xs
xsm
sm
md
lg

สงครามชิงเมืองยังไม่จบ พักรบระดมสมองสู้ศึกใหญ่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รายงานการเมือง

กิดปรากฏการณ์ “ไทยงง” กันเป็นแถบ เมื่อมวยคู่เอกระหว่าง “คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” (กปปส.) กับ “รัฐบาล” ที่กำลังแลกหมัดกันเมามันต้องหยุดลงชั่วขณะ

ถือว่างงกันนิดหน่อย แต่ไม่ได้เหนือความคาดหมาย เพราะตามคิวที่ต้องจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 5 ธันวาคม หากฝ่ายไหนยังไม่หยุด มีหวังโดนตราหน้าไม่ภักดีเสียแต้มเอาง่ายๆ

ว่ากันว่าตัวแทนของทั้งสองฝ่าย ที่อาสาเป็นมือดีลให้ “พักรบ” โดยไม่เสียเลือดเสียเนื้อ เกิดจากที่ “พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง” รองผู้ว่าฯ กทม. ได้เข้าไปเจรจากับ “พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา” รอง ผบ.ตร. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม

ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้ว่าให้ กปปส.เข้าพื้นที่ “ทำเนียบรัฐบาล-บช.น.” ได้ แต่ขอแค่ประกาศชัยชนะ โดยมีข้อแม้ว่าต้องออกจาก “ทำเนียบรัฐบาล-บช.น.” ซึ่ง กปปส.ก็ทำตามข้อตกลงไว้ทุกอย่าง

เสร็จงาน “วันพ่อ” แล้วค่อยมาสู้รบกันใหม่

ซึ่งแว่วมาว่า ศอ.รส.ได้สั่งการให้ “ตำรวจ” อยู่ในความพร้อมตลอดเวลา ยังไม่มีการถอนกำลังกลับภูมิลำเนา เมื่อเสร็จงานพิธีต่างๆ ศอ.รส.จะเสริมกำลังเข้าชิง “ทำเนียบรัฐบาล-บช.น.” ทันที เพื่อยึดเป็นที่มั่น

ส่วนฝั่งแกนนำ กปปส.ย่อมรู้ดีว่าศึกสงครามยังไม่จบ เพราะตราบใดที่ "ระบอบทักษิณ" ยังไม่ถูกขจัดไป “สุเทพ เทือกสุบรรณ” โต้โผใหญ่ในนาม เลขาธิการ กปปส.ลงจากหลังเสือยาก

เพราะเล่นเกมเทหมดหน้าตักแล้ว หากไม่ชนะ ไม่แพ้ ออกลูกกั๊กอย่างนี้ก็จะเป็น “สุเทพ” ที่จะเจ็บหนักกว่าใครเพื่อน

ในช่วงวัน “พักรบ” ถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของ กปปส. เพราะต้องทำทุกวิถีทางที่จะตรึงมวลชนไม่ให้ลดลง คงกระแสเอาไว้ไม่ให้ตก ไม่เช่นนั้นจะตกที่นั่งลำบาก

แกนนำ กปปส.จึงต้องใช้โอกาสมหามงคลจัดบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ และจัดพิธีถวายพระพรโดยประชาชน เพื่อตรึงมวลชนให้อยู่กับ กปปส.ต่อไป

ขณะที่รัฐบาลก็ฉวยโอกาสจุดพลุจัดตั้งเวทีวิชาการทันที เพื่อลดความชอบธรรมของ กปปส. โดยมอบหมายให้ “พงศ์เทพ เทพกาญจนา” รองนายกรัฐมนตรี และ “ชัยเกษม นิติสิริ” รมว.ยุติธรรม คอยประสานงาน

แต่ก็เป็นมุกเดิมที่มองกันออก คงหนีไม่พ้นอีหรอบเดิมเหมือนที่เคยเชิญ “เจ้าพ่อปลาไหล” บรรหาร ศิลปอาชา ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) รับบทหัวเรือใหญ่ปฏิรูปประเทศไทย

ฟันธงล่วงหน้าได้เลยว่ามุกนี้ของ “ยิ่งลักษณ์” คงแป้กอีกตามเคย

และ “ยิ่งลักษณ์” ควรเรียนรู้ได้แล้วว่า การเสนอทางออกจากฝ่ายรัฐบาลฝั่งตรงข้ามอย่าง กปปส.ไม่มีทางยอมรับแน่นอน

เช่นกันหาก กปปส.เสนอ “ยิ่งลักษณ์” ก็ไม่มีทางรับ

ชั่วโมงนี้ “คนกลาง” จึงสำคัญที่สุด และจะถูกพูดถึงมากที่สุด ซึ่งอาจจะมีคำถามต่ออีกว่า “คนกลาง” คือใคร คำตอบคงมีอยู่ในใจของ “สุเทพ” แล้ว

แต่ในเมื่อ “ยิ่งลักษณ์” ไม่ยอมหลีกทางให้จัดตั้ง “สภาประชาชน” ตามข้อเรียกร้อง ในเมื่อ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ผบ.ทบ. ยังใจไม่ถึงพอที่จะ “แอ็กชัน” เพื่อเปิดทางเอง

ชื่อ “คนกลาง” ที่จะถูกดันให้รับตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี” หากมี “สภาประชาชน” จึงถูกคาดเดาไปต่างๆ นานา เช่น “องคมนตรี พ.” ซึ่งคาดเดาไม่ยากว่าเป็น “พลากร สุวรรณรัฐ”

และชื่อของอดีตนายทหารใหญ่ “พล.อ.ป.” ก็คาดเดาไม่ยากว่าเป็น “บิ๊กป๊อก” “พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” อดีต ผบ.ทบ.

ชื่อ “คนกลาง” อาจจะถูกหรือผิดไม่มีใครรู้ เพราะกระบวนการมันยังเดินไปไม่ถึง หากวัดใดวันหนึ่ง “สุเทพ” นำพา กปปส.ไปถึงจุดที่สามารถจัดตั้ง “สภาประชาชน” ได้ ชื่อ “คนกลาง” คงเฉลยออกมา

แต่ตอนนี้คำตอบใครคือ “คนกลาง” ขอเก็บไว้ในลิ้นชักหัวใจของ “สุเทพ” ก่อน

และยิ่ง “สุเทพ” มาพูดถึงการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีตามมาตรา 7 ซึ่งต้องอาศัยพระราชอำนาจ ของ พระมหากษัตริย์ ที่อาจจะต้องเกิดการตีความอีกมากมาย ด้วยแล้ว “ตัวละคร” ต่างๆ ยิ่งต้องถูกเปิดตัวมากขึ้นในไม่ช้า

ดูเหมือน “สุเทพ” จะเดินเกมตั้งธงไว้มากมายที่คาดการณ์กันหลายชั้น

นอกจากนี้ ภารกิจของ “สุเทพ” ในช่วง “พักรบ” คงหนีไม่พ้นการชี้แจงทำความเข้าใจถึงโรดแมปของ “สภาประชาชน” ว่ามีตัวตนอย่างไร หน้าที่ในการปฏิบัติเป็นอย่างไร กรอบระยะเวลาในการปฏิบัติแค่ไหน เป็นต้น

สิ่งเหล่านี้ที่ “สุเทพ” ต้องทำความเข้าใจกับมวลชน กปปส. และประชาชนที่ยังไม่เลือกข้าง

ส่วนคนที่เลือกข้างไปแล้ว “สุเทพ” ยิ่งต้องทำความเข้าใจให้มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อเป็นเข็มทิศนำทางให้พวกเขา จะได้เข้าใจในสิ่งที่ “สุเทพ” กำลังทำ

เพราะบรรดาสมุนไพร่หัวใจสีแดง ไม่ยอมรับกับสิ่งที่ “สุเทพ” พูดถึง และสิ่งที่ “สุเทพ” กำลังทำอย่างแน่นอน

เนื่องจากบรรดา “แกนนำไพร่แดง” ยังเดินสายปราศรัยปลุกปั่นยั่วยุให้ “สมุนไพร่แดง” เกิดความโกรธแค้นชิงชัง “ขั้วตรงข้าม” อยู่ทุกเพลา

โดยล่าสุด “รัฐบาล” ไฟเขียวให้ “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” รมช.พาณิชย์ แกนนำไพร่แดง ออกโรงมาปลุกปั่นผ่านทางสื่อของรัฐ อย่างสถานีวิทยุโทรทัศน์กรมประชาสัมพันธ์ (ช่อง 11) อยู่

“ไอ้เต้น” พูดเอง ถามเองเออเอง โชว์สเต็ปการพูดหลอก “คนเสื้อแดง” ทุกวัน วันละ 30 นาที เป็นเครื่องยืนยันให้เห็นว่า “รัฐบาล” ไม่ได้จริงใจหรือยี่หระกับข้อเสนอของ กปปส.เลย

ดังนั้นสงครามครั้งนี้ยังไม่จบ ตอนนี้แค่ “พักรบ” ที่ต่างฝ่ายต้องระดมสมอง เพื่อแก้เกมฝั่งตรงข้ามกันช็อตต่อช็อต เพื่อรอสงครามรอบใหม่

ซึ่งสงครามรอบใหม่ น่าจะรุนแรงกว่ารอบที่ผ่านมาด้วยซ้ำ
กำลังโหลดความคิดเห็น