เกาะกระแส
00 ถ้าใครได้ฟังการแถลงของ โฆษกพรรคปชป. ชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต และอ่านในเนื้อข่าวสักสองสามรอบก็ย่อมเข้าใจทันทีว่าพวกเขายังคงยึดมั่นในระบบรัฐสภาแบบเน่าๆที่เป็นอยู่ในตอนนี้ นั่นหมายความว่า ไม่ว่าจะมีการเลือกตั้งซ่อม รวมทั้งการเลือกตั้งทั่วไป หลังจากที่ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยุบสภา พรรคปชป.ที่นำโดย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะต้องลงสมัครรับเลือกตั้งค่อนข้างแน่ นั่นหมายความเลิกคิดไปเลยว่าพวกเขาจะยอมลาออกจาก สส.เพื่อกดดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและกดดันให้เกิดการปฏิรูปโดยประชาชน
00 การแถลงของโฆษกพรรคปชป.ที่ย้ำว่าพวกเขา"ยึดมั่นในระบบรัฐสภา"นั่นหมายความว่าพวกเขายังเชื่อมั่นในระบอบการเมืองเน่าๆแบบเก่าที่ประชาชนต้องการให้ก้าวข้ามให้พ้น และกำลังออกแรงเสี่ยงชีวิตช่วยกันผลักดันกันสุดแรงเกิด เสี่ยงคุก เสี่ยงตะราง คนพวกนี้จะว่าเป็น"คนโง่"ก็ไม่ใช่แน่นอน แต่เป็นเพราะหลงในหัวโขน ไม่เคยเสียสละ คิดแต่เรื่องประโยชน์ของตัวเอง ทั้งที่ประชาชนเขาไปไกลแล้ว กลายเป็นว่า คนในพรรคประชาธิปัตย์นี่แหละที่ไปช่วย"สร้างความชอบธรรม"ให้กับ "ระบอบทักษิณ" หูหนวกตาบอดมองไม่เห็นไม่ได้ยินว่านั่นคือ "สภาน้ำเน่า"เป็นสภาโจร เป็นเครื่องมือให้กับระบอบทรราช และที่สำคัญในความเป็นจริงที่ปฏิเสธไม่ได้เลยก็คือ พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีประโยชน์ในสภา ต่อให้ สิบอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สิบ ชวน หลีกภัย มีวาทะพูดจนลิงหลับก็ไร้ความหมาย เพราะพวกโจรในสภาพวกนั้นเขาไม่ฟัง คนพวกนั้นโหวตตามที่ "นายทาสสั่ง" บางครั้งตอนโหวตก็ไม่ต้องกดบัตรโหวตรเอง แต่มีคนเสียบบัตรลงคะแนนให้แทน นี่คือระบบรัฐสภาโจรที่ประชาธิปัตย์ ที่นำโดย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ชวน หลีกภัย และคนอย่าง กรณ์ จาติกวณิช ยังยึดมั่นอย่างเต็มเปี่ยม ก็หวังว่ายึดมั่นอย่าเปลี่ยนแปลงก็แล้วกัน ทุด !!
00 ในตอนแรกงเชื่อมาตลอดแล้วว่า "กำนัน" สุเทพ เทือกสุบรรณ นี่แหละคือตัวปัญหา คือ "ตัวถ่วง"ด้านลบของปชป.มีแต่คนเกลียด กลายเป็นว่า "เข้าใจผิด"อย่างสิ้นเชิง เพราะเวลานี้เขาได้ก้าวข้ามเรื่องน้ำเน่าแบบนั้นแบบ "หลุดพ้น"เพียงชั่วข้ามคืน กลายเป็นคนละคน เพราะเขา"ค้นพบเส้นทางใหม่ที่บริสุทธิ์"นั่นคือมาอยู่เคียงข้างกับประชาชนอย่างแท้จริง จากคนที่เคยถูกสังคมมองว่าเป็น "มาร"แต่ปัจจุบันเมื่อเขา"พบทางสว่าง"ในชั่วข้ามคืนทำให้ายเป็น "เทพ"ในสายตา"ร่วมแนว"ไปโดยทันที หลายคนเคยเกลียดเขา มาวันนี้กลับศรัทธา มันเป็นไปแล้วจริง ขณะที่คนหลายคนในพรรคประชาธิปัตย์ที่เคยมองว่า "ดี"กลายเป็นตรงกันข้ามไปเสียฉิบ เฮ้อ ทุกอย่างมันพัฒนาและเปิดเผย"หน้ากาก"ออกมาให้เห็นด้วยตัวของมันเองจริงๆ
00 มิน่าถ้าใครได้ฟังกำนันสุเทพพูดบนเวทีเมื่อสามสี่วันก่อนด้วย"สีหน้าอิดโรย"ที่พูดในตอนท้ายก่อนจบการปราศรัยในวันนั้นที่ประกาศย้ำอีกครั้งว่าหันหลังให้การเมืองในสภา ไม่ลงเลือกตั้ง ไม่รับตำแหน่งทางการเมืองอย่างสิ้นเชิง และย้ำว่าจะไม่กลับไปพรรคประชาธิปัตย์อีกแล้ว จากนั้นก็บอกให้เพื่อนนักการเมืองในสภาให้ออกมาร่วมกันสู้กับประชาชน "ให้ออกมาวันนี้ ถ้าไม่ออกมาก็เลิกคบกัน"เพราะถ้ายังคบกันต่อไปก็ไม่มีประโยชน์ แม้ไม่ได้ระบุตรงๆ แต่มาพิจารณาวันนี้ความหมายก็น่าจะเรียกร้องให้คนประชาธิปัตย์ออกมา และวันนี้ก็ชัดแล้วว่า พวกเขายึดมั่นว่า "ประชาธิปัตย์ต้องมาก่อน"
00 เอาละคงไม่เป็นไร มองในแง่ดีนี่คือความชัดเจนที่ได้รับรู้กันตั้งแต่เนิ่นๆ จะได้ไม่ต้องคาดหวังรอคอยให้เสียเวลา เพราะในเมื่อเวลากระชั้นชิดไล่หลังเข้ามาทุกขณะ "การรบขั้นแตกหัก"กำลังจะเริ่มขึ้น จึงไม่ควรลังเลละล้าละลังกับเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้ เพราะต่อไปจะได้ตัดสินใจได้เด็ดขาดเสียที ขณะเดียวกันนี่อาจเป็นประชาธิปัตย์ของแท้ เพียงแต่ว่าที่ผ่านมาเราไม่เคยได้รับรู้ความจริง และที่ผ่านมาเราก็ไม่เคยต้องรอให้ตัดสินใจแบบนี้มาก่อนก็เป็นได้ !!