เกาะกระแส
00 การประกาศยืนยันอย่างชัดเจนของ "กำนัน"สุเทพ เทือกสุบรรณ ต่อหน้ามวลมหาประชาชนทั้งประเทศว่าเขาหันหลังให้"การเมืองอุบาทว์ในสภา"หันหลังให้ พรรคประชาธิปัตย์ อย่างสิ้นเชิง ไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งอีกแล้ว 35 ปีในชีวิตการเมืองแบบ สส.ต่อไปนี้"จะไม่เดินเส้นทางเก่า"แบบนี้อีกแล้ว แต่จะเดินเส้นทางใหม่คือ "ร่วมปฏิรูป"กับพี่น้องประชาชนเพื่อสร้างสังคมใหม่ ประชาชนตืองการแบบไหนเขาก็ทำตาม เท่านั้น ขณะเดียวกันยังเรียกร้องให้เพื่อนนักการเมืองในสภาทั้งหลายออกมาร่วมต่อสู้กับประชาชนด้วย ย้ำว่าถ้าไม่ออกมาตอนนี้ถือว่า "ไม่ต้องมาคบกัน"อีก แม้ไม่ได้ระบุโดยตรงแต่ตีความหมายได้ว่ากำลังเรียกร้องให้ สส.พรรคประชาธิปัตย์พร้อมใจกัน"ลาออกมา"หรือออกมาร่วมกับประชาชน ไม่มีเวลากั๊กหรือรอเวลากันอีกต่อไปแล้ว อะไรประมาณนั้น ก็ต้องบอกว่า "ได้ใจเต็มๆ"
00 นาทีนี้เชื่อว่ามวลชนไม่น่าจะ "คลางแคลงใจ"กับ สุเทพ อีกแล้ว เพราะถือว่านี่คือคำประกาศต่อหน้ามวลชนแบบชัดเจน และพร้อมเดินหน้า ไปให้"ทะลุซอย"ไม่มีแวะกลางทาง ขณะเดียวกันสัญญาณจาก กำนันสุเทพ ก็คือ กดดันให้ คนในพรรคประชาธิปัตย์ "เสียสละ"ลาออกมาร่วมมือ ร่วมเดินกับประชาชน เพราะถือว่า "สถานการณ์เฉพาะหน้า"นี้พรรคประชาธิปัตย์เป็น "ตัวแปร"สำคัญที่สุด หากพร้อมใจกันลาออกมาจาก สส.แล้วประกาศว่าจะ"ไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง"จนกว่าจะมีการปฏิรูปเกิดขึ้นเสียก่อน เพื่อปิดทาง"เกมยุบสภา"ของ พวกครอบครัวชินวัตร ที่จะให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยุบสภาด้วยข้ออ้าง "คืนอำนาจให้ประชาชน" เนื่องจากเชื่อมั่นว่าด้วยกำลังทุน มวลชน กลไกข้าราชการที่มีอยู่จะกลับ "อ้างความชอบธรรม"ฮุบประเทศกันอีก ความหวังจากนี้ไปให้รอวัดใจ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ กรณ์ จาติกวณิช ว่าจะกล้าเสียสละเหมือนกับ สุเทพ หรือไม่ ถ้าไม่ทำ งานนี้ พรรคประชาธิปัตย์ก็จะ"จมหาย"ไปกับกระแสมวลชนไม่มีโอกาสกลับมาอีกแล้ว และที่สำคัญทั้งคู่ยังหน่มแน่น มีอนาคตไกล เป็นคนฉลาด คงรับรู้ถึงความต้องการของมหาประชาชนในขณะนี้ได้
00 สำหรับกองทัที่ผ่านมาเริ่มขยับออกมาบ้าง เพียงแต่ยังรอดูสถานการณ์อีกระยะหนึ่ง ยังแทงกั๊ก ยังไม่กล้ามาร่วมกับมวลชน แต่ในสถานการณ์แบบนี้คงไม่กล้าออกมายืนข้างรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่างเปิดเผย เพราะถือว่าหมดความชอบธรรมไปแล้ว และเชื่อว่าในที่สุดก็คงไม่อาจต้านทานความต้องการของสังคมส่วนใหญ่ได้ นั่นคือ "กระแสปฏิรูป"ไม่ใช่ "การเปลี่ยนขั้ว"และที่สำคัญอย่าคิดใช้คนในกองทัพมา "ตีกิน"ด้วยการเสนอตัวบุคคลมาเป็น "ผู้นำรักษาการ"เด็ดขาด เพราะชาวบ้านเขาไปไกลแล้ว เพราะต่อให้ สุเทพ ยอม แต่ชาวบ้านเขาไม่เอา อีกทั้งสุเทพ ก็ประกาศแล้วว่าจะทำตามความต่องการของประชาชน และเชื่อว่าวิธีการดังกล่าวมวลชนปฏเสธแน่นอน เพราะไม่ใช่การปฏิรูป แต่เป็นการ "ชุบมือเปิบ"อย่าแม้แต่คิดเป็นอันขาด !!
00 แต่ที่น่าจับตาก็คือ ข่าวที่ยืนยันออกมาแล้วว่าหลังงาน"พระราชพิธีมหามงคล"หลังวันที่ 5 ธค.แล้ว ผบ.สส. พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร จะนัดผบ.เหล่าทัพ มาหารือเพื่อ"หาทางแก้ปัญหา" และนี่คือท่าทีที่สำคัญ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากตัวบุคคลที่เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดคนนี้ หลักการแน่นไว้ใจได้พอสมควร ซึ่งหลักฐานจาก "คลิบถั่งเช่า"ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ทักษิณ ชินวัตร "ยังไม่ไว้ใจ" อีกด้านหนึ่งคนไหนถ้าใอ้"เหลี่ยมจัด"ไม่ไว้ใจนั่นแสดงว่าสังคมไว้ใจได้หรือเปล่า แต่เชื่อเถอะเมื่อสังคมตื่นรู้แล้ว ไม่ว่าหน้าไหนก็ตามถ้าคิดทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชนรับรองว่า "จบไม่สวย"ทุกราย
00 บางครั้งอย่าไปมองให้ "ซับซ้อน"หรือมีแง่มุมกฎหมายมากนัก ทุกอย่างขึ้นอยู่กับประชาชน ผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่เป็นตัวตั้งเท่านั้น และอีกด้านหนึ่งพลังของประชาชนต้อง"หนักแน่นในเป้าหมาย"ซึ่งในที่นี้ก็คือ "ปฏิรูป"แต่ก่อนอื่นถ้าจะไปถึงเป้าหมายดังกล่าวให้ได้ก็ต้อง"ไล่รัฐบาล" หุ่นเชิด ที่ไร้ประโยชน์ชุดนี้ออกไปก่อน ถึงตอนนั้นแหละการปฏิรูปจะเกิดขึ้นได้ ถ้ายังคาอยู่อย่างนี้มันก็เกิดไม่ได้ และขยับต่อไปไม่ได้ ดังนั้นตัวแปรเฉพาะหน้าก็คือ พรรคประชาธิปัตย์ ต้องลาออกจาก สส.ยกพรรคแล้วปฏิเสธการเลือกตั้งจนกว่าจะมีการปฏิรูปโดยอ้างความต้องการของมวลมหาประชาชน เพื่อปิดทาง"เล่ห์ยุบสภา"ของ "ระบอบทักษิณ" เพราะเมื่อเห็นแบบนี้เชื่อว่า "กองทัพต้องขยับตาม"ทำตามความต้องการของประชาชนเหมือนกัน จากนั้นก็ค่อยมาหารือกันว่าในช่วงการ "เปลี่ยนผ่าน"จะทำแบบไหนต่อไป แต่ย้ำว่าตัวแปรเฉพาะหน้าคือ ปชป.เท่านั้น เหมือนอย่างที่กำนันสุเทพ ส่งสัญญาณเรียกร้องไปแล้วว่าให้รีบออกมาร่วมเขา ไม่เช่นนั้น"ก็เลิกคบ" !!