มวลชน กปปส.คึกวันประกาศชัย เตรียมยกพลยึดพื้นที่สำคัญ รัฐบาลสั่งทหาร ตำรวจคุ้มกันเต็มที่

มวลชน กปปส.คึกคักวันประกาศชัยชนะ ประชาชนทยอยเดินทางสมทบในทุกจุดการชุมนุม เตรียมเคลื่อนขบวนด้วยมือเปล่าปิดล้อมสถานที่สำคัญตามเป้าหมายที่ประกาศไว้ ขณะที่รัฐบาลระดมทหาร-ตำรวจป้องกันเต็มที่ในทุกจุดที่แกนนำผู้ชุมนุมประกาศยึด พร้อมปิดถนนสายหลัก

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวการชุมนุมของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ในวันนี้ (1 ธ.ค.) ที่กำหนดบุกยึดสถานที่ต่างๆ พร้อมกัน 10 จุด ประกอบด้วย ทำเนียบรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) กระทรวงศึกษาธิการ สวนสัตว์ดุสิต ซึ่งเป็นจุดรวมพลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทรวงแรงงาน สถานที่ตั้ง ศอ.รส. กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ สถานีโทรทัศน์ช่อง 11 และสถานีวิทยุแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ และกระทรวงการต่างประเทศ เช้าวันนี้

บรรยากาศในช่วงเช้าของผู้ชุมนุม กปปส.ที่ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ คึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า ผู้ชุมนุมได้ทยอยเก็บของเพื่อเตรียมเดินทางไปสมทบกับมวลชนที่ปักหลักค้างคืนที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน ขณะที่ส่วนหนึ่งยังปักหลักชุมนุมเพื่อรอแกนนำประกาศเคลื่อนไหวไปปิดล้อมกระทรวงพาณิชย์ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ได้ขึ้นเวทีประกาศให้มวลชนที่อยู่ภายในศูนย์ราชการและที่เดินทางมา ออกมารวมตัวเพื่อเตรียมตัวเดินทางไปยังจุดต่างๆ โดยขอให้เตรียมตัวให้พร้อมเพราะอาจจะต้องมีการพักค้างตามจุดต่างๆ ที่เข้ายึดได้ และขณะนี้อยู่ระหว่างการรวมพลของมวลชน ก่อนที่นายสุเทพจะขึ้นประกาศเคลื่อนพล

ส่วนการชุมนุมอีกจุดบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน เช้าวันนี้ (1 ธ.ค.) คึกคักเป็นพิเศษมวลชนที่ปักหลักค้างคืนตื่นขึ้นมาทำกิจวัตรประจำวันแต่เช้า ขณะที่มวลชนอีกจำนวนมากต่างทยอยเดินทางมาสมทบ เพื่อเตรียมตัวรอแกนนำเคลื่อนขบวนเข้ายึดหน่วยราชการตามเป้าหมายที่วางไว้

ทั้งนี้ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำได้ประกาศแนวทางการเคลื่อนไหว โดยขบวนที่ 1 มีนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ เป็นแกนนำ นัดมวลชนที่บริเวณด้านหน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร สี่แยกปทุมธานี ในเวลา 09.00 น. เพื่อเคลื่อนขบวนไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในเวลา 10.45 น. โดยมีแพทย์ พยาบาลสวมเสื้อกาวน์ร่วมขบวนไปดูแลผู้ชุมนุมด้วย

ส่วนหน่วยราชการตามเป้าหมายที่เหลือ ซึ่งผู้ชุมนุมถนนราชดำเนินต้องรับผิดชอบเข้าดำนินการได้แก่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน และอีก 2-3 จุดที่ยังไม่เปิดเผยจะเคลื่อนขบวนจากจุดชุมนุมพร้อมกันโดยแยกย้ายไปตามจุดต่างๆ

สำหรับการชุมนุมพื้นที่กระทรวงการคลัง บรรยากาศก็เป็นไปอย่างคึกคักตั้งแต่เช้า มวลชนจำนวนมากต่างทยอยมาสมทบกับผู้ชุมนุมที่ปักหลักค้างคืน เพื่อเตรียมเคลื่อนขบวนไปควบคุมหน่วยราชการตามที่ได้รับมอบหมาว โดยก่อนหน้านี้นายวิทยา แก้วภราดัย กล่าวว่า ตนจะเป็นแกนนำพร้อมมวลชนเคลื่อนไปยึดกรมประชาสัมพันธ์ ส่วนนายถาวร เสนเนียม จะเดินทางไปสถานีโทรทัศน์ ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ พร้อมผู้ชุมนุมบางส่วนจะเดินทางไปยังศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร สี่แยกปทุมธานี เพื่อสมทบกับมวลชนบางส่วน เดินทางไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ด้านการชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ที่ปักหลังอยู่บริเวณนางเลิ้ง และกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ที่ชุมนุมอยู่ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ประชาชนที่ปักหลักค้างแรมต่างตื่นขึ้นมาแต่เช้าเพื่อปฏิบัติภารกิจส่วนตัว ขณะที่ประชาชนอีกจำนวนมากต่างทยอยเข้าร่วมในพื้นที่ เพื่อเตรียมพร้อมปฏิบัติภารกิจตามที่ กปปส. มอบหมายในการเข้ายึดทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา และสวนสัตว์ดุสิต

สำหรับการดูแลสถานที่ราชการตามที่ กปปส.ประกาศเคลื่อนไหวปิดล้อม ก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) แถลงว่า ศอ.รส.ทำหนังสือขอกำลังไปยังหน่วยงานต่างๆ ทั้งสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม, กองบัญชาการกองทัพไทย, เพื่อขอกำลังทหารทั้ง 3 เหล่าทัพ จากกองทัพบก, กองทัพเรือ, กองทัพอากาศ มาเป็นสายตรวจร่วม ดูแลความสงบเรียบร้อย รักษาความปลอดสถานที่สำคัญ จำนวน 17 กองร้อย และสารวัตรทหารอีก 180 นาย รวม 2,730 นาย แบ่งเป็นกองทัพบก จำนวน 14 กองร้อย, ทัพเรือ 1 กองร้อย, กองทัพอากาศ 2 กองร้อย โดยกำลังทั้งหมดจะปฏิบัติดูแลครอบคลุมพื้นที่ กทม. และปริมณฑล ตามที่มีประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง ตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป

ในส่วจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ซึ่งเป็นสถานที่หนึ่งที่แกนนำ กปปส. ประกาศจะเคลื่อนขบวนมาปิดล้อมใ วันนี้ ตำรวจได้มีการวางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้น โดยได้มีการนำลวดหนามมาขึงตามแนวรั้วของสำนักงานตำรวจแห่งชาติทั้งหมด และได้จัดวางกำลังตำรวจกองร้อยควบคุมฝูงชนจำนวนหนึ่งประจำการตลอดแนว รวมถึงด้านนอกได้มีการนำรถควบคุมผู้ต้องหา มาจอดปิดทางเข้า-ออก ฝั่งถนนพระรามที่ 1 พร้อมกับมีการขึงลวดหนามล้อมรอบเสาไฟฟ้า เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมตัดไฟอีก

ด้านการจราจร บนถนนพระรามที่ 1 ฝั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น ตำรวจได้ปิดการจราจรตั้งแต่แยกราชประสงค์ ไปจนถึงแยกเฉลิมเผ่า โดยไม่อนุญาตให้รถทุกชนิผ่านเข้าออกได้ ส่วนในฝั่งถนนอังรีดูนังต์ ตำรวจก็ได้นำลวดหนามมาปิดทาง-เข้าออกเช่นกัน รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเดินเท้าเข้ามาภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติเท่านั้น

ด้านที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ก็มีการวางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยตำรวจได้มีการสับเปลี่ยนกำลังในการประจำตามจุดต่างๆ ทั้งยังได้มีการเสริมแท่งแบริเออร์หลายชั้นวางสลับรั้วลวดหนาม และได้จัดวางกำลังตำรวจกองร้อยควบคุมฝูงชนประจำการตามจุดที่เป็นเส้นทางเข้าออกทั้งหมด รวมถึงด้านนอกได้มีการนำรถควบคุมผู้ต้องหา มาจอดปิดด้านหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล

ขณะที่ในส่วนของการจราจรบนถนน นครราชสีมาจากแยกการเรือน มุ่งหน้าแยกพล 1 ไปแยกวังแดงยังใช้การได้ตามปกติ ส่วนเส้นทางถนนศรีอยุธยา จากแยกวัดเบญจมบพิตรไปลานพระรูป ไปแยกพล 1 ตำรวจปิดการจราจรเช่นเดียวกับถนนพิษณุโลก จากแยกพาณิชย์ ถึงแยกวังแดง ปิดการจราจรโดยมีการวางกำลังตำรวจคุมเข้ม