ASTVผู้จัดการ – เพื่อแม้วส่ง “ปลอดประสพ-ชัชชาติ” ออกมาเรียกแขกเย้ยประชาธิปัตย์กลัวแพ้ เลยบอยคอตเลือกตั้ง หยันสุเทพ-มวลมหาประชาชนต้องแพ้ 15 ล้านเสียงของเพื่อไทยแน่ๆ ด้านชัชชาติยก รธน.50 บังหน้า อ้างการเลือกตั้งคือการปฏิรูปที่ดีที่สุด
จากกรณีที่วานนี้ (21 ธ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกับอดีต ส.ส.ของพรรค แถลงข่าวกรณีคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์มีมติไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (22 ธ.ค.) ตรวจสอบพบว่าทางพรรคเพื่อไทย โดยรัฐมนตรีรักษาการอย่างน้อยสองรายในรัฐบาลรักษาการของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ซื้อโฆษณาในเว็บไซต์เฟซบุ๊ก โดยกล่าวถึงการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. 57 และการบอยคอตการเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์
ด้านเฟซบุ๊กเพจ “ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี” ของ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รักษาการรองนายกรัฐมนตรีได้โพสต์ข้อความและซื้อโฆษณาในหัวข้อ “ทำไมพรรคประชาธิปัตย์ บอยคอตเลือกตั้ง???” โดยมีเนื้อหา เย้ยหยันพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และประชาชนที่ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษ์ และระบอบทักษิณดังนี้
”พรรคประชาธิปัตย์บอยคอตเลือกตั้งอีกแล้วครับ ที่เมียนมาร์เขาแข่งซีเกมส์กัน มีสถิติใหม่ๆเกิดขึ้นมากมาย ท่านหัวหน้าอภิสิทธิ์ แห่งประชาธิปัตย์ ก็ได้สร้างสถิติการบอยคอตเลือกตั้งถึง 2 ครั้ง ในรอบ 5 ปี ถือเป็นสถิติสูงสุด ของสถาบันการเมืองหลัก ไม่ว่าจะในกลุ่มซีเกมส์ เอเชี่ยนเกมส์ หรือโอลิมปิกเกมส์ สวยหรูมากครับ แต่ไม่ขอนับถือ
“คำถามของผมก็คือ พรรคประชาธิปัตย์ จะบอยคอตทำไม? แวดวงคอการเมือง วิจารณ์ว่า ยังไงประชาธิปัตย์ก็ต้องเกาะกระแส กปปส. เซเลบชาวกรุงและพี่น้องชาวใต้ อีกทั้งคุณสุเทพ คุยไว้หนักหนาว่ามีมวลมหาประชาชน สนับสนุน (มวลแปลว่าเยอะ) แต่หากลงเลือกตั้งจริงๆ ประชาธิปัตย์ คงกลัวแพ้ 15 ล้านเสียงของพรรคเพื่อไทยแน่ๆ มวลมหาประชาชนที่คุยไว้ จะเป็นมวลแบบไหนกันแน่
“อีกเรื่องหนึ่งที่ลึกลับซับซ้อนก็คือ ประชาธิปัตย์ยังหวังเผื่อฟลุ๊ค หวังให้องค์กรพิเศษจัดการกับ 300 กว่าคน กรณี ส.ว. หากเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ประชาธิปัตย์ก็จะกลับมาเลือกตั้งอีกครั้งโดยคราวนี้จะอ้างว่า เมื่อไม่มีคนอื่นลง ก็จะช่วยลงสมัครให้ เพื่อจรรโลงประชาธิปไตย ที่ผมคาดนี้พูดแล้วเปลี่ยน ขอคำตอบด้วยครับ
“มีอีกคำถามหนึ่งว่า ทำไมพรรคอื่นๆเขาไม่บอยคอตด้วย คำตอบง่ายนิดเดียวครับ ก็เขาเพิ่งได้รับคือ สิทธิที่เว้นวรรคมานานถึง 5 ปี รอมาตั้งนานแล้ว คุณไปชวนเขาเว้นวรรคอีก ใครเขาจะเอาด้วยครับ วิธีการของคุณเห็นชัดว่า เอาแต่ใจตนเองไม่นึกถึงใจคนอื่นเลย ที่สำคัญต้องนึกถึงใจประชาชนให้มากๆครับ” นายปลอดประสพระบุ
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ก็ซื้อโฆษณาบนเฟซบุ๊กเช่นกัน โดยแฟนเพจของนายชัชชาติโพสต์ข้อความระบุว่า “วิธีการปฏิรูปที่ดีที่สุดคือการไปเลือกตั้งครับ และผลการเลือกตั้งตัดสินว่าคนส่วนใหญ่ต้องการอะไร” โดยอ้างถึงกฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ซึ่งมีเนื้อหาระบุว่า
“กฎหมายสูงสุดที่ใช้ในปัจจุบัน คือ รัฐธรรมนูญ ฉบับ พ.ศ.2550 ที่ร่างโดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2550 หลังการปฏิวัติ 2549 ซึ่งร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ได้ผ่านการทำประชามติเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2550 โดยผู้เห็นชอบ 57.81% หรือ 14.72 ล้านเสียง และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงลงพระปรมาภิไธย เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2550
“ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ มาตรา 108 กำหนดให้มีการเลือกตั้งภายในระยะเวลาไม่น้อยกว่า 45 วัน และไม่เกิน 60 วัน นับจากวันที่ยุบสภา
“การปฏิรูปประเทศ ต้องทำตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ผ่านตัวแทนที่แท้จริงของประชาชนทั้งประเทศ คือ ส.ส. และ ส.ว. จะทำตามใจของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งไม่ได้
“การปฏิรูปโดยวิธีอื่นที่ไม่สอดคล้องกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ถ้าจะทำก็ต้องล้มล้างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก่อน เหมือนที่การปฏิวัติปี 49 ได้ทำกับรัฐธรรมนูญปี 40
“ถ้ามวลมหาประชาชนต้องการปฏิรูป ก็อย่าไปกลัวการเลือกตั้งเลยครับ คนส่วนใหญ่ต้องการอย่างไร ผลการเลือกตั้งก็เป็นอย่างนั้นครับ” นายชัชชาติระบุ
อนึ่งเมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2556 ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยชี้ให้เห็นว่า การกระทำของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนำโดย ส.ส.พรรคเพื่อไทย โดยการแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มา ส.ว.แปลงวุฒิสภาเป็นสภาผัวเมีย ผิดทั้งกระบวนการ ปลอมร่างฯ ตัดสิทธิผู้อภิปราย เสียบบัตรแทนกัน พร้อมผิดมาตรา 68 วรรค 1 เป็นการกระทำให้ได้มาซึ่งอำนาจปกครองโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ โดยในเวลาต่อมาพรรคเพื่อไทยและ ส.ส.ได้ออกมา แสดงความไม่ยอมรับอำนาจและคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จนทำให้เกิดการลุกฮือขึ้นต่อต้านของประชาชนจำนวนมาก ขณะที่ทางพรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบใดๆ