คือ น.ส.ผ่องศรี ธาราภูมิ และน.ต.สุธรรม ระหงษ์
โดยนายพร้อมพงศ์ได้กล่าวในห้องประชุมว่า อยากให้ทาง กกต.ประสานไปยังทาง ผบ.สส.และผู้บัญชาการทหารทั้ง 3 เหล่าทัพ เพื่อขอให้ทหารเข้ามาดูแลความสงบเรียบร้อยจนกว่าจะเสร็จการเลือกตั้งทั่วประเทศ เพื่อให้การเลือกตั้งเกิดความสุจริต โปร่งใส กับทุกฝ่าย และสร้างความมั่นใจให้กับพรรคการเมืองต่างๆ ในครั้งนี้ด้วย
ขณะที่ น.ต.สุธรรม กล่าวก่อนเข้าร่วมประชุมว่า ที่มาเข้าประชุมในวันนี้ไม่ได้หมายความว่าพรรคประชาธิปัตย์จะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง แต่ตามคำเชิญของ กกต.เพื่อมาฟังรายละเอียด ข้อกฎหมาย จะได้นำไปเตรียมความพร้อมไว้ก่อน อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่ตัดสินใจส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง ก็ต้องติดตามมติของพรรคต่อไป
ทางด้านนายภุชงค์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตนได้เป็นประธานในการประชุมเตรียมความพร้อมการเปิดรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ วันที่ 23-27 ธ.ค. และส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง วันที่ 28 ธ.ค. - 1 ม.ค. 57 ซึ่งทุกฝ่ายมีความพร้อม ซึ่งรูปแบบในการเปิดรับสมัครจะยังไม่เปลี่ยนแปลงเหมือนกับการเลือกตั้ง ส.ส.ในวันที่ 3 ก.ค. 54 เนื่องจากยังคงใช้กฎหมายเดิม และยังยืนยันที่จะใช้สถานที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพ (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง เป็นสถานที่รับสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และใช้อาคารกีฬาเวสน์ 1 เป็นสถานที่รับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เพราะ กกต.ได้ประกาศไป และได้ลงในราชกิจนุเบกษาแล้ว พร้อมกันนี้ยังได้จัดเตรียมสถานที่ อุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการรับสมัคร และดูแลความปลอดภัยไว้ทั้งหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม ทาง กกต.ไม่ได้มีการประสานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อขอกำลังตำรวจในการดูแลความปลอดภัยเพิ่มเติม แต่ปกติทุกครั้งที่มีการสมัครรับเลือกตั้งใหญ่ ทาง สตช.ก็จะจัดกำลังมาดูแลความเรียบร้อยอยู่แล้ว
“จะต้องมีการย้ายสถานที่หรือไม่ กกต.ก็จะประเมินตามสถานการณ์วันต่อวัน แต่เราก็ภาวนาว่าขอให้ กกต.ได้จัดการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งนี้ เพราะการขัดขวางก็มีความผิดทางอาญาตามมาตรา 76 และมาตรา 152 ของ พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. ขณะเดียวกัน กกต.ทั้ง 77 จังหวัดก็ได้เตรียมความพร้อมไว้เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม กกต.ก็ทราบว่าทางปลัดกระทรวงกลาโหม เตรียมจัดส่งกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร เข้ามาช่วยดูแลการจัดการเลือกตั้ง ก็ถือเป็นเรื่องปกติของการจัดการเลือกตั้งทุกครั้ง โดยเฉพาะใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งนี้ กกต.ได้มีการเตรียมเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการตลอดช่วงการเลือกตั้งไว้จำนวน 1.2 ล้านคน
นายภุชงค์ยังกล่าวด้วยว่า กฎหมายไม่ได้กำหนดว่า กกต.จะต้องประกาศเปลี่ยนแปลงสถานที่การรับสมัครภายในกี่วัน อย่างไรก็ตาม หากมีเหตุสุดวิสัยเกิดขึ้น ที่อาจทำให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงสถานที่การรับสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อนั้น กกต.ก็มีช่องทางในการประกาศ พร้อมทั้งจะประสานไปทางพรรคการเมืองต่างๆ เพื่อให้ทราบโดยทั่วกันได้ทันที
“ผู้แทนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งประเมินว่า ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะการรับสมัครการเลือกตั้ง ส.ส. เป็นกลไกตามระบอบประชาธิปไตย โดย กกต.ก็คาดหวังว่าไม่น่าจะเกิดเหตุอะไรขึ้น เพราะ กกต.ต้องทำตามพระราชกฤษฎีกาและหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด แต่ กกต.ก็ได้เตรียมการรองรับไว้ หากเกิดเหตุการณ์วุ่นวาย ก็อาจจะต้องมีการกำหนดสถานที่เปิดรับสมัครอีกครั้ง แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดได้”
มีรายงานว่าในช่วงเย็นที่ผ่านมาทางสำนักงาน กกต.ได้แจ้งต่อสื่อมวลชนว่าในวันพรุ่งนี้ 19 ธ.ค. เวลา 13.30 น. ขอเชิญทำข่าวคณะกรรมการการเลือกตั้งแถลงประเด็นท่าทีและข้อเสนอแนะของ กกต.ต่อรัฐบาลและกปปส. เรื่องการจัดการเลือกตั้ง 2 ก.พ. 57 ณ.ห้องแถลงข่าวชั้น 2 สำนักงาน กกต. ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า เป็นการแถลงของ กกต.ทั้งหมดซึ่งได้หารือกัน และเห็นว่าเป็นทางออกของปัญหาในขณะนี้ เมื่อถามว่าจะสามารถเปลี่ยนสถานการณ์ได้ใช่หรือไม่ นายสมชัยกล่าวว่า ไม่ทราบ ก็ลองดู
วันนี้ (18 ธ.ค.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดประชุมชี้แจงการรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ โดยมีนายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต.เป็นประธาน เพื่อเป็นการอธิบายถึงขั้นตอนการรับสมัคร และการเตรียมเอกสารหลักฐาน รวมทั้งชี้แจงเรื่องการหาเสียง ที่จะมีการหาเสียงทางโทรทัศน์ โดยกำหนดให้แต่ละพรรคมีเวลาหาเสียงเท่าๆ กัน และชี้แจงเรื่องสมุหบัญชีของพรรคการเมือง ที่พรรคการเมืองจะต้องรายงานค่าใช้ในการเลือกตั้ง ทั้งนี้การประชุมครั้งนี้มีพรรคการเมืองกว่า 40 พรรค จากทั้งหมด 70 พรรค มาร่วมประชุม อาทิ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย นายสาธิต อุไรเวโรจนากร จากพรรคชาติพัฒนา นายเกษม สรศักดิ์เกษม จากพรรคชาติไทยพัฒนา นายนำชาติ ตาสระคู จากพรรคภูใจไทย อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าการประชุมครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ก็ได้ส่งตัวแทนมาร่วมประชุม คือ น.ส.ผ่องศรี ธาราภูมิ และน.ต.สุธรรม ระหงษ์
โดยนายพร้อมพงศ์ได้กล่าวในห้องประชุมว่า อยากให้ทาง กกต.ประสานไปยังทาง ผบ.สส.และผู้บัญชาการทหารทั้ง 3 เหล่าทัพ เพื่อขอให้ทหารเข้ามาดูแลความสงบเรียบร้อยจนกว่าจะเสร็จการเลือกตั้งทั่วประเทศ เพื่อให้การเลือกตั้งเกิดความสุจริต โปร่งใส กับทุกฝ่าย และสร้างความมั่นใจให้กับพรรคการเมืองต่างๆ ในครั้งนี้ด้วย
ขณะที่ น.ต.สุธรรม กล่าวก่อนเข้าร่วมประชุมว่า ที่มาเข้าประชุมในวันนี้ไม่ได้หมายความว่าพรรคประชาธิปัตย์จะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง แต่ตามคำเชิญของ กกต.เพื่อมาฟังรายละเอียด ข้อกฎหมาย จะได้นำไปเตรียมความพร้อมไว้ก่อน อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่ตัดสินใจส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง ก็ต้องติดตามมติของพรรคต่อไป
ทางด้านนายภุชงค์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตนได้เป็นประธานในการประชุมเตรียมความพร้อมการเปิดรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ วันที่ 23-27 ธ.ค. และส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง วันที่ 28 ธ.ค. - 1 ม.ค. 57 ซึ่งทุกฝ่ายมีความพร้อม ซึ่งรูปแบบในการเปิดรับสมัครจะยังไม่เปลี่ยนแปลงเหมือนกับการเลือกตั้ง ส.ส.ในวันที่ 3 ก.ค. 54 เนื่องจากยังคงใช้กฎหมายเดิม และยังยืนยันที่จะใช้สถานที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพ (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง เป็นสถานที่รับสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และใช้อาคารกีฬาเวสน์ 1 เป็นสถานที่รับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เพราะ กกต.ได้ประกาศไป และได้ลงในราชกิจนุเบกษาแล้ว พร้อมกันนี้ยังได้จัดเตรียมสถานที่ อุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการรับสมัคร และดูแลความปลอดภัยไว้ทั้งหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม ทาง กกต.ไม่ได้มีการประสานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อขอกำลังตำรวจในการดูแลความปลอดภัยเพิ่มเติม แต่ปกติทุกครั้งที่มีการสมัครรับเลือกตั้งใหญ่ ทาง สตช.ก็จะจัดกำลังมาดูแลความเรียบร้อยอยู่แล้ว
“จะต้องมีการย้ายสถานที่หรือไม่ กกต.ก็จะประเมินตามสถานการณ์วันต่อวัน แต่เราก็ภาวนาว่าขอให้ กกต.ได้จัดการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งนี้ เพราะการขัดขวางก็มีความผิดทางอาญาตามมาตรา 76 และมาตรา 152 ของ พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. ขณะเดียวกัน กกต.ทั้ง 77 จังหวัดก็ได้เตรียมความพร้อมไว้เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม กกต.ก็ทราบว่าทางปลัดกระทรวงกลาโหม เตรียมจัดส่งกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร เข้ามาช่วยดูแลการจัดการเลือกตั้ง ก็ถือเป็นเรื่องปกติของการจัดการเลือกตั้งทุกครั้ง โดยเฉพาะใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งนี้ กกต.ได้มีการเตรียมเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการตลอดช่วงการเลือกตั้งไว้จำนวน 1.2 ล้านคน
นายภุชงค์ยังกล่าวด้วยว่า กฎหมายไม่ได้กำหนดว่า กกต.จะต้องประกาศเปลี่ยนแปลงสถานที่การรับสมัครภายในกี่วัน อย่างไรก็ตาม หากมีเหตุสุดวิสัยเกิดขึ้น ที่อาจทำให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงสถานที่การรับสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อนั้น กกต.ก็มีช่องทางในการประกาศ พร้อมทั้งจะประสานไปทางพรรคการเมืองต่างๆ เพื่อให้ทราบโดยทั่วกันได้ทันที
“ผู้แทนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งประเมินว่า ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะการรับสมัครการเลือกตั้ง ส.ส. เป็นกลไกตามระบอบประชาธิปไตย โดย กกต.ก็คาดหวังว่าไม่น่าจะเกิดเหตุอะไรขึ้น เพราะ กกต.ต้องทำตามพระราชกฤษฎีกาและหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด แต่ กกต.ก็ได้เตรียมการรองรับไว้ หากเกิดเหตุการณ์วุ่นวาย ก็อาจจะต้องมีการกำหนดสถานที่เปิดรับสมัครอีกครั้ง แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดได้”
มีรายงานว่าในช่วงเย็นที่ผ่านมาทางสำนักงาน กกต.ได้แจ้งต่อสื่อมวลชนว่าในวันพรุ่งนี้ 19 ธ.ค. เวลา 13.30 น. ขอเชิญทำข่าวคณะกรรมการการเลือกตั้งแถลงประเด็นท่าทีและข้อเสนอแนะของ กกต.ต่อรัฐบาลและกปปส. เรื่องการจัดการเลือกตั้ง 2 ก.พ. 57 ณ.ห้องแถลงข่าวชั้น 2 สำนักงาน กกต. ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า เป็นการแถลงของ กกต.ทั้งหมดซึ่งได้หารือกัน และเห็นว่าเป็นทางออกของปัญหาในขณะนี้ เมื่อถามว่าจะสามารถเปลี่ยนสถานการณ์ได้ใช่หรือไม่ นายสมชัยกล่าวว่า ไม่ทราบ ก็ลองดู
