รักษาการนายกฯ เยือนท่าอากาศยานสุรินทร์ภักดี ตรวจความคืบหน้าหลังให้คมนาคมทำบินพาณิชย์ เที่ยวเขมร ก่อนนั่งรถไฟไปศรีสะเกษ เจอทั้งสาวกแห่เชียร์และม็อบนกหวีดไล่ ก่อนลงมาถ่ายรูปกับแฟนคลับที่สำโรงทาบ “ชัชชาติ” อ้างมาดูเพื่อทำชินคันเซ็นเชื่อมลาวใต้
วันนี้ (18 ธ.ค.) ที่ จ.สุุรินทร์ เมื่อเวลา 09.40 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมด้วยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รักษาการ รมว.คมนาคม นายพีรพันธุ์ พาลุสุข รักษาการ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รักษาการ รมช.คลัง นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ รักษาการ รมช.มหาดไทย ลงพื้นติดตามความคืบหน้าการพัฒนาท่าอากาศยานสุรินทร์ภักดี เป็นท่าอากาศยานในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ต.นอกเมือง อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์ ห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งเป็นสนามบินทหารให้เป็นสนามบินพาณิชย์ตามมติ ครม.โดยให้ อบจ.ดำเนินการ แต่มีปัญหาติดขัดเนื่องจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินท้วงติง อบจ.ไม่มีอำนาจครอบคลุมทางอากาศ กรมการบินพลเรือนจึงดูแลแทน
ขณะที่นายกฯ เปิดเผยว่า เป็นการตรวจดูความคืบหน้างานหลังจากลงพื้นที่ ครม.สัญจรที่จังหวัดสุรินทร์ที่ผ่านมา ที่ได้มอบให้กระทรวงคมนาคมไปดำเนินการพัฒนาเป็นสนามเชิงพาณิชย์ เนื่องจากภาคเอกชนได้ร้องขอช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง เนื่องจากอยู่ในตัวเมือง จ.สุรินทร์ เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว อยู่ใกล้กับนครวัด นครธม บ้านช้าง มีด่านชายแดน ด้วยจึงเหมาะที่จะนำมาพัฒนาร่วมกันได้ ซึ่งสามารถรองรับเครื่องบินขนาดเล็ก 30-40 ที่นั่ง จึงได้มีการประสานไปยังเครืองบินเอกชน นกมินิไว้รองรับเที่ยวบิน ทั้งนี้ หากมีการตอบรับทางการตลาดเป็นอย่างดี ก็ยังมีพื้นที่ที่สามารถขยายรันเวย์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดใช้เป็นสนามบินเชิงพาณิชย์ได้ในเดือนนี้
ต่อมาเวลา 10.20 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เดินทางมาถึงสถานีรถไฟบุฤๅษี อ.เมือง จ.สุรินทร์ เพื่อนั่งรถไฟชั้น 3 ขบวนพิเศษ เลขที่ 933 เลขตู้ กซข. 1104 เดินทางไปจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อตรวจราชการเส้นทางรถไฟสายสุรินทร์-ศรีสะเกษ โดยมีประชาชนมารอต้อนรับและส่งขึ้นรถไฟถึงชานชาลา และจากนั้นขณะที่ขบวนรถไฟแล่นผ่าน “สถานีเมืองที” ได้มีประชาชนประมาณ 10 คนยืนอยู่บริเวณชานชาลาสถานีได้เป่านกหวีดขับไล่ พร้อมโบกธงชาติใส่ขบวนรถไฟที่คณะนายกฯ แล่นผ่าน ต่อมาเมื่อบวนรถไฟได้แล่นผ่าน “สถานีศีขรภูมิ” ได้มีประชาชนประมาณ 300 คนมารอให้การต้อนรับและมีประชาชนบางส่วนสอดแทรกเข้ามาเป่านกหวีดและตะโกนขับไล่ แต่ทั้งฝ่ายไม่มีการปะทะกันแต่อย่างใด
จากนั้นขบวนรถไฟมาหยุดที่สถานีสำโรงทาบ อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ และนายกฯ ได้ลงมาเดินทักทายประชาชนที่มาต้อนรับจำนวนมาก โดยมีการมอบดอกกุหลาบ ขอถ่ายรูปและตะโกนให้นายกฯ สู้ๆ ซึ่งทำให้นายกฯมีสีหน้าที่ยิ้มแย้ม
โดยนายชัชชาติกล่าวว่า การนั่งรถไฟของนายกฯ วันนี้เป็นการดูความพร้อมของเส้นทางรถไฟความเร็วสูง ที่ทำความเร็วได้ถึง 190 กม./ชม. เส้นอีสานใต้ ที่จะยาวตั้งแต่จ.นครราชสีมาไปถึงจ.อุบลราชธานี โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น และเส้นทางนี้จะต่อเนื่องไปยังเมืองปากเซ สปป.ลาว ตามความต้องการของ สปป.ลาว ระยะทางจากอุบลฯ ถึงปากเซประมาณ 100 กม. ทั้งนี้การมาดูความพร้อมเพื่อให้รัฐบาลหน้าดำเนินการต่อไป ส่วนตนจะได้กลับมาทำต่อหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับประชาชนจะเลือกเข้ามา
นายชัชชาติกล่าวอีกว่า การที่พานายกฯมาขึ้นรถไฟครั้งนี้หลังจากมีการปรับปรุงการเดินรถจากที่วิ่งได้ 60กม./ชม. มาเป็น 90-100 กม./ชม. ส่วนรถส่งสินค้าเดิมวิ่งได้ประมาณ 30 กม./ชม. ก็เป็น 80 กม./ชม. ซึ่งจะปรับปรุงทั่วประเทศ ซึ่งสายสุรินทร์ถึงศรีสะเกษระยะทาง 1-กม.ก็ใช้เวลา 1 ชั่วโมง
สำหรับขบวนรถไฟเมื่อถึงจังหวัดศรีสะเกษแล้วนายกฯและคณะจะนั่งรถยนต์ต่อไปยังจังหวัดยโสธรเพื่อตรวจและเยี่ยมชมสินค้าเกษตร อาทิ หอมแดง และจากนั้นจะเดินทางต่อไปค้างแรมที่จังหวัดร้อยเอ็ดเพื่อรอปฏิบัติภารกิจในวันถัดไป