กปปส.ถอนทัพจากที่สมัครเลือกตั้ง เหตุบรรลุวัตถุประสงค์แล้ว แสดงให้เห็นต้องปฏิรูปฝืนไปเกิดปัญหา พร้อมเพิ่มแรงกดดันนายกฯ ลาออก ปัดมีเอี่ยว BTS ขัดข้อง “เทือก” มารับมวลชนกลับเองที่ไทย-ญี่ปุ่น ชมสู้อย่างสันติ คปท. เยือน สน.นางเลิ้ง จี้ความคืบหน้าคดี “อมร” และทุกคดีเกี่ยวข้อง ศุกร์มาซ้ำ ลั่นไม่รู้เรื่องเจอแบบดีเอสไอ
วันนี้ (24 ธ.ค.) บรรยากาศการชุมนุมกลุ่มประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน ล่าสุด นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส.แถลงข่าวเปิดเผยว่า จากการหารือของแกนนำมีมติเห็นว่า ให้มีการถอนมวลชนที่ชุมนุมหน้าสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ซึ่งเป็นสถานที่รับสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ออกจากพื้นที่ในเวลา 17.00 น.วันนี้ เพราะถือว่าบรรลุวัตถุประสงค์การชุมนุมแล้ว ที่แสดงให้เห็นว่าต้องการเดินหน้าปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง และหากยังเดินหน้าเลือกตั้งจะเกิดปัญหาในภายหลัง รวมถึงกระบวนการการเลือกตั้งจะไม่ราบรื่น พร้อมกันนี้จะเพิ่มมาตรการกดดันนายกรัฐมนตรีให้ลาออกจากรักษาการ และแสดงความรับผิดชอบ ส่วนการทำงานของ กกต.ก็สามารถเข้าสู่กระบวนการตามปกติ อย่างไรก็ตาม ทาง กปปส.ขอปฏิเสธกรณีมีส่วนเกี่ยวข้องกับรถไฟฟ้าบีทีเอสขัดข้องเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
ขณะที่ทางด้านความเคลื่อนไหวของการเปิดรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ วันที่สอง ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร ไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ล่าสุด นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ได้เดินทางมาในพื้นที่เพื่อรับผู้ชุมนุมกลุ่ม กปปส.กลับเวทีราชดำเนิน หลังจากการหารือกับแกนนำ
ทั้งนี้ นายสุเทพได้ขึ้นกล่าวบนเวทีปราศรัย โดยกล่าวขอบคุณและแสดงความชื่นชมผู้ชุมนุมที่ร่วมต่อสู้อย่างสันติ และไม่มีประเทศไหนที่มีคนร่วมมือในการต่อสู้มากขนาดนี้ อย่างไรก็ตาม ขณะที่ นายสุเทพ เดินทางเข้ามาทักทายผู้ชุมนุมในพื้นที่ กลุ่มผู้ชุมนุมได้ร่วมเป่านกหวีดให้การต้อนรับอย่างคึกคัก พร้อมทั้งร่วมบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนในการชุมนุมครั้งนี้
ด้านกลุ่มผู้ชุมนุมเครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดยนายอุทัย ยอดมณี ผู้ประสานงาน คปท. พร้อม น.ส.พวงทิพย์ บุญสนอง ทนายความ คปท.และมวลชนจำนวนหนึ่งได้ทยอยเดินทางมายัง สน.นางเลิ้ง เพื่อทวงถามถึงความคืบหน้ากรณีพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดข้างรถของนายอมร อมรรัตนานนท์ หรือรัชต์ชยุต ศรีโยธินศักดิ์ ที่ได้มีการแจ้งความไว้ ซึ่งที่ผ่านมาไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ ถึงความคืบหน้า รวมไปถึงการขอดูภาพวงจรปิด และคดีที่แจ้งความดำเนินคดีกรณีกองบัญชาการตำรวจนครบาลมีคำสั่งให้จับกุมรถที่ติดธงชาติ พร้อมทั้งติดตามขอคืนรถน้ำมันปั่นไฟของ คปท. ซึ่งถูกตำรวจยึดไปก่อนหน้านี้ และยืนยันว่า คำตอบทั้งหมดจะต้องมีความคืบหน้าภายในวันศุกร์นี้ ซึ่งทางกลุ่ม คปท.จะเดินทางมาสอบถามอีกครั้งในวันศุกร อย่างไรก็ตาม หากยังไม่มีความคืบหน้ายืนยันปิดล้อม สน.นางเลิ้ง เหมือนที่เคยกระทำมากับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI มาแล้วก่อนหน้านี้
ด้าน พ.ต.ท.นันท์ธวัชชัย ฉวีสุข พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ได้เป็นผู้รับเรื่อง และชี้แจงว่า ขณะนี้เรื่องธงชาติได้ส่งเรื่องที่แกนนำ คปท.มาแจ้งความให้กองบัญชาการตำรวจนครบาลแล้ว (บช.น.) ซึ่งหลังจากนี้ต้องรอให้ทาง บช.น.ให้คำตอบมาอีกครั้ง สำหรับกรณีรถพร้อมน้ำมันเติมเครื่องปั่นไฟ ได้มีการตรวจสอบแล้ว ซึ่งทางกลุ่มผู้ชุมนุมสามารถยื่นเรื่องขอคืนได้ภายในวันนี้ ส่วนกรณีพบวัตถุต้องสงสัยที่รถของนายรัชต์ชยุต หลังจากที่หน่วยอีโอดีตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ใช่วัตถุระเบิด แต่เป็นกล่องขนาด 2 คูณ 5 นิ้ว ภายในมีเพียงกระดาษและสายไฟไม่มีการต่อวงจรที่จะทำเป็นระเบิดได้ ซึ่งทางหน่วยอีโอดีจะส่งรายงานอย่างเป็นทางการให้พนักงานสอบสวนอีกครั้ง รวมถึงจะมีการเรียกพยานมาสอบปากคำทั้งหมด