xs
xsm
sm
md
lg

“สุเทพ” จวก “ปู” อย่าตะแบงเกาะเก้าอี้-เร่งนัด ผบ.สส.ถกผู้นำเหล่าทัพก่อน 2 ทุ่มพรุ่งนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สุเทพ” จวก “ยิ่งลักษณ์” หยุดตะแบงรักษาการนายกฯ ชี้ข้ออ้างลาออกแล้วผิดกฎหมายฟังไม่ขึ้น เผยติดต่อ ผบ.ทบ.-ผบ.ตร.ได้แล้ว รอ ผบ.สส.นัดทุกเหล่าทัพ, ความชัดเจนยื่นข้าง ปชช.พร้อมกันก่อน 2 ทุ่มพรุ่งนี้



เมื่อเวลา 19.40 น.วันนี้ (11 ธ.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส.ขึ้นเวทีปราศรัยที่แยกนางเลิ้งว่า วันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังเถียงข้างๆ คูๆ ว่ายังเป็นนายกฯ อยู่ และมาจากการเลือกตั้ง 15 ล้านคน แต่เราบอกว่าคนที่ออกมาเดินขบวนต่อต้านรัฐบาล 5 ล้านคน เป็นตัวแทนคนกว่า 20-30 ล้านคน ดังนั้นคนจำนวนมากไม่เอาอำนาจรัฐบาล ทำให้รัฐบาลหมดความชอบธรรมแล้ว

วันนี้นายกฯ ไม่เถียงเรื่องความชอบธรรม แต่เถียงว่าออกจากตำแหน่งไม่ได้ เนื่องจากจะผิดกฎหมาย จึงขอยกตัวอย่างว่า หากคณะรัฐมนตรีเดินทางโดยขึ้นเครื่องบินทั้งหมดและเครื่องบินตกตายทั้งลำจะทำอย่างไร ซึ่งที่จริงแล้วถึงคณะรัฐมนตรีตายหมด ประเทศไทยก็อยู่ได้ เพราะฉะนั้นอย่าตะแบง ขอให้นายกฯ ลาออกจากการรักษาการ รัฐมนตรีก็ลาออกหมดทำให้ว่างรัฐบาลเหมือนเครื่องบินตก ก็ตั้งรัฐบาลใหม่มารักษาการได้ คนไทยให้โอกาสมาร่วมกันแก้ปัญหาบ้านเมืองอย่างละมุนละม่อม และเสนอแนวทางไปแล้ว

ส่วนการที่คณะกรรมการ กปปส.มีมติว่าขอเข้าพบผู้บัญชาการเหล่าทัพ และ ผบ.ตร.เพื่อให้มีโอกาสซักถามสิ่งที่ยังไม่ชัดเจน โดยไปพบทั้งคณะ 40 คน และพร้อมตอบทุกข้อทุกประเด็น แต่เรื่องนี้ไม่ใช่การกดดัน หวังว่าถ้าแม่ทัพนายกอง รวมทั้ง ผบ.ตร.ได้ฟังและซักถามจนเข้าใจแล้วจะได้ตัดสินใจว่าสมควรแล้วหรือไม่ที่จะย้ายข้างมาอยู่ข้างประชาชน หากตัดสินใจอย่างอื่นก็จะได้รู้ นอกจากนี้จะมีการพบกับองค์กรภาคเอกชน โดยตั้งใจจะให้เสร็จก่อนเวลา 20.00 น.วันที่ 12 ธ.ค.

นายสุเทพกล่าวต่อว่า ได้ติดต่อไปยัง ผบ.สส. ผบ.ทบ.และ ผบ.ตร.ขณะนี้ยังติดต่อ ผบ.สส.ไม่ได้ แต่พูดโทรศัพท์กับ ผบ.ทบ.แล้ว และยินดีที่จะพูดคุย แต่ให้ติดต่อ ผบ.สส.เนื่องจากเป็นผู้บังคับบัญชา และให้เรียกพบกันครั้งเดียวทั้งหมด รวมทั้งโทรศัพท์ไปยัง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ว่า ขอนำคณะกรรมการ กปปส.เข้าพบเป็นทางการ เพื่อชี้แจงว่าประชาชนคิดอะไรอยู่ ซึ่ง พล.ต.อ.อดุลย์ก็ยินดี แต่ให้ติดต่อ ผบ.สส.เพื่อพบครั้งเดียวกัน ขณะนี้จึงรอคำตอบจาก ผบ.สส.เพียงคนเดียว จึงต้องขออนุญาตว่าวันนี้พยายามติดต่อมากว่าครึ่งวัน ไม่สามารถติดต่อได้ หาก ผบ.สส.ทราบแล้ว ขอให้รับทราบว่าคณะกรรมการ กปปส.เห็นว่ามีความจำเป็นที่จะพบกันเป็นทางการก่อน 20.00 น.ขอให้จัดการพบกับ ผบ.เหล่าทัพ และ ผบ.ตร.ด้วย ทั้งนี้จะไม่ละความพยายาม จะติดต่อ ผบ.สส.อย่างต่อเนื่อง เพราะต้องการพบจริงๆ ทั้งนี้สิ่งที่ประชาชนกำลังต่อสู้ครั้งนี้เพื่อประเทศไทย เพื่อคนไทยทั้งแผ่นดิน ไม่มีประโยชน์อื่นแน่นอน

นายสุเทพปราศรัยในตอนหนึ่งอีกว่า มีคนไปบิดเบือนเรื่องการปรับโครงสร้างตำรวจว่าจะให้ตำรวจไปขึ้นกับ อบต.เพื่อให้ตำรวจเกลียด กปปส. ทั้งที่จริงแล้วการปรับโครงสร้างตำรวจเราต้องการให้ตำรวจไม่ต้องไปขึ้นกับคนคนเดียว เวลาจะแต่งตั้งโยกย้ายก็ไม่ต้องบินไปหาทักษิณ มีการซื้อขาบยตำแหน่ง แต่จะให้ตำรวจขึ้นตรงกับผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งมาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรง

คำต่อคำ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ปราศรัย 11 ธ.ค.56 เวลา 19.30 น.

“พี่น้องผู้รักชาติรักแผ่นดินที่ได้ยืนหยัดต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมา เพื่อที่จะขจัดระบอบทักษิณให้หมดสิ้นไปจากประเทศไทย และร่วมกันเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ให้เป็นประชาธิปไตยให้สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และจะได้ปฏิรูปประเทศไทยด้วยมือของเราเอง ผมขอกราบสวัสดีพี่น้องทุกเวทีทุกจังหวัดครับ สวัสดีครับ

ก่อนอื่นได้ขอขอบคุณพี่น้องทั้งหลายครับ หัวใจยิ่งใหญ่เหลือเกินยืนหยัดต่อสู้อย่างเหนียวแน่น ไม่บ่นไม่ท้อ ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ผมคิดว่าวันนี้คนทั่วโลกกำลังจับตาดูว่า พี่น้องประชาชนคนไทยของเราที่ลุกขึ้นมาต่อสู้ในครั้งนี้ จะได้สร้างประวัติศาสตร์ไว้ให้มวลมนุษยชาติทุกชาติในโลก ได้ยึดถือเป็นแบบอย่าง เพราะว่าเป็นการต่อสู้ของพลเมืองดีที่สู้อย่างสันติ สงบ ปราศจากอาวุธ ไม่มีความรุนแรงใดๆ เลย

พี่น้องทั้งหลายครับ ท่านกำลังสร้างประวัติศาสตร์ที่โลกจะต้องจารึก และยกย่องท่านทั้งหลายทุกคน ปรบมือให้ตัวเองด้วยครับ เราต่อสู้ร่วมกันมา 42 วันแล้ว เฉพาะเวทีของพวกเรานะครับ แต่เวทีของกองทัพธรรม กองทัพประชาชน คปท. เขาสู้มาก่อนหน้านั้นเป็นเดือน ทุกเวทียังมีพี่น้องประชาชนแน่นหนาต่อสู้กันอย่างเหนียวแน่น อย่างชนิดที่ต้องเรียกว่า มหัศจรรย์จริงๆ อันนี้ ต้องขอคารวะด้วยความเคารพทุกเวทีครับ

คนที่ร่วมการต่อสู้ในครั้งนี้ จากที่สามเสน พวกผมก็คิดว่า โอ้ว ถ้าได้ 3 แสน ก็สุดยอดแล้ว ที่ไหนได้ พอย้ายมาที่ราชดำเนินก็กลายเป็น 4 แสน 5 แสน 8 แสน เป็นล้าน วันที่ 24 พฤศจิกายน เราก็นึกว่านั่นสุดยอด คนเป็นล้านคนออกมาแสดงตนอย่างกล้าหาญ ประกาศตัวชัดเจนว่า ต้องการเห็นประเทศไทยเปลี่ยนแปลง ต้องการเห็นประเทศไทยมีการปฏิรูป และไม่ต้องการเห็นเห็นระบอบทักษิณมีอำนาจอยู่ในประเทศไทยอีกต่อไป นั้นก็ถือว่ามากมายที่สุด แต่ที่ไหนได้พอมาวันที่ 9 ธันวาคม พี่น้องประชาชนคนไทยก็ทำลายสถิติทุกหนทุกแห่งในโลก เพราะมีคนลุกขึ้นมาต่อสู้พร้อมกันตั้ง 4-5 ล้านคน

ผมต้องสารภาพกับพี่น้องตรงๆ ครับ นี่เป็นหัวอกหัวใจของคนเป็นกำนันเก่าอย่างผมจริงๆ ไม่คาดคิดมาเลยว่า จะมีพี่น้องประชาชนมากมายมหาศาลอย่างนั้นมาก่อน ไม่คาดคิดเรื่องจำนวนพี่น้องประชาชนที่ออกมาต่อสู้ ไม่ค่อยตรงไม่ค่อยถูกต้องก็ถือว่ายังเป็นเรื่องดีครับ เพราะว่าไม่คาดว่าจะมีคนมากขนาดนั้น แต่ที่แย่กว่านั้นก็คือว่า ไม่คาดว่าจะมีนายกรัฐมนตรีที่หน้าด้านขนาดนี้อยู่ อันนี้หนักมาก ผมเป็นกำนันอยู่บ้านนอก นี่ถ้าลูกบ้านออกมาเดินขบวนขับไล่กันมากมายอย่างนี้ กราบเท้าลาออกไปนานแล้ว แต่นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ แกสุดบรรยายจริงๆ ครับ ไม่ไปซักที พวกเราประชาชนทั้งหลายก็พยายามที่จะให้โอกาสแก่นายกฯ ยิ่งลักษณ์ พูดให้ฟังทุกอย่าง อธิบายให้ฟังทุกเรื่อง บอกว่าความเป็นรัฐบาลของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ หมดสภาพไปแล้ว ตั้งแต่วันที่รัฐบาล และรัฐสภาชุดนี้ประกาศไม่เคารพรัฐธรรมนูญ ไม่เคารพคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ทำตัวอยู่เหนือกฎหมายรัฐธรรมนูญ มันเท่ากับประกาศตัวเองเป็นโมฆะ เป็นพระก็ปราชิตอย่างที่ผมกราบเรียนแล้ว สิ้นความชอบธรรมตามกฎหมายโดยสิ้นเชิง นายกฯ ยิ่งลักษณ์ก็เถียงข้างๆ คูๆ บอกว่า ยังมีอำนาจอยู่ เป็นอำนาจที่มาจากการเลือกตั้ง เสียงข้างมากของประชาชนเลือกให้มาเป็นรัฐบาล เราก็บอกกับนายกฯ ว่า เสียงที่เลือกนายกฯ อาจจะมี 14 15 ล้านคน แต่คนที่ออกมาเดินขบวน 4-5 ล้านคน เป็นตัวแทนของคน 20 30 ล้านคนทั่วประเทศ แล้วนายกฯ เมื่อคนที่จะต้องถูกปกครองออกมาบอกว่า ไม่ยอมรับการปกครองของรัฐบาลนี้ ก็หมายความว่ารัฐบาลนี้หมดความชอบธรรมทางการเมืองลงอีกอย่างหนึ่ง ไม่เหลืออะไรแล้ว ความชอบธรรมทางกฎหมายก็หมด ความชอบธรรมทางการเมืองก็หมด เพราะฉะนั้น ประชาชนเขามาเอาอำนาจอธิปไตยของเขาคืน เขาจะไปบริหารจัดการเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้มันดีขึ้น ก็บอกนายกฯ ไปอย่างนี้

พี่น้องทั้งหลาย มาถึงวันนี้ นายกฯ ไม่เถียงแล้ว เรื่องว่ายังชอบธรรมทางกฎหมาย ยังชอบธรรมทางการเมืองหรือไม่ เที่ยวนี้ออกมาเถียงใหม่ ออกจากตำแหน่งไม่ได้ เพราะถ้าออกจะผิดกฎหมาย ไปอย่างนั้นอีก แล้วก็ให้คุณชัยเกษม รัฐมนตรียุติธรรม ไปประชุมนักกฎหมายออกมาพูดจาชี้แจงบอกไม่มีประเพณีปฏิบัติ ไม่มีในตำราประเทศนั้นอย่างไร ก็ต้องมีนายกรัฐมนตรีรักษาการอยู่ เราก็ได้บอกไปเมื่อคืนว่า ไม่จริงที่คุณจะอ้างว่าต้องมีนายกฯ ต้องมีคณะรัฐมนตรีรักษาการอยู่เสนอ ประเทศมันถึงจะอยู่ได้ไม่จริง เพราะในอดีตก็เคยมีแล้ว ผมได้ยกตัวอย่างสมัยจอมพลถนอม กิตติขจร เกิดเหตุที่ไม่ปกติท่านเห็นแก่ความสงบสุขของบ้านเมือง ท่านไม่ดึงดันลาออก และท่านก็ไปเมืองนอกเลย ไม่มีใครรักษาการ เขาถึงได้มีรองประธานสภานิติบัญญัติขึ้นไปกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสนอชื่อ อาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์มาเป็นนายกรัฐมนตรีบริหารราชการแทน นี่เขามีประเพณีปฏิบัติแล้ว ถ้าพูดกันอย่างนี้ยังไม่เชื่ออีก

แล้วจะยกตัวอย่างอะไรล่ะครับ คุณชัยเกษม จะให้ผมตัวอย่างหรือว่า เครื่องบินของนายกฯ ซึ่งบรรทุกคณะรัฐมนตรีไปทั้งคณะ บังเอิญโหม่งพื้นพสุธาตายหมดทั้งลำ แต่ประเทศไทยไยอยู่ได้อย่างนั้นว่าอย่างไรครับ นั่งไปลำเดียวกัน เอาล่ะขึ้นจากสุวรรณภูมิจะไปเชียงใหม่ มีครบทั้งไอ้ปึ้ง ไอ้เหลิม ชัยเกษมหมด แล้วก็ตายหมดลำ แล้วประเทศไทยจะทำยังไงอย่างนั้น อย่าหาว่า กำนันสุเทพใจร้ายไปแช่งให้ตายทั้งลำ ไม่ใช่ ผมยกตัวอย่างให้ฟัง เพราะถึงแม้คณะรัฐมนตรีทั้งชุดขึ้นเครื่องบินลำเดียวไปแล้วเครื่องบินตกตายหมดทั้งลำ ประเทศไทยก็อยู่ได้ ก็สามารถแก้ปัญหาที่ไม่ปกตินี้ได้แน่นอน

เพราะฉะนั้น เลิกตะแบงกันได้แล้ว คนไทยให้โอกาสแล้ว มาร่วมมือกันแก้ปัญหาบ้านเมืองอย่างละมุนละม่อมดีกว่า นายกฯ ยิ่งลักษณ์ทำง่ายนิดเดียว ลาออกจากการเป็นนายกฯ รักษาการ แล้วให้คณะรัฐมนตรีทั้งหมดลาออกหมด และไม่ตั้งใครมารักษาการอีก ประเทศไทยก็จะว่างรัฐบาลเหมือนกับตอนที่เครื่องบินตก หมดตายทั้งลำ แล้วเราก็เลือกใหม่ นายกฯ ก็จะไม่ต้องเถียงไงว่า มันไม่มีกฎหมายเขียนไว้ มันไม่เคยมีกฎหมายที่จะเขียนไว้โดยคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าว่า เครื่องบินของนายกฯ จะตก แล้วตายหมดทั้งลำ

เพราะฉะนั้นเมื่อเกิดเหตุนั้น เราก็ใช้กฎหมายที่มีอยู่แก้ไขสถานการณ์ประเทศไทย ซึ่งผมบอกแล้วว่า รัฐธรรมนูญ มาตรา 3 เขาบอกว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย และรัฐธรรมนูญมาตรา 7 เขาก็บอกว่า ในกรณีที่กฎหมายไม่ได้บัญญัติ และเป็นการเฉพาะก็ใช้ประเพณีปฏิบัติ ซึ่งเคยปฏิบัติกันมา เลือกคนเป็นนายกรัฐมนตรี ตั้งรัฐบาล และแก้ปัญหาวิกฤตของประเทศชาติต่อไป ทำแค่นี้จบแล้ว แต่นี่ก็ไม่ยอมทำ ให้โอกาสอย่างไรก็ตะแบงอยู่อย่างนั้น

พี่น้องทั้งหลายครับ วันนี้คณะกรรมการ กปปส.ก็เลยประชุมกันเต็มคณะทุกเครือข่าย ทุกองค์กรของประชาชนก็มาประชุมกัน เลยมีมติซึ่งกระผมได้แถลงต่อสื่อมวลชนไปเมื่อตอนบ่าย 4 โมง มติของเราก็คือว่า เราขอไปพบผู้บัญชาการทหารสูงสุด พบผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นผู้มีหน้าที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยความมั่นคงของประเทศเป็นคนสำคัญของบ้านเมือง เราขอไปพบกันเต็มคณะเลย 40 คน ไม่เอาม็อบไป ไม่เอาประชาชนไปเดินขบวนไปกดดันไม่มี เอาแต่คณะกรรมการตัวแทนประชาชนไปพบ แล้วก็พบกันอย่างเปิดเผยเป็นทางการ พบเพื่ออะไรครับพี่น้องครับ เพื่อจะอธิบายให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้นเข้าใจว่า มวลมหาประชาชนทั้งหลายในประเทศไทยนี้ ซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยเขามีเจตนารมณ์ร่วมกัน ที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้มันดีขึ้นให้เป็นระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบจริงๆ ต้องการที่จะปฏิรูปประเทศ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับพี่น้องประชาชนทุกฝ่ายทุกภาคส่วน ต้องการเห็นประเทศมีความเจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคง เป็นอนาคตที่ดีสำหรับลูกหลานไทยในวันข้างหน้าต้องการอธิบายสิ่งเหล่านี้

เพื่ออะไรครับ เพื่อบรรดาแม่ทัพนายกองทั้งหลาย ท่านผู้บัญชาการทั้งหลาย นอกจากได้ยินพวกเราชี้แจงแล้วจะได้มีโอกาสซักถาม ตรงไหนที่ยังไม่ชัดเจนตรงไหนที่ยังไม่เข้าใจจะได้ถามพวกเรา เพราะไปกันทั้งคณะ พร้อมที่จะตอบชี้แจงอธิบายทุกข้อทุกประเด็น นี้ไม่ใช่เป็นการกดดันอะไรเลยไม่ยอขบวนมวลชนเป็นหมื่นๆ แสนๆ ไปๆ กัน 40 คนเท่านั้น เราหวังอะไรครับ เราหวังว่าถ้าบรรดาแม่ทัพ นายกอง ขุนศึกเหล่านั้น รวมทั้งหัวหน้าใหญ่ของตำรวจ คือ ผบ.ตร. ได้ฟังเรา ได้ซักถามจนเข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว ท่านก็จะได้ตัดสินใจของท่านว่า สมควรหรือยัง ที่ท่านจะต้องย้ายข้างมายืนข้างเดียวกับประชาชน หรือว่าท่านจะตัดสินใจเป็นอย่างอื่น เราจะได้รู้กันไปซะที แล้วก็แถลงไปชัดเจนว่า นอกจากจะพบกับท่านผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บัญชาการตำรวจแล้ว คณะกรรมการ กปปส. ตั้งใจที่จะไปพบกับองค์กรภาคเอกชนทั้งหลายที่เขาประกาศตัว 7 องค์กรนั่นแหละ ทั้งหอการค้า สภาอุตสาหกรรม สมาคมธนาคาร สมาคมผู้ประกอบกิจการตลาดหลักทรัพย์ ตัวตลาดหลักทรัพย์เอง ทั้งหมด 7 องค์กรนั้น เราจะไปพบ เพราะเราไปในฐานะเป็นทูตของประชาชน ทูตของมวลมหาประชาชน ไปอธิบายให้เขาเข้าใจ ให้ชัดเจน และเปิดโอกาสให้เขาได้ซักถาม เรียกว่าเป็นการสื่อสาร 2 ทาง เราตั้งใจจะทำให้เสร็จสิ้นก่อน 2 ทุ่ม คืนวันพรุ่งนี้

พี่น้องทั้งหลาย หลังจากคณะกรรมการ กปปส.มีมติอย่างนี้ ผมหมุนโทรศัพท์ทันที ถึงท่านผู้บัญชาการทหารสูงสุด ถึงท่านผู้บัญชาการทหารบก ถึงท่านผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปรากฏว่า ยังติดต่อท่านผู้บัญชาการทหารสูงสุดไม่ได้ ผ่านอะไรต่างๆ ก็ไม่ได้ทั้งนั้น ไม่ทราบเป็นอะไร แต่ผมได้พูดโทรศัพท์กับท่านผู้บัญชาการทหารบก ต่อหน้าคณะกรรมการ กปปส.ทั้งหลาย ท่านผู้บัญชาการทหารบก บอกว่า ได้เลย ให้คณะกรรมการ กปปส.ติดต่อท่านผู้บัญชาการทหารสูงสุด เพราะเขาเป็นผู้บังคับบัญชาของ 3 เหล่าทัพ ท่านจะเรียกไปพบทีเดียวพร้อมกัน โดยเราไม่ต้องตระเวนไปพบทีละหน่วยๆ นี่คือคำตอบ

เช่นเดียวกัน วันนี้ เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่ผมได้พูดโทรศัพท์กับ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผมพูดโทรศัพท์กับ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว บอกว่า ท่านผู้บัญชาการตำรวจครับ ผมสุเทพ เทือกสุบรรณ นะ ที่ติดต่อมานะ ไม่ได้ติดต่อมามอบตัวนะครับ ติดต่อมาเจรจาความเมือง เรื่องที่ตำรวจตั้งข้อหาผมนะ ผมไม่หนีไปไหน ผมมอบตัวแน่นอน ขอให้ผมทำเรื่องของมวลมหาประชาชนเสร็จก่อน รับรองท่านสบายใจได้ ผมมอบตัวแน่นอน แต่ผมต้องการนำคณะ กปปส. ไปพบท่านเป็นทางการ พบกันต่อหน้าต่อตาอย่างเปิดเผย แล้วอธิบายให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเข้าใจว่า ประชาชนคิดอะไรอยู่ ประชาชนทั้งประเทศต้องการทำอะไร และถ้าท่านสงสัยจะได้ไต่ถาม พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว บอกว่ายินดีครับ ผมไปพบ พร้อมกับผู้บัญชาการเหล่าทัพเลย ขอให้ท่านสุเทพ ติดต่อท่านผู้บัญชาการทหารสูงสุด จะได้พบกันทีเดียว ทั้งผู้บัญชาการทหารสูงสุด และ 4 เหล่าทัพ นั่งพร้อมกันเลย ถามกันทีเดียว อธิบายกันทีเดียว ผมก็ได้ขอบคุณ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว และผมก็เรียนกับ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ว่า คุณอดุลย์ คุณเป็นตำรวจที่ดี และผมเคยชมคุณบนเวที คุณอดุลย์ บอกว่า ท่านครับ ผมทำตามหน้าที่ ผมบอกว่า ผมเข้าใจแต่ว่าขอซักอย่างเถอะ ไอ้ที่กำลังวางแผนว่า จะเอากำลังตำรวจมาสลายการชุมนุมนั้น อย่าทำเลย เลิกเสียเถอะคุณอดุลย์ เพราะไม่มีประโยชน์อะไร ผมได้เรียนกับคุณอดุลย์บอกว่า การเอากำลังเจ้าหน้าที่มาสลายผู้ชุมนุม มันจะทำให้เหตุการณ์ลุกลามบานปลายใหญ่โต และมันจะทำให้ไม่สามารถควบคุมอะไรได้ ผมยืนยันให้คุณอดุลย์สบายใจ ในฐานะที่เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ต้องรักษากฎหมาย ต้องรักษาความสงบของบ้านเมือง ประชาชนที่มานี้ เขาต่อสู้อย่างสงบ สันติ ไม่มีอาวุธ ไม่มีความรุนแรง อหิงสาจริงๆ ขอให้สบายใจ คุณอดุลย์ก็บอกว่า เข้าใจประชาชนดี นี่ผมก็ต้องเอามาเล่าให้พี่น้องฟังด้วยความตรงไปตรงมาว่า ผู้บัญชาการตำรวจบอกว่า เข้าใจพี่น้อง และการต่อสู้ของพี่น้องดี นี่คือคำที่ผมขออนุญาตมาถ่ายทอดครับ

พี่น้องทั้งหลาย เพราะฉะนั้นในขณะนี้ รอคำตอบจากบุคคลคนเดียวท่านเดียวคือ ท่านผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผมขออนุญาตท่านผู้บัญชาการทหารสูงสุดครับ ผมพยายามติดต่อท่านมาครึ่งวันวันนี้ ไม่สามารถติดต่อได้ ถ้าท่านได้ทราบด้วยอะไรก็แล้วแต่ เช่นลูกน้องท่านไปรายงาน หรือบังเอิญท่านเปิดทีวีมาได้ยินคำนี้พอดี ขอให้ได้รับทราบว่า พวกผมคณะกรรมการ กปปส. ซึ่งเป็นตัวแทนของมวลมหาประชาชน เห็นว่ามีความจำเป็นจริงๆ ที่เราจะได้พบกันอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้ก่อน 2 ทุ่ม ท่านช่วยจัดการให้เราได้พบท่าน และผู้บัญชาการเหล่าทัพทั้ง 4 เหล่าทัพด้วยเถอะครับ ท่านผู้บัญชาการทหารสูงสุดที่เคารพ ตอนนี้ก็ต้องฝากรักไปกับสายลมแบบนี้แหละ เพราะว่าโทรศัพท์มันไม่ได้ผล แต่ว่าผมก็จะไม่ละความพยายามคืนนี้จะหาทางโทรไปหาท่านที่บ้าน ท่านอย่ายกโทรศัพท์ออกเสียแล้วกัน พรุ่งนี้ตื่นเช้าก็ติดต่อๆ ไป ไม่ละความพยายาม จะติดต่อถึงท่านทั้งวัน ท่านอยู่ไหนในประเทศไทย ผมจะตามหาจนได้ เพราะต้องการพบจริงๆ และก็เรียนให้ท่านสบายใจ ไม่ไปคาดคั้นอะไรทั้งนั้น เพียงแต่ต้องการไปอธิบายไปชี้แจงว่า มวลมหาประชาชนคนไทยทั้งหลายต้องการที่จะทำเรื่องการเปลี่ยนแปลงการปฏิรูปประเทศไทยให้สำเร็จเสร็จสิ้น ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ ใช่หรือไม่ใช่พี่น้อง และถ้าท่านผู้บัญชาการทหารสูงสุดก็ดี ผู้บัญชาการทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ตำรวจ ท่านใดจะมีใจเมตตากับประชาชนจะให้คำแนะนำอย่างไรผมกำนันสุเทพ ที่เป็นตัวแทนนำคณะไปก็พร้อมที่จะน้อมรับคำแนะนำเหล่านั้น

แล้วจะมากราบเรียนกับพี่น้องประชาชนอย่างตรงไปตรงมาเปิดเผยให้ได้ยินได้ฟังกันหมดทั้งประเทศเหมือนกัน ทำนองเดียวกันครับพี่น้องครับพรุ่งนี้เมื่อได้พบกับผู้นำองค์กรภาคเอกชนทั้ง 7 องค์กรนั้น ก็จะทำอย่างเดียวกัน และหวังที่สุดว่าผู้นำองค์กรเอกชนทุกองค์กรคงจะมีข้อเสนอแนะ ข้อแนะนำ ให้ผมนำกลับมาฝากประชาชน ผมและเพื่อนๆ ทุกคนไม่ถือดีอะไรครับทำตัวนอบน้อมพร้อมที่จะรับคำชี้แนะ คำแนะนำทุกอย่าง ผมถือว่าเป็นกำนันต้นทุนต่ำใครมีความรู้ความสามารถแนะนำมา ถ้าเป็นความหวังดีต่อประเทศชาติต่อบ้านเมืองเราพร้อมยินดีที่จะรับฟัง หลายสมองหลายความคิดดีซะอีกจำทำให้สิ่งที่ประชาชนคิดจะเปลี่ยนแปลงจะปฏิรูปประเทศไทยมันได้รัดกุม และทำได้ราบรื่นรวดเร็วยิ่งขึ้น นี้ก็ยังตั้งใจนะครับ ว่า นอกจากพวกผู้บัญชาการเหล่าทัพทั้งหลาย ท่านผู้นำองค์กรเอกชนทั้งหลายแล้วยังมีผู้อาวุโสในบ้านเมืองที่พวกเราจะไปกราบไปขอไม่ว่าจะเป็นคุณอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เป็นที่นิยมยกย่องชื่นชมของประชาชน หรือบุคคลอย่างท่าน นพ.ประเวศ วะสี ซึ่งสนใจทำเรื่องการปฏิรูปประเทศไทยมาก่อน เราก็จะไปขอความรู้ไปขอคำแนะนำจากท่าน เพื่อให้เราได้ความรู้จากคนเหล่านี้แล้วใช้เวลาที่สั้นที่สุดปฏิรูปประเทศไทยให้เสร็จสิ้น แล้วก็ได้กลับไปสู่กระบวนการเลือกตั้งอย่างที่เขาประกาศกันมา แต่ต้องกราบเรียนยืนยันไว้ครับว่า เท่าที่ผมได้สัมผัสอยู่กับพี่น้องประชาชนเมื่อวันที่ 9 เดินกันมา 20 กว่ากิโลเมตร เดินไปคุยไปพักกันไป พี่น้องประชาชนยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า ถ้าจะไปเลือกตั้งตามที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์ประกาศยุบสภา และเชิญชวนให้ประชาชนกลับไปสู่การเลือกตั้งนั้น ประชาชนไม่สามารถยอมได้จริงๆ เพราะเห็นว่า ถ้าเลือกตั้งภายใต้กฎ กติกาเดิม กฎหมายเดิม วิธีการเดิมๆ ผลการเลือกตั้งก็จะออกมาเหมือนๆ เดิม และระบอบทักษิณก็ไม่หมดสิ้นไปจากประเทศไทยซะที มันจะเป็นวัฏจักรที่ชั่วร้าย จนไม่สามารถที่จะพาประเทศไทยก้าวไปข้างหน้าได้ ไม่สามารถแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันได้ ไม่สามารถที่จะกระจายอำนาจการปกครองไปยังประชาชนทุกหนทุกแห่งได้ด้วยระบบการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด

เพราะสภาฯ ที่มาด้วยการเลือกตั้งตามรูปแบบเดิมๆ ไม่มีวันยอมให้ออกกฎหมายอย่างนี้เป็นเด็ดขาด เพราะจะกระทบกระเทือนต่อนายทาส เจ้าของเงินทุนที่ใช้เงินซื้อคะแนนเสียงให้เขามาได้เป็น ส.ส. นี่เป็นความจริงที่ประชาชนเขาพูดกัน ถูก ไหมถูกครับ พี่น้องครับ และพวกเรามวลมหาประชาชนทั้งหลายก็ต้องการทำให้ถึงที่สุด ไหนๆ ก็ลงทุนลงแรงกันมามากแล้ว ต้องแก้ไขปัญหาพื้นฐานสำคัญๆ ของประเทศนี้ให้สำเร็จเสร็จสิ้น ก่อนที่จะส่งมอบประเทศให้ไปอยู่ในมือของพรรคการเมือง ของนักการเมือง ให้เขาดำเนินการต่อไป เรื่องสำคัญที่ต้องพูดกันและต้องทำกันให้สำเร็จเสร็จสิ้นคือ เรื่องที่จะต้องดูแลคนจนทั้งประเทศ อย่างที่เรียกว่าเป็นวาระแห่งชาติจริงๆ ไม่ใช่เอาประชานิยมมาหลอกล่อทีละยุคทีละปี แล้วก็กินกันอิ่มหมีพีมันจากโครงการประชานิยม โดยประชาชนผู้ยากจนยังจนเหมือนเดิม อย่างนี้ไม่เอาแล้ว พอแล้ว

พี่น้องทั้งหลาย ผมขอถือโอกาสนี้กราบเรียนด้วยความจริงใจ ในนามของคณะกรรมการ กปปส. และในนามของมวลมหาประชาชนว่า สิ่งที่มวลมหาประชาชนพวกเราทั้งหลาย กำลังต่อสู้อยู่ครั้งนี้ ต้องการสู้เพื่อประเทศไทยทั้งประเทศ ต่อสู้เพื่อคนไทยทั้งแผ่นดินจริงๆ ไม่มีประโยชน์อื่นเจอปนแน่นอน ผมเองในฐานะที่ท่านทั้งหลายอุปโลกยกให้เป็นเลขาธิการ กปปส.ก็ประกาศชัดแล้วว่า ทางเลือกนี้เสร็จเปลี่ยนแปลงประเทศไทยได้ ปฏิรูปประเทศไทยได้ ทุกอย่างเข้ารูปเข้ารอย มั่นใจว่า บ้านเมืองเดินหน้าได้ ผมก็ล้างมือแล้ว ไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ไม่แข่งกับใคร ไม่แข่งกับพรรคไหนอีกแล้ว

เพราะฉะนั้นไม่ต้องมาระแวง แล้วก็ไม่ต้องใส่ร้ายป้ายสีอะไรผม เพราะป้ายอย่างไรผมก็ไม่ดำกว่านี้แหละครับ นี่มันคงเส้นคงวาอยู่แล้ว คุณจะเขียนคิ้วแต้มหนวดให้ ผมก็ไม่ดูน่าเกลียดกว่านี้ ธรรมชาติให้มาอย่างไร ผมก็เป็นอย่างนี้แหละ ไม่มีวันหล่อกว่านี้อีกแล้วชาตินี้ คือต้องพูดอย่างนี้พี่น้องครับ จริงๆ แล้วไม่มีเวลาได้ไปดูในสื่อออนไลน์เลย ในเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ในเว็บไซต์อะไรผมไม่ได้ไปดูเลย เพราะว่าพอเสร็จจากปราศรัย เสร็จจากแถลงการณ์ เสร็จจากประกาศก็ต้องนั่งประชุมกับคณะกรรมการ กปปส.ว่า เราจะต้องทำในรายละเอียดต่อไปอย่างไรบ้าง ก็ประชุมกันทั้งวันแหละครับ อภิปรายกันเต็มที่ แต่ว่ามีพี่น้องประชาชนผู้หวังดี ก็แจ้งมาครับบอกว่า ที่ผมปราศรัยบนเวที แล้วออกแถลงการณ์ ออกประกาศเรื่องการปรับโครงสร้างตำรวจไทยนะ มีคนไปขยายความให้จนตำรวจโกรธกันหมดแล้ว ผมถามว่า เขาขยายอย่างไรละครับ คนเขาก็เอามาให้ดู บอกว่า กำนันสุเทพบอกว่าจะปรับโครงสร้างตำรวจ ต่อไปนี้ให้ตำรวจทั้งหลายไปขึ้นกับ อบต. องค์การบริหารส่วนตำบล โน่นไปถึงขนาดนั้นแล้ว แถมยังขยายความว่าต่อไปนี้ ไม่ให้เรียกตำรวจ ถ้าทำสำเร็จ จะให้เรียกว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของนายก อบต. มิหนำซ้ำ ยังบอกว่า นี่พอกำนันสุเทพ ยึดอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเมื่อไร ตำรวจต้องไปรายงานตัวกับนายก อบต.ทุกคน โน่น ไปโน่นแล้ว ช่างหวังดีกันเหลือเกิน

พี่น้องทั้งหลาย พูดให้ได้ยินกัน เพราะอย่างไรก็มีคนดูบลูสกาย ทีนิวส์ และสถานีโทรทัศน์ในเครือข่ายของเราหลายล้านคนขณะนี้ ช่วยอธิบายกับพี่น้องตำรวจทั้งหลายด้วยเถอะ มวลมหาประชาชน ไม่ได้มีความรู้สึกรังเกียจเดียดฉันท์ข้าราชการตำรวจ รู้ว่าตำรวจส่วนใหญ่ในประเทศนี้เป็นคนดี เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ เป็นผู้รักษากฎหมายที่ทำงานด้วยความเสียสละ จริงไม่จริงพี่น้องครับ แต่ที่ต้องปรับโครงสร้างตำรวจนั้น ไม่ต้องการให้ตำรวจ 2-3 แสนคนทั่วประเทศ มาขึ้นกับคนๆ เดียว คือผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แล้วคนๆ เดียวนั้น ไปขึ้นกับคนๆ เดียว ที่อยู่ต่างประเทศ ที่ชื่อทักษิณ ชินวัตร อย่างนั้น ไม่เอา

สิ่งที่เราคิดจะปรับโครงสร้างนั้น คือว่าต่อไปนี้ ตำรวจนครบาล บิ๊กแจ๊ด เนี้ยะ ต้องไปอยู่ใต้บังคับบัญชาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน เช่นเดียวกับ ตำรวจจังหวัดต่างๆ ก็จะขึ้นกับผู้ว่าราชการจังหวัดที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน ไม่มีตรงไหนที่บอกว่าให้ไปขึ้นกับนายก อบต.ที่คุณใส่ไข่ให้ ไม่ถึงขนาดนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังอยู่ ยังคงตำรวจที่เป็นฝ่ายจัดซื้อ จัดหาตำรวจฝ่ายวิชาการ ตำรวจเรื่องของสอบสวน ยังมีส่วนต่าง แต่ว่าไม่ใหญ่โตมหึมา มีอิทธิพลล้นฟ้าล้นแผ่นดิน จนจะกลายเป็นรัฐตำรวจอยู่ อย่างนี้ให้เข้าใจตรงไปตรงมาอย่าพาลกัน วันนี้ประชาชนคนไทยเขาเปิดเผย เขาพูดความจริงกับท่าน ท่านอย่าเอาความเท็จมาเป็นเครื่องมือในการต่อสู้ ท่านต้องเปิดเผยกับเรา พูดความจริง ถ้าเราบอกว่าเราต้องการปรับปรุงโครงการตำรวจอย่างนี้ ท่านไม่เห็นด้วย ท่านก็บอกมาตรงๆ ว่า ไม่เห็นด้วย เพราะอะไร ไม่ต้องไปใส่ไข่เติมสีเติมหนวดให้พวกเราเป็นยักษ์เป็นมาร เราไม่ใช่ยักษ์ ไม่ใช่มาร เราคือประชาชน และที่เปลี่ยนแปลงนี้ ก็จะทำให้ตำรวจมีเกียรติยศมีศักดิ์ศรีมีหน้ามีตา และเป็นตำรวจของประชาชนที่มีความภาคภูมิใจ ไม่ต้องซื้อตำรวจ ไม่ต้องวิ่งเต้น เพราะประชาชนเขาจะดูแลปกป้องตำรวจดีๆ ด้วยจิตวิญญาณของประชาชน ซึ่งเป็นจิตที่ดีอยู่ นี่พูดให้เข้าใจโดยทั่วกัน

และพี่น้องทั้งหลายบางคนก็เลยเถิดมาก เป็นนักวิชาการระดับด็อกเตอร์ ออกมาพูดจาผ่านทีวีว่า จะยอมได้อย่างไร จะยกอำนาจสมบูรณาญาสิทธิราชไปให้กำนันสุเทพคนเดียว แล้วเอาไปโกงบ้านโกงเมืองอย่างนี้ยอมไม่ได้ ปัดโธ่เอ้ยด็อกเตอร์ ทำไมถึงสมองกลวงขนาดนี้ครับ ด็อกเตอร์ ที่ประชาชนเขาสู้ทั้งหมดนี้ เขาไม่ได้สู้เพื่อกำนันสุเทพ และกำนันสุเทพก็ไม่มีน้ำยาอะไร เป็นลุงกำนันแก่ๆ คนหนึ่งที่ประกาศแล้วว่า ไม่เล่นการเมือง ไม่ต่อสู้ทางการเมืองอีกต่อไป และจะเอาอำนาจเวรนั้นไปทำอะไร ไม่มี ที่กอดคอต่อสู้กันมานี้ ไม่ใช่เพื่อคนที่มาต่อสู้คนใดคนหนึ่งเลย แต่เพื่อให้ประเทศไทยมันมีระบบวิธีการปกครองที่มันเหมือนกับอารยประเทศเขาเสียที ให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์เสียที ไม่ต้องมีการซื้อสิทธิขายเสียง เลิกเรื่องทุจริตคอร์รัปชัน ข้าราชการก็เป็นข้าราชการดีๆ ประชาชนจะได้นอนตาหลับ ทำมาหากินอย่างเสรี และเป็นการต่อสู้เพื่อคนไทยทั้งประเทศ ไม่ใช่ลุงกำนันคนนี้แน่นอน

แล้วอย่าไปคิดทำอะไรง่ายๆ ที่วางแผนกันว่า เอาเขมรเข้ามาเสียบพุงลุงกำนันเสีย เอาหน่วยคอมมานโดมาจัดการเสีย มันไม่รอดหรอก เพราะประชาชน 4-5 ล้านคนที่ลุกขึ้นวันนี้ ไม่มีใครห้ามเขาอยู่แล้ว เขาเป็นคนลากลุงกำนันไป ไม่ใช่ลุงกำนันเป็นคนจูงประชาชนเข้าใจเสียด้วย ไอ้พวกสมองกลวงทั้งหลาย ไอ้พวกนี้มันอยู่บนหอคอยงาช้างไม่มาดูว่าคนที่ออกมาชุมนุมมาต่อสู้คราวนี้เป็นเสรีชนทั้งสิ้นแล้วมาด้วยใจบริสุทธิ์ บางคนน่าเอ็นดูมากมาเดินขบวนกับเขาทั้งทีมีลูกน้องเดินหิ้วตระกร้ามา พอผมบอกว่านั่งลงกลางถนนนั่งเรียบร้อย โอ้โหไม่เคยเห็นไอ้นี้มันธรรมดา คนที่อยู่บนหอคอยงาช้างทั้งหลายไม่เข้าใจไม่มาเห็นด้วยตาว่า คนที่มาเขาเหลืออดเหลือทนกับสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศนี้ และเขาต้องการเปลี่ยนแปลงให้มันดี ต้องการปฏิรูปให้มันดีเท่านั้นแหละ ตรงไปตรงมาชัดเจนแค่นี้แหละ อย่าบิดเบือนไปเป็นอย่างอื่นเลย เพราะจะเสียประโยชน์

เอาอย่างนี้ไหมครับด็อกเตอร์ทั้งหลายไม่ว่าท่านจะอยู่ฝ่ายไหน ไม่ว่าท่านจะมีมิจฉาทิฐิอย่างไร ผมออกบัตรเชิญแทนพี่น้องประชาชนเลย เชิญท่านอย่างจริงใจมาสิครับถ้ารักประเทศไทย รักระบอบประชาธิปไตยรักบ้านรักเมืองจริงๆ มาร่วมกับเราเลย มาร่วมกันเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง มาร่วมกันปฏิรูประเทศไทยร่วมกับมวลมหาประชาชนเราขอออกบัตรเชิญยินดีต้อนรับ ไม่ต้องมาแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันแต่อย่างใด มาร่วมกันทำประเทศไทยให้ดีขึ้น อย่างนี้ขออนุญาตพี่น้องทั้งหลายเชิญชวนไปถึงมวลชนคนเสื้อแดงทั้งแผ่นดินด้วย มาซิครับ มาร่วมมือกับเรา พูดจากหัวใจคนเป็นกำนัน พูดแทนหัวใจของมวลมหาประชาชน เราขอต้อนรับพี่น้องคนเสื้อแดงทุกฝ่าย ที่อยู่ทุกหนทุกแห่ง ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง มาเถอะ แม้แต่กรุงเทพฯ มาร่วมมือกัน ถ้าท่านบอกว่า ท่านรักประชาธิปไตย การเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงต้องการต่อสู้ เพื่อประชาธิปไตย ต้องการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม มวลมหาประชาชนที่นี่ก็สู้เพื่อประชาธิปไตย สู้เพื่อความยุติธรรม สู้เพื่อความดีงามของบ้านเมือง เพราะฉะนั้น เลิกแบ่งฝ่าย ถอดเสื้อแดงออก มาเลย หรือจะใส่เสื้อแดงก็ต้อนรับ มาร่วมมือกัน เราจะปฏิรูปประเทศไทยด้วยมือของประชาชนคนไทยทุกฝ่าย

ที่ขออนุญาตไม่ต้อนรับก็มี จตุพร พรหมพันธุ์ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นะ วีระ มุสิกพงศ์ นะ 3 คนนี้ไม่รับ ไม่รับเข้าขบวนการของมวลมหาประชาชน ให้ไปสู้คดีก่อน ไม่อยากจะพูดมากนะครับว่า สงสัยในความประพฤติ ว่าไม่ได้ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่แท้จริง ไม่เคยต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมจริงๆ อาจจะต่อสู้เพื่อสตางค์ของทักษิณ ไอ้นั่นไม่อยากกล่าวหาขนาดนั้น แต่สำหรับพี่น้องมวลชนเสื้อแดงทั้งแผ่นดิน ผมและพี่น้องประชาชนที่เป็นมวลมหาประชาชนที่นี่ เชื่อว่า ท่านเป็นคนไทยเจ้าของประเทศเหมือนเรา ท่านมีความคาดหวังอยากเห็นประเทศนี้ ดีขึ้น เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ขึ้น และท่านต้องการเห็นความยุติธรรม ต้องการเห็นคนจนทั้งแผ่นดินได้รับการดูแล ช่วยเหลืออย่างจริงจัง ถ้าท่านคิดอย่างนั้น ท่านกับพวกเรา คิดเหมือนกัน เพราะฉะนั้นมาร่วมมือกันเถอะครับ ไม่ต้องต่อสู้กัน

ผมเรียนตรงๆ ครับ ถ้าพี่น้องมวลชนเสื้อแดงทั้งหลายมาร่วมมือกับพวกเรา ตำรวจ ทหาร ข้าราชการ มาร่วมมือกับพวกเราซะ ระบอบทักษิณก็ไม่มีมือมีตีนที่จะใช้สอยแล้ว หมดฤทธิ์ หมดอิทธิพลโดยสิ้นเชิง ลอยคอออกทะเลไปเลย ไปไหนก็ตามใจ ใส่หม้อไปเลย เพราะฉะนั้น ผมขอออกบัตรเชิญแผ่นใหญ่ๆ โตๆ ที่เชิญด้วยความบริสุทธิ์ใจ ในนามของมวลมหาประชาชนว่า พี่น้องเสื้อแดงทั้งหลายครับ มากอดคอร่วมกันเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ปฏิรูปประเทศไทยด้วยกันเถอะครับ แล้วเราจะได้มีอนาคตที่ดีสำหรับประเทศไทย และลูกหลานท่าน ลูกหลานพวกเราเหมือนกันทุกคน ถูกไม่ถูกครับพี่น้อง ได้ไม่ได้ครับพี่น้อง

เพราะฉะนั้นก็ขอให้พี่น้องมวลชนเสื้อแดงได้เข้าใจว่า เราอย่ามาต่อสู้กันเองเลย มากอดคอกันร่วมสร้างบ้านสร้างเมืองกันเสียที เพื่อประโยชน์ของลูกหลานพวกเราทุกคน นี่เป็นความจริงใจที่สุด และก็รอต้อนรับพี่น้องมวลชนเสื้อแดงที่จะมาร่วมขบวนการกับเราด้วยความจริงใจ นี่ผมเชิญแทนมวลมหาประชาชนทั้งหมดนี้ครับ

สำหรับนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ ผมขอเรียนอย่างตรงไปตรงมาครับว่า ท่านอย่าคิดสู้ต่อไปเลย ท่านอย่าดื้อด้านต่อไปเลย ท่านไม่ชนะแน่นอน แล้วท่านอย่าไปคิดมาก อย่าไปนึกมีทิฐิว่า แหมเกิดมาร่ำรวยมากมายมหาศาลมีเป็นแสนๆ ล้าน จะมาแพ้กำนันบ้านนอกอย่างผม อย่าไปคิดอย่างนั้น ไม่ใช่ผมครับ แต่เป็นมวลมหาประชาชนหลายล้านคน ท่านต้องตั้งสติให้ดีครับคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มันไม่เคยมีมาก่อนที่มวลมหาประชาชนตั้ง 4-5 ล้านคน จะลุกขึ้นต่อสู้และไม่ยอมรับนายกรัฐมนตรีทั้งคณะรัฐมนตรี รัฐบาล เหมือนที่มวลมหาประชาชนเขาลุกขึ้นแสดงครั้งนี้อย่างเปิดเผยเห็นกันชัดๆ คนที่เขาลุกขึ้นมาต่อสู้แสดงตนอย่างเปิดเผยในวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา นายกฯ ยิ่งลักษณ์ มองข้ามเขาไม่ได้ และเมื่อเขากล้าประกาศตัวอย่างนั้นแล้วเขาไม่ถอยแล้ว เมื่อเขาไม่ถอยคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คุณไม่มีทางเอาชนะคนตั้ง 4-5 ล้านคน ที่มีกองหนุนอยู่ที่บ้านอีก 20-30 ล้านคนแน่นอน

เพราะฉะนั้นยอมกันซะเถอะยอมกันดีๆ ดีกว่า ง่ายที่สุดดีที่สุดลาออกจากการรักษาการในฐานะนายกฯ และคณะรัฐมนตรีหมดทุกคน แล้วก็ช่วยกันเลือกคนดีๆ ที่ประชาชนยอมรับทั้งประเทศขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีชั่วคราว แล้วก็ดำเนินการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ปฏิรูปประเทศไทยผ่านสภาประชาชนตามเจตนารมณ์ของประชาชน ทำให้เสร็จให้เร็วที่สุด และก็กฎหมายเลือกตั้งใหม่ป้องกันการซื้อเสียง ได้กฎหมายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันฉบับใหม่ ทำเสร็จเรียบร้อยกระจายอำนาจเรียบร้อย ปรับโครงสร้างตำรวจเรียบร้อย วางนโยบายวาระประชาชนเรื่องช่วยเหลือคนจนเรียบร้อย เป็นวาระแห่งชาติเรียบร้อย ก็เชิญท่านกลับไปเป็นหัวหน้าพรรคใหม่ ลงสมัครรับเลือกตั้งก็เชิญเลือกกันให้สบายใจ เพราะเราหมดภารกิจแล้ว เท่านั้นเอง ง่ายๆ จบสบายๆ

ถ้าท่านยอมอย่างนี้ก็จบแบบ Happy Ending ท่านก็ยังอยู่ประเทศไทยได้ ไปสระผม ช่างสระผมก็ยังพูดคุยกับท่าน ไปนวดตัวเขาก็นวดตัวท่าน ไม่บีบคอท่าน แต่ถ้ายังดื้อด้านต่อไป ไม่ยอมที่จะให้ทุกอย่างราบเรียบละมุนละม่อม ผมรับรองได้เลยคุณยิ่งลักษณ์ ไม่ใช่เฉพาะคุณยิ่งลักษณ์ครับ คนในตระกูลยิ่งลักษณ์ทั้งหลาย ไม่สามารถเดินถนนในประเทศไทยอีกต่อไป เพราะคนหลายล้านคนเขาโกรธเขาเกลียดชัง แล้วจะทำอย่างไร โปรดอย่าได้มองว่า ที่ผมพูดนี่เป็นการคุกคามขู่เข็ญ ผมเป็นกำนันก็พูดตรงไปตรงมาชัดเจนนี่แหละ ถ้าท่านไม่เชื่อ พรุ่งนี้ท่านติดต่อผม ผมจะพาท่านมาเดินสัมภาษณ์ประชาชนที่อยู่แถวนี้ทุกคน และผมรับรองความปลอดภัยด้วยชีวิต และท่านจะได้ยินด้วยหูตาท่านเอง มาไหม ท่านนายกฯ มาไหม มาฟังด้วยตัวเอง ผมรับรองว่า คนที่นี่คนดีทั้งนั้น ไม่มีคนบ้าอย่างไอ้เหลิม หรือไอ้ปลื้มเจือปนเด็ดขาด หยุดเถอะครับ พอเถอะครับ เลิกฟังคนประจบสอพลอที่หวังจะได้เงินทรัพย์สินจากการทุจริตคอร์รัปชันร่วมกันเป็นโขยงนั้นพอได้แล้ว ท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ท่านยังอายุไม่มาก ยังมีชีวิตที่จะสนุกสนานอีกต่อไปอีกหลายปี

เพราะฉะนั้นทำความดีซักครั้งเถอะเพื่อประเทศไทย หยุดปฏิบัติหน้าที่ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี ลาออกเสีย แล้วไม่ต้องตั้งใครแทน และไม่ต้องเที่ยวตั้งแง่ตั้งงอนว่า ต้องแก้กฎหมายโน้น ท่านลาออก หยุดแล้วไม่ต้องตั้งใครแทน ที่เหลือท่านเห็นเองว่า ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้ด้วยมือของประชาชน

พี่น้องทั้งหลายเราก็เหนื่อยกันมามากแล้ว อยากจะขอให้เป็นกำลังใจซึ่งกันและกันต่อไป และก็ช่วยกันสวดมนต์ภาวนาอ้อนวอนขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ช่วยกันดลจิตดลใจคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้เขาตัดสินใจให้ถูกต้องด้วยเถอะ เรื่องทั้งหลายจะได้จบกันโดยรวดเร็ว และประเทศจะได้มีการสมานฉันท์ อย่าได้ไปทำอย่างอื่นนอกเหนือไปจากนี้ ผิดแผกจากนี้เลย เพราะทางที่คิด ที่กำลังจะทำนั้นเป็นทางสู่นรกทั้งสิ้น คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เชื่อผมเถอะ นี่ผมพูดให้ฟัง

วันนี้ ก็ไม่ใช่พูดจาปราศรัยกับพี่น้องแล้ว พูดจาปราศรัยกับคุณยิ่งลักษณ์ไปด้วย และพูดจาปราศรัยกับพี่น้องประชาชนคนเสื้อแดงด้วย แต่ทั้งหมดนี้ พูดแทนประชาชนด้วยความจริงใจจริงๆ ไปครุ่นคิดเถอะครับ ทุกนาทีมีค่า อย่าช้าอยู่เลย คิดได้เร็วเท่าไร จบเร็วเท่าไร ดีสำหรับพวกเราทุกฝ่ายเท่านั้นครับ ขอบคุณครับพี่น้องครับ สวัสดีครับ”








กำลังโหลดความคิดเห็น