xs
xsm
sm
md
lg

“ปู” เรียก กกต.แจงข้อปฏิบัติ ครม.รักษาการ ก่อนปิดประชุมหนีม็อบบุกกดดัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รีบออกจากสโมสรกองทัพบก สถานที่ประชุม ครม.ชั่วคราว หลังทราบข่าวมวลชนบุกกดดันหน้าสโมสรฯ
“นายกฯ ปู” ประชุม ครม.รักษาการเรียก กกต.แจงข้อปฏิบัติรัฐมนตรีรักษาการ ก่อนเร่งปิดประชุมหนีมวลชน กปปส.บุกกดดันหน้าสโมสรกองทัพบก สถานที่ประชุม



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีรักษาการ (ครม.รักษาการ) เช้าวันนี้ (10 ธ.ค.) ซึ่งมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุม เพื่อซักซ้อมการปฏิบัติหน้าที่หลังยุบสภาตามมาตรา 181 ให้กับผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ ครม.ได้เข้าใจในทิศทางที่ตรงกัน โดยมีการเชิญคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มาทำความเข้าใจถึงระเบียบข้อบังคับกฎหมายดังกล่าว ทั้งนี้ระหว่างการประชุมซึ่งยังไม่เสร็จสิ้นดี นายกฯ ได้สั่งให้สิ้นสุดลงก่อน เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางมายังหน้าสโมสรทหารบก จึงเกรงว่าจะไม่สามารถออกจากพื้นที่ได้สะดวก โดยใช้เวลาประชุมแค่กว่า 1 ชม.

โดยนายกฯ เดินทางออกจากสโมสรทหารบกในเวลา 10.00 น. โดยหลบเลี่ยงผู้ชุมนุมออกทางประตูด้านข้าง ผ่านกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ไปยังศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ซึ่งตั้งอยู่ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อร่วมประชุมประเมินสถานการณ์การชุมนุม

ส่วนบริเวณด้านนอกสโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดีรังสิต ปรากฏว่ามวลชนจาก กปปส.นำโดย นางนาถยา เบญจศิริวรรณ และ น.ส.รังสิมา รอดรัศมี อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จำนวนมากเดินทางมากดดันการประชุม ครม.รักษาการ พร้อมเป่านกหวีด และปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียงว่า “นายกฯ และครม.หมดความชอบธรรมที่จะมาประชุม ครม.” ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 1 กองร้อยดูแลความปลอดภัย และไม่อนุญาตให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาในพื้นที่เนื่องจากเป็นสถานที่ราชการ จนทำให้นายกรัฐมนตรีต้องสั่งเลิกประชุมกลางคัน

ต่อมาเวลา 13.30 น. นายกฯ เดินทางไปยังรัฐสภา เพื่อวางพานประดับพุ่มดอกไม้ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 เนื่องในพิธีฉลองวันพระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และเวลา 15.00 น. นายกฯ เดินทางไปยังกรมการขนส่งทหารบก เพื่อไปยัง จ.เชียงราย ในพิธีเปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 ในวันที่ 11 ธ.ค. พร้อมเฝ้าฯ รับเสด็จ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในเวลา 15.00 น.วันที่ 11 ธ.ค.

ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม.รักษาการ เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติอันเนื่องมาจากการยุบสภาผู้แทนราษฎร ในประเด็นสำคัญต่างๆ ว่า 1. ห้ามมิให้นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และข้าราชการการเมือง ใช้สถานะหรือตำแหน่งเรี่ยไรหรือชักชวนให้บริจาคเงินให้พรรคการเมือง หรือผู้รับสมัครเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2. ห้ามให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์ที่อาจคำนวณเป็นเงินได้ แก่บุคคล คณะบุคคล หรือนิติบุคคล เว้นแต่เป็นการให้ตามประเพณี ตามจำนวนและหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนด

3. ห้ามมิให้ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส เสนอให้หรือสัญญาว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลงคะแนนเสียงให้ตนเองหรือผู้สมัครอื่นหรือพรรคการเมืองใด หรือให้งดเว้นการลงคะแนนแก่ผู้สมัคาหรือพรรคการเมืองใด 4. การเสนอร่างกฎหมายใหม่ โดยเฉพาะร่าง พ.ร.บ.ซึ่งเป็นเรื่องในทางนโยบาย ไม่สมควรดำเนินการเสนอในระหว่างยุบสภา 5. ร่าง พ.ร.บ.ที่ ครม.เคยมีมติอนุมัติหลักการและส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา จะดำเนินการต่อไปไม่ได้ ต้องรอ ครม.ชุดใหม่เป็นผู้พิจารณาเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร

6. การแต่งตั้งคณะกรรมการตามกฎหมาย ซึ่งอาจมีตำแหน่งว่างลงระหว่างการยุบสภา จะกระทำมิได้ 7. การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการทุกระดับ ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค ให้พิจารณาเท่าที่จำเป็น 8. หากรัฐมนตรีได้รับเชิญไปสัมภาษณ์ออกโทรทัศน์ในตำแหน่งรัฐมนตรี จะให้สัมภาษณ์ได้เฉพาะหน้าที่รัฐมนตรีเท่านั้น

9. กรณีรัฐมนตรีมีสถานะเป็น ส.ส ด้วย ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง ส.ส (วันที่ยุบสภาฯ) และต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอีกครั้งภายใน 30 วัน นับแต่พ้นตำแหน่งรัฐมนตรี (วันที่ ครม.ชุดใหม่ถวายสัตย์ปฏิญาณ) และ 10. กรณีรัฐมนตรีไม่มีสถานะเป็น ส.ส.ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่พ้นตำแหน่งรัฐมนตรี (วันที่ ครม.ชุดใหม่ถวายสัตย์ปฏิญาณ) และทั้งสองกรณีต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอีกครั้งภายใน 30 วัน นับแต่วันที่พ้นตำแหน่งไปแล้ว 1 ปี


กำลังโหลดความคิดเห็น