xs
xsm
sm
md
lg

“ประพันธ์” ชี้ 312 ส.ส.-ส.ว.ยังลงสมัครได้ หากถูก ป.ป.ช.ชี้มูล เหตุยังไม่ติดคุก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารการเลือกตั้ง (ภาพจากแฟ้ม)
กกต.เตรียมประกาศวันรับสมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 23-27 ธ.ค. แบ่งเขต 28 ธ.ค.-1 ม.ค. 57 เลือกตั้งล่วงหน้า 26 ม.ค. 57 เผยใช้การแบ่งเขตแบบเดียวกับปี 54 แต่ลดจำนวน ส.ส.สุโขทัย เพิ่ม ส.ส.นนทบุรี ตามจำนวนประชากร ไม่เชื่อว่าจะไม่มีเลือกตั้ง แม้ ป.ป.ช.จะฟัน 312 ส.ส.-ส.ว. ไม่มีผลทำให้ขาดคุณสมบัติ ถ้ายังไม่มีคำพิพากษาศาลถึงที่สุดให้จำคุก


วันนี้ (12 ธ.ค.) นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารงานเลือกตั้ง แถลงว่าที่ประชุม กกต. มีมติเห็นชอบประกาศ กกต.ให้มีการรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อในวันที่ 23-27 ธ.ค. และแบบแบ่งเขตเลือกตั้งวันที่ 28 ธ.ค. - 1 ม.ค. 57 เวลา 08.30-16.30 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ และกำหนดวันเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตจังหวัดและนอกเขตจังหวัดในวันอาทิตย์ที่ 26 ม.ค. 57 โดยผู้ที่ประสงค์จะใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าจะต้องยื่นขอลงทะเบียนใช้สิทธิก่อน ซึ่งประกาศ กกต.ดังกล่าวทางสำนักงาน กกต.จะได้มีการนำลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป ส่วนการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ทาง กกต.จะมีการหารือกับกระทรวงการต่างประเทศอีกครั้ง ส่วนที่การรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อเบื้องต้นอยู่ระหว่างการประสานขอใช้สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง

สำหรับการแบ่งเขตเลือกตั้งนั้นจะยึดเขตเลือกตั้งเดิมเมื่อการเลือกตั้งวันที่ 3 ก.ค. 54 แต่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในบางจังหวัดที่มีการเพิ่มลดของจำนวนประชากร ซึ่งเบื้องต้นมี 2 จังหวัดที่มีการเปลี่ยนแปลงของประชากร โดย จ.นนทบุรี จะมีจำนวน ส.ส.เพิ่มขึ้นจาก 6 คนเป็น 7 คน และ จ.สุโขทัย ลดลงจาก 4 คนเหลือ 3 คน ซึ่งในวันจันทร์ที่ 16 ธ.ค.นี้ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทั่วประเทศจะได้นำเสนอข้อมูลต่อ กกต.เพื่อพิจารณาเรื่องของการแบ่งเขตเลือกตั้งและจะได้เสนอไปยังพรรคการเมืองเพื่อขอความเห็นต่อไป

ทั้งนี้ นายประพันธ์ยังระบุว่า มองไม่เห็นว่าจะไม่มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะเมื่อมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งแล้วทุกอย่างก็ต้องเดินหน้าตามที่กฎหมายกำหนด โดยไม่เห็นด้วยกับแนวทางให้ กกต.ชุดปัจจุบันและว่าที่ กกต.ชุดใหม่ลาออก รวมถึงแม้จะมีการคาดการณ์ว่าอาจจะมีการชี้มูลอดีต ส.ส. 312 คนในคดีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับที่มา ส.ว.ของคณะกรรมการป้องกันและปราบการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ก่อนจะมีการเลือกตั้งก็ไม่มีผลให้การเลือกตั้งครั้งนี้ต้องหยุดลง เพราะตามกฎหมายกำหนดลักษณะต้องห้ามของการลงสมัครรับเลือกตั้งไว้เพียงเป็นผู้ที่ถูกคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก ดังนั้น แม้ ป.ป.ช.ชี้มูลอดีต ส.ส. 312 คน ถ้ายังไม่มีคำพิพากษาศาลถึงที่สุดให้จำคุก ก็ยังมีสิทธิเป็นผู้สมัครอยู่

“จริงๆ ส่วนตัวยังเห็นว่าแม้จะมี พ.ร.ฎ.เลือกตั้งแล้ว แต่การดำเนินการทางการเมืองต่างๆ ยังคงเดินต่อไปได้ เพราะกว่าจะถึงวันสมัคร ถึงวันเลือกตั้ง ยังมีเวลาที่รัฐบาลกับฝ่ายผู้ชุมนุมจะได้เจรจาหารือทำเป็นข้อตกลงระหว่างกันว่า เมื่อเลือกตั้งแล้วจะเดินหน้าปฏิรูปกันอย่างไร และผมคิดว่าบรรยากาศความขัดแย้งทางการเมืองขณะนี้ไม่เหมือนปี 2549 ที่พรรคการเมืองจะไม่ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง ในทางตรงกันข้ามเชื่อว่าพรรคการเมืองจะต้องยิ่งส่งผู้สมัครลงรับสมัครให้ครบทุกเขต เพราะประชาชนมีความตื่นตัวมาก แล้วพรรคการเมืองและผู้สมัครก็ต้องแสดงวิสัยทัศน์ให้ประชาชนได้พิจารณาว่าหากตัดสินใจเลือกเข้ามาแล้วจะบริหารและปฎิรูปประเทศอย่างไร รวมถึงสังคมก็ไม่ควรไปมองว่าถ้าเลือกตั้งแล้วก็จะได้พวกคนเก่าๆ เข้ามา เพราะที่ผ่านมาผลการเลือกตั้งพลิก โพลล์แต่ละสำนักก็หน้าหงายกันมาหลายครั้งแล้ว” นายประพันธ์กล่าว

นายประพันธ์ยังหวังว่าการเจรจาจะเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง โดยยืนยันตราบใจที่ยังมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง กกต.ก็จะดำเนินการจัดการเลือกตั้งต่อไป และไม่เห็นด้วยกับแนวทางเรียกร้องให้ กกต.ลาออก และเรื่องการชี้มูลของ ปปช.กับ 312 ส.ส.และ ส.ว.ก็ไม่มีผลเพราะเป็นเพียงการชี้มูล


กำลังโหลดความคิดเห็น