อภิปรายทางวิชาการ “ทำไมต้องปฏิรูป ก่อนเลือกตั้ง” เจ้าของอสังหาฯ ดังชี้ถ้าเลือกตั้งก่อนปฏิรูปประเทศไม่สำเร็จ รัฐใช้ประชานิยม ใช้เงินเกินตัว สร้างรัฐแห่งความกลัว ทำประเทศล่มจมไม่ต่างกรีซ นักวิชาการเผยรัฐบาลสืบทอดอำนาจ โกหกสีขาว เชื่อถือไม่ได้ “ยะใส” ลั่นเลือกตั้งครั้งนี้แค่พิธีกรรมต่ออายุ “ระบอบทักษิณ” ลั่น กปปส.ไม่ทำสัตยาบันรัฐบาลทรยศประชาชนเด็ดขาด
วันนี้ (17 ธ.ค.) ที่คณะเศรษฐศาสตร์ เครือข่ายจุฬาเชิดชูคุณธรรมนำประชาธิปไตย (จคป.) จัดการอภิปรายทางวิชาการ หัวข้อ “ทำไมต้องปฏิรูป ก่อนเลือกตั้ง” ที่ห้องประชุม ตึกมหิตลาธิเบศร ห้อง 212 ดำเนินรายการโดย นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ มีผู้เข้าร่วมฟังการอภิปรายหลายร้อยคน
มีผู้ร่วมอภิปราย เช่น นายสุริยะใส กตะศิลา หนึ่งในแกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ศ.นพ.นรินทร์ หิรัญสุทธิกุล อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พล.ต.ท.สมเกียรติ พ่วงทรัพย์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล นายกิตติ ธนากิจอำนวย ประธานกรรมการบริหารบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ และ ผศ.ดร.วีระศักดิ์ เครือเทพ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
นายกิตติ ขึ้นเวทีอภิปรายในฐานะนักธุรกิจ กล่าวว่า รัฐบาลใช้นโยบายประชานิยม ใช้เงินเกินตัวมากมาย ผูกขาดอำนาจด้วยการสร้างรัฐแห่งความกลัว จะส่งผลให้เศรษฐกิจตกต่ำอย่างรุนแรง และนำไปสู่การล่มสลายอย่างแน่นอน ไม่ต่างจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับประเทศกรีซ จากความคิดเห็นส่วนตัวยืนยันว่า ถ้ามีการเลือกตั้งก่อนจะไม่มีทางปฏิรูปสำเร็จ เพราะไม่สามารถคาดหวังได้ว่าบุคคลที่มีผลประโยชน์ทางการเมือง เป็นนักเลือกตั้ง จะดำเนินการปฏิรูปประเทศให้
“เมื่อปฏิรูปแล้ว นักการเมืองต้องเป็นบุคคลสาธารณะ ต้องไม่มีธุรกิจส่วนตัว ตัดตนเองออกจากผลประโยชน์อื่นๆ และทำเพื่อประชาชนไปตลอดชีวิต อย่างที่เราไม่เคยเห็นมหาตมะ คานธี ทำธุรกิจ” นายกิตติ กล่าว
ผศ.ดร.วีระศักดิ์ กล่าวว่า การเข้าสู่การเลือกตั้งจะเป็นวิถีที่จะนำไปสู่การสืบทอดอำนาจของรัฐบาล และไม่เพียงพอที่จะสร้างสัญญาประชาคมที่แท้จริง จากในอดีตที่เคยเกิดกรณีการโกหกสีขาว หรือการออกกฎหมายนิรโทษกรรม ซึ่งทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจ เชื่อถือไม่ได้ ขณะที่นโยบายที่หาเสียงก็ทำไม่ได้จริง
“ประเทศต้องการการปฏิรูปการกระจายอำนาจ ปฏิรูประบบการเลือกตั้ง ปฏิรูปการป้องกันการทุจริตและทำให้ราชการเป็นระบบวิชาชีพ ไม่เป็นทาส แต่รัฐบาลปัจจุบันไม่แสดงท่าทีสู่การปฏิรูป ยังไม่หยุดชวนทะเลาะ หยุดใส่ร้าย การแถ การข่มขู่คุกคาม การให้ข้อมูลบิดเบือน อย่างน้อยถ้าจะให้มีการเลือกตั้ง จะต้องปฏิรูประบบการเลือกตั้งก่อน หรือหาก กกต.เห็นว่าสถานการณ์บ้านเมืองอาจทำให้มีปัญหาเกิดขึ้นระหว่างการเลือกตั้ง เชื่อว่ามีกฎหมายมาตรา 108 ที่ให้อำนาจยับยั้งหรือเลื่อนการเลือกตั้งไปก่อนได้” ผศ.ดร.วีระศักดิ์ กล่าว
นายสุริยะใส กล่าวว่า ถ้าปล่อยให้มีการเลือกตั้งก่อน จะทำให้การปฏิรูปถูกปิดตาย เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเพียงพิธีกรรมต่ออายุให้ระบอบทักษิณ ซึ่งเป็นภัยคุกคามการปฏิรูป และจะได้ระบอบการเมืองแบบเก่ากลับมาอีก ดังนั้น จึงขอประกาศยืนยันว่าจะไม่ทำสัตยาบันกับรัฐบาลที่ทรยศต่อประชาชนเด็ดขาด ทั้งนี้ กปปส.ไม่ได้ต่อต้าน แต่ต้องการเห็นการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม
นายสุริยะใส กล่าวเรียกร้องให้ กกต.พิจารณาว่าควรจะให้มีการเลือกตั้งหรือไม่ เชื่อว่าจะเห็นกรณีการทำให้บัตรเลือกตั้งกลายเป็นบัตรเสียเกิดขึ้นอย่างแพร่หลาย และจะเป็นการนับหนึ่งความแตกแยกรอบใหม่ รัฐบาลที่จะกลับมาจะเผชิญความขัดแย้งหนักกว่าเดิม
“จะต้องทำความเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันว่าไม่ปกติ คือ มีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่เป็นประวัติศาสตร์ทั้งในเชิงปริมาณคนและข้อเรียกร้อง ไม่ใช่ความขัดแย้งระหว่างสีเสื้อ อีกทั้งการยุบสภาครั้งนี้ต่างจากที่ผ่านมา เป็นการยุบสภาหลังถูกประชาชนจับได้ว่ารัฐบาลจงใจฉีกรัฐธรรมนูญ ลักลอบออกกฎหมายเพื่อพวกพ้องตนเอง ซึ่งเห็นได้ชัดว่าการยุบสภาไม่ทำให้สถานการณ์คลี่คลาย ที่ชัดเจนคือรัฐบาลยังไม่ยกเลิกประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง” นายสุริยะใสกล่าว
นายสุริยะใส กล่าวตอบคำถามผู้ร่วมฟังการอภิปรายว่า ขณะนี้ยังรอจับตาคำชี้ขาดของ ป.ป.ช.กรณีคดี ส.ส.-ส.ว.358 คน ลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งหากถูกชี้มูลว่าปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็จะพ้นการรักษาการทันที
รายงานข่าวแจ้งว่า การเสวนาทางวิชาการจะมีอีก 2 เวทีที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง วันที่ 18 ธ.ค.และที่สถาบันพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) วันที่ 19 ธ.ค.นี้