“องอาจ” เผย 4 วิชามารรุกม็อบ หวังลดความชอบธรรมร่วมชุมนุม “ชวนนท์” บอก “อภิสิทธิ์” เรียก ส.ส.ถกพรุ่งนี้ ยันส่งเลือกตั้งซ่อมไม่มีประโยชน์ จวกรัฐวนเวียนอยู่แต่ผลประโยชน์ เชื่อ “สุรพงษ์” ทำได้ทุกอย่าง “มัลลิกา” แฉมหาดไทยขนชายฉกรรจ์ลุย
วันนี้ (7 ธ.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อเวลา 10.30 น. นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ขณะนี้รัฐบาลได้ใช้วิชามารกระทำต่อผู้ชุมนุมอย่างหนัก 4 ประการ คือ 1. รัฐบาลเริ่มใช้แก๊งอันธพาลรูปแบบแก๊งมอเตอร์ไซค์ กลุ่มบุคคลป่วนการชุมนุม และทำร้ายการ์ดและผู้ชุมนุมในหลายพื้นที่ 2. จัดตั้งเครือข่ายของรัฐบาลเคลื่อนไหวสร้างความชอบธรรม ซึ่งเป็นกลุ่มองค์กรที่ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน เช่น สมาคมทนายความ นักศึกษารัฐศาสตร์ ส.ว.อิสระออกมาให้ความเห็นตามแง่มุมของรัฐบาล ซึ่งองค์กรเหล่านั้นมีความสัมพันธ์กับรัฐบาลอยู่แล้ว 3. รัฐบาลใช้มวลชนของรัฐบาลอย่างคนเสื้อแดง กดดันการชุมนุมของประชาชนกลุ่มต่างๆ รวมทั้ง กปปส. และ 4. ใช้อำนาจรัฐจัดการกับแกนนำผู้ชุมนุม โดยกระบวนการใช้วิชามารของรัฐมีจุดประสงค์เพื่อลดความชอบธรรม และทำให้มวลชนที่จะเข้าร่วมลดลง จนมีการยุติการชุมนุม โดยที่รัฐบาล และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่ได้สนองตอบข้อเรียกร้อง แต่กลับมีท่าทีนิ่งเฉยไม่ห้ามปราม และส่งเสริมเท่ากับนายกฯมีส่วนสมรู้ร่วมคิดทำให้เกิดปัญหา ดังนั้นหากในอนาคตเกิดวิกฤตในบ้านเมืองนายกฯ ต้องมีส่วนรับผิดชอบ
ด้านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ในวันที่ 8 ธ.ค.นี้ เวลา 10.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เรียกประชุมส.ส.ของพรรคเป็นวาระพิเศษ เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองมีความน่าเป็นห่วง จึงต้องการรับฟังความเห็นสมาชิกในการหาทางออกประเทศ ส่วนการที่พรรคไม่ส่งผู้สมัคร ส.ส.ลงเลือกตั้งซ่อมทั้ง 8 เขตนั้น พรรคยืนยันว่าสถานการณ์ขณะนี้การเลือกตั้งซ่อมไม่เป็นประโยชน์ และไม่ใช่ทางออก เพราะขณะนี้ความรับผิดชอบทั้งหมดอยู่ที่นายกฯซึ่งเป็นผู้บริหารสูงสุด และเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา วันนี้คนฝั่งรัฐบาลพยายามวิพากษ์วิจารณ์ข้อเรียกร้องของกลุ่มประชาชน โดยเฉพาะการใช้รัฐธรรมนูญมาตรา 3 และมาตรา 7 ซึ่งจะใช้ได้หรือไม่เป็นเรื่องหนึ่ง ที่สำคัญคือคนของรัฐบาลเคยเสนอทางออกอะไรให้ประเทศหรือไม่ ยังวนเวียนอยู่กับผลประโยชน์พวกพ้อง และรับคำสั่งจากคนแดนไกล ดังนั้นจึงขอให้นายกฯใช้วิจารณญาณของตัวเองในการเสนอทางออกให้ประเทศ
นายชวนนท์กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ มีคำสั่งด่วนให้หัวหน้าส่วนราชการปกป้องหน่วยงานราชการอย่างเต็มที่นั้น ตนไม่แน่ใจความโหดเหี้ยมของนายสุรพงษ์ ซึ่งการเปลี่ยนตัว ผอ.ศอ.รส.มาเป็นนายสุรพงษ์ ทั้งที่ไม่มีความรู้เรื่องความมั่นคง ไม่มีเหตุผลอื่นนอกจากนายสุรพงษ์ ทำได้ทุกอย่าง
ขณะที่ น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีคำสั่งสั่งด่วนจากรมว.มหาดไทย ให้เจ้าหน้าที่กรมที่ดินที่เป็นชายฉกรรจ์รวมตัวกันที่กระทรวงมหาดไทยในวันที่ 9 ธ.ค.นี้ นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานอื่นๆ ของกระทรวงมหาดไทยอีกหลายกรม กองงานละ 30-40 คน ที่ให้มีการรวมตัวกันโดยไม่ได้ระบุภารกิจชัดจึงเป็นที่น่าสงสัยว่าจะส่อความรุนแรงหรือไม่ นอกจากนี้ขอเรียกร้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีสำนึกสตรีที่จะต้องละอาย มีศีลธรรมมีความยุติธรรม มีความละมุนละม่อมไม่ใช้ความรุนแรง ในการตัดสินใจดำเนินการในวันที่ 9 ธ.ค.โดยโครงสร้างการดูแลสถานการณ์บ้านเมืองที่นายกฯใช้อยู่เป็นโครงสร้างที่อันตราย อย่างไรก็ตาม อยากเรียกร้องไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) อัยการ กระทรวงการคลัง ให้ทบทวนตัวเองในการปฏิบัติหน้าที่ด้วย