“ติ่ง” บี้รัฐจับแว้นลอบกัดหากไม่เอี่ยว ฉะคืนชีพความเท็จวันนี้ จ่อฟ้องกลับ “แรมบ๊อง”

รองโฆษก ปชป.ข้องใจรัฐรู้เห็นเหตุป่วนฝ่ายต่อต้านรัฐ ติงเหตุลอบกัดวานนี้ไร้เงา ตร.ตรวจสอบ ชี้รัฐไม่มีเอี่ยวต้องจับกุมได้ใน 2 วัน เชื่อ ตร.มีข้อมูลเด็กแว้นดี หากไร้น้ำยาชัดเจนเด็กของใคร ยันช่องบลูสกายเสนอข่าวตามสิทธิ รธน. ดักรัฐอย่ายัดข้อหา ย้อนช่อง 11 คืนชีพความเท็จวันนี้ จ่อฟ้องกลับ “แรมบ้า” แจ้งความเท็จ ให้การเท็จ หมิ่นประมาท

วันนี้ (6 ธ.ค.) น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงเรียกร้องนายกรัฐมนตรีและศูนย์อำนวยการรักษความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ให้เร่งดำเนินการกรณีเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชุมนุม คือ ที่กระทรวงการคลังในช่วงกลางดึกของวันที่ 5 ธันวาคม และช่วงเช้ามืดวันที่ 6 ธันวาคม ที่บริเวณสี่แยกคอกวัว เนื่องจากเป็นความไม่สงบที่เกิดขึ้นต่อเนื่องจากเหตุการณ์ที่หน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง ทั้งนี้จึงขอตั้งขอสังเกตุว่าขณะนี้รัฐบาลกำลังทำอะไรอยู่ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคนในรัฐบาลมีส่วนรู้เห็นเป็นใจหรือไม่ และเหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเวลา 22.00-04.00 น.ก็ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าใปตรวจสอบ จึงขอเรียกร้องให้ตำรวจ และ ศอ.รส.เข้าไปเก็บข้อมูลและตรวจสอบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะพบหลักฐานชัดคือมีหัวกระสุนขนาด 9 มม.ตกอยู่ที่เกิดเหตุ ดังนั้น หากรัฐบาลไม่มีส่วนรู้เห็นจะต้องเร่งรัดจับกุมผู้ก่อเหตุให้ได้ภายใน 2 วัน ซึ่งเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีศักยภาพและข้อมูลเกี่ยวกับเด็กแว้นในทุกพื้นที่อยู่แล้วจึงต้องพิสูจน์และจับกุมให้ได้ ซึ่งหากภายใน 2 วันไม่สามารถจับกุมได้ก็ชัดเจนแล้วว่าเด็กแว้นเป็นเด็กของใคร และเป็นเด็กแว้นจริงหรือไม่ หรือเป็นเด็กแว้นที่เกี่ยวข้องกับชายชุดดำกันแน่

น.ส.มัลลิกากล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ ในฐานะ ผอ.ศอ.รส.ขู่ที่จะดำเนินคดีกับผู้สนับสนุนการชุมนุมโดยเฉพาะสถานีโทรทัศน์บลูสกายทีวี ซึ่งยืนยันว่าสื่อมีสิทธิเสรีภาพในการนำเสนอข่าวการชุมนุมของประชาชน ไม่ว่าจะเสนอมากหรือน้อยก็ตามขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของสื่อซึ่งเป็นสิทธิที่ถูกรองรับโดยรัฐธรรมนูญ การกระทำเช่นนี้เป็นการเพิ่มชนวนความขัดแย้งที่ชัดเจน จึงขอเตือนรัฐบาลว่าอย่าไปตั้งข้อกล่าวหากับสื่อ และตนขอตั้งขอสังเกตว่า ขณะนี้มีการใช้สถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ซึ่งเป็นสถานีของรัฐอนุมัติให้รายการของแกนนำเสื้อแดง คือ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ แกนนำนปช. จัดรายการในเวลาของช่อง 11 ซึ่งขอย้ำว่าช่อง 11 เป็นสถานีโทรทัศน์ของรัฐ ไม่ใช่สถานีที่รับใช้ฝ่ายการเมือง ซึ่งสวนทางกับการกระทำของ ศอ.รส.ที่จะออกหมายจับบลูสกายทีวี

รองโฆษกประชาธิปัตย์กล่าวถึงกรณีที่นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จะฟ้องตนในข้อหาหมิ่นประมาท กรณีพาดพิงว่าคนเสื้อแดงมีส่วนรู้เห็นเหตุการณ์ปะทะกันที่หน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหงว่า ตนไม่ทราบว่านายสุภรณ์ เอาข้อมูลมาจากไหน เพราะสิ่งที่ตนพูดไปไม่สามารถนำไปฟ้องร้องได้อยู่แล้ว เพราะได้อ้างอิงถึงหลักฐานที่เผยแพร่ตามสื่อมวลชน ดังนั้นจากการที่ปรึกษากับทีมทนายความแล้วจะฟ้องกลับนายสุภรณ์ ใน 3 ข้อหา คือ แจ้งความเท็จ ให้การเท็จ และหมิ่นประมาท จะได้รู้ว่าการจะฟ้องร้องเพื่อปิดปากคนไม่สามารถทำได้ง่ายๆ