นายกฯ รักษาการ พร้อมบรรดา รมต.พบปะสาวกที่สถานีรถไฟอุดรฯ ก่อนต่อไปหนองคาย เพื่อตรวจเส้นทางรถไฟ และโชว์รอยช้ำสื่อหลังพบปะสาวก เกาะติด กปปส.เยือนบ้านด้วยวรจรปิด เชื่อไม่บานปลาย “ประชา” โวอุดรฯ ไม่ใครเป่านกหวีด ชี้ปล่อยประชิดบ้านนายกฯ เหตุรู้ทันอยากให้รุนแรง ก่อนนายกฯ จะตรวจงานไปมึนไป และไม่แคล้วเจอนกหวีดจนได้ที่หนองคาย แดงฉุนเลือดกุ๊ยขึ้นจัดหวิดปะทะ
วันนี้ (22 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน เมื่อเวลา 09.45 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข นายวิสาร เตชะธีระวัฒน์ รมช.มหาดไทย นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง พบปะมวลชนที่บริเวณสถานีรถไฟอุดรธานี ที่มารอต้อนรับอย่างเป็นจำนวนมาก ก่อนจะนำคณะนั่งรถไฟจากสถานีรถไฟอุดรธานี ไปยังสถานีรถไฟหนองคาย เพื่อตรวจเส้นทางเดินรถไฟที่จะเชื่อมต่อไปยังประเทศลาว ทั้งนี้ ในระหว่างนั่งรถไฟ นายกฯ ได้โชว์รอยช้ำรอยขีดข่วนที่แขนและมือที่เกิดจากการพบปะประชาชนที่มารอให้การต้อนรับให้สื่อมวลชนได้บันทึกภาพ โดยนายกฯ ได้ทายาแก้รอยฟกช้ำ โดย พล.ต.อ.ประชา ในฐานะเจ้าของพื้นที่ ระบุว่า จ.อุดรธานีไม่มีการเป่านกหวีดเลย ซึ่งนายกฯ ได้กล่าวชื่นชมและขอบคุณในการต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยในขบวนรถไฟนี้ นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร ได้ร่วมขบวนรถไฟในครั้งนี้ด้วย
ทั้งนี้ นายกฯ และพล.ต.อ.ประชาได้ติดตามสถานการณ์ชุมนุมในกรุงเทพมหานคร ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะบริเวณหน้าบ้านซอยโยธินพัฒนา 3 จากภาพกล้องวงจรปิดซึ่งนายกฯ ยอมรับว่าเป็นห่วงสถานการณ์ที่กรุงเทพฯ และจะติดตามอย่างใกล้ชิด แต่เชื่อว่าสถานการณ์จะไม่บานปลาย เป็นเพียงแค่แสดงสัญลักษณ์ จากนั้นจะเดินทางกลับ
ด้าน พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า ที่ยอมให้กลุ่มผู้ชุมนุม เดินทางเข้าไปประชิดถึงบริเวณหน้าบ้านนายกฯ นั้น เพราะไม่ต้องการให้เกิดการปะทะ เนื่องจากผู้ชุมนุมต้องการให้เกิดความรุนแรง แต่ก็ให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความระมัดระวัง โดยเฉพาะมือที่สามที่อาจเข้ามาสร้างสถานการณ์ รวมถึงจุดอื่นๆ ที่มีการชุมนุมด้วย และมั่นใจว่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ เพราะเจ้าหน้าที่ได้เตรียมแผนรองรับในทุกจุดแล้ว
ต่อมานายกฯ ได้ลงที่สถานีรถไฟนาทา จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นจุดสถานที่ก่อสร้างสถานีขนส่งสินค้าทางคอนเทนเนอร์ ดูระบบคันกลับประแจและเครื่องทางสะดวก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ระบุเครื่องทางสะดวก ร.ฟ.ท.ใช้งานมากว่า 70 ปีแล้ว ขณะที่ประเทศอื่นเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์หมด นายกฯ ถึงกับมีสีหน้าตกใจ
ต่อมานายกฯ ไปตรวจเยี่ยมด่านศุลากากรหนองคาย จุดสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 อ.เมือง จ.หนองคาย โดยมีนายวิวัฒน์ ลิ้มสุวัฒน์ ผู้ว่าฯ จ.หนองคาย ให้การต้อนรับ ซึ่งสะพานแห่งนี้จะครบรอบ 20 ปี 8 เม.ย. 57 โดยรัฐบาลไทย-ลาวจะจัดงานเฉลิมฉลองอย่างเป็นทางการร่วมกัน
ทั้งนี้ นายกฯ ได้สอบถามถึงปัญหายาเสพติด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่รายงานว่าหลังจากตรวจเข้มการลักลอบขนยาเสพติดลดน้อยลง
จากนั้นเวลา 12.00 น. นายกฯ และคณะเดินทางไปยังรับประทานอาหารกลางวัน ที่ร้านแดง แหนมเนื่อง จ.หนองคาย ริมโขง ปรากฏว่าระหว่างทางได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลประมาณ 7-8 คนเป่านกหวีดตะโกนไล่นายกฯ อยู่ข้างทาง ขณะที่คนเสื้อแดงที่ จ.หนองคาย ที่มาในขบวนนายกฯ ไม่พอใจลงไปต่อว่า “ทำอย่างนี้ได้ยังไง ทำไมเจ้าหน้าที่ปล่อยให้เป่านกหวีดไล่นายกฯ” และจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปดึงนกหวีดออก แต่ขณะผู้หญิงที่เป่านกหวีดบอกว่า “ทำไมจะทำอย่างนี้ไม่ได้ เป็นสิทธิ เพราะเป่าอยู่หน้าบ้านตัวเอง” ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเพียงแต่ควบคุมสถานการณ์
ต่อมา เวลา 14.30 น.ที่สวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู นายกฯได้เข้าสักการะศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จากนั้นได้ปล่อยปลาจำนวน 30,000 ตัว ที่หนองบัว ซึ่งอยู่บริเวณด้านหลังศาล โดยมีข้าราชการ ประชาชนมารอต้อนรับเป็นจำนวนมาก และเดินทางตรวจเยี่ยมผู้ป่วยและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) ฟังรายงานการดำเนินงานโครงข่ายประกันสุขภาพ การส่งต่อผูัป่วยจากโรงพยาบาลชุมชนไปยังโรงพยาบาลจังหวัด เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากร และพบปะมวลชนที่โรงพยาบาลภูหลวง อ.หนองคัน อ.ภูหลวง จ.เลย ก่อนเดินทางไปที่อ.เชียงคาน จ.เลย เพื่อเข้าที่พัก