xs
xsm
sm
md
lg

“พงศ์เทพ” ยันเวทีปาหี่ต่างจากรอบแรก 1 เดือนรู้ผล ชี้ม็อบเรียกร้องคนอื่นรับได้ไหม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี(แฟ้มภาพ)
รองนายกฯ แจงนำข้อมูลเอกชนจัดเวทีคุยทางออกชาติร่วมวงปาหี่ด้วย ชี้ทุ่นแรงรัฐจะได้ไม่ต้องเชิญซ้ำกลุ่มกัน เผยประมวลเสร็จพร้อมสรุปก่อนเผยแพร่ ให้วิจารณ์ก่อนปรับปรุง หนึ่งเดือนรู้ผลเป็นรูปธรรม ปัดไม่เหมือนปาหี่รอบก่อนเหตุเจาะเฉพาะ ไม่รับปากทำตามข้อเสนอ ดึงนักวิชาการกลางเป็นคนกลาง ย้อนม็อบเรียกร้องให้ตัวเองยอมรับ คนอื่นรับได้หรือไม่ ติงอย่ายกนายกฯ ม.7 ส่งเดช
  

วันนี้ (4 ธ.ค.) นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการจัดเวทีพูดคุยกับทุกภาคส่วนเพื่อหาทางออกประเทศ ตามที่นายกฯ ได้มอบหมายว่า ขณะนี้ได้มอบให้นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ไปรวบรวมข้อเสนอจากฝ่ายต่าง ๆ มาประมวล และทราบว่าขณะนี้มีองค์กรภาคเอกชนกำลังจัดในลักษณะเดียวกันในวันที่ 7 ธ.ค.นี้ ดังนั้นเราจึงจะอาศัยข้อมูล ข้อสรุปจากที่ภาคเอกชนจัดมาด้วย และจะดูว่ามีกลุ่มไหนที่มีการเสนอความเห็นมาแล้ว แต่ไม่ได้นำเข้าไปเสนอในเวทีภาคเอกชน หรือมีกลุ่มไหนที่มีข้อเสนอเข้ามาอีกก็จะมาประมวลและเชิญมาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งการจัดเวทีของภาคเอกชนก็ถือว่าเป็นการช่วยทุ่นแรงเราไปได้ระดับหนึ่ง เพราะหากกลุ่มไหนที่ภาคเอกชนเชิญไปแล้ว เราก็ไม่ต้องเชิญมาร่วมก็ได้ อาจจะหันไปเชิญกลุ่มอื่นที่ยังไม่ได้มาร่วมแทน

นายพงศ์เทพกล่าวด้วยว่า เมื่อมีการประมวลแล้วก็จะสรุปออกมาว่ามีทั้งหมดกี่แนวทางที่มีความเป็นไปได้ และถูกต้องตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ จากนั้นก็จะนำเผยแพร่เพื่อให้ประชาชน สื่อมวลชน นักวิชาการได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ประมาณ 10-15 วัน จากนั้นก็จะได้นำมาปรับปรุงแนวทางที่ได้มีการวิพากษ์กัน ทั้งนี้คาดว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือนก็จะได้เห็นเป็นรูปธรรมของทางออกประเทศแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่าเวทีหาทางออกประเทศนี้จะเหมือนกับเวทีปฏิรูปประเทศไทยที่รัฐบาลดำเนินการอยู่หรือไม่ นายพงศ์เทพกล่าวว่า ไม่เหมือนเพราะเวทีทางออกประเทศนี้จะเป็นประเด็นเฉพาะเจาะจง ไม่กว้างเหมือนเวทีปฏิรูปที่มีทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมืองและสังคม และจะใช้เวลามากกว่า อย่างไรก็ตามหากประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยก็น่าจะเดินหน้าไปได้และฝ่ายที่มีความเห็นต่างโดยเฉพาะนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาฯ กปปส.ก็อาจจะยอมปรับแต่งข้อเสนอของตนเองก็ได้

เมื่อถามว่ารัฐบาลสามารถทำตามข้อเสนอที่มีการเสนอมาได้ทั้งหมดหรือไม่ นายพงศ์เทพกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับข้อเสนอว่าเป็นอย่างไร มีเหตุผลและถูกต้องตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ เมื่อถามต่อว่าหากมีข้อเสนอให้รัฐบาลยุบสภา หรือลาออก สามารถดำเนินการได้หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลรับฟังทุกเรื่องอยู่แล้ว นายกฯก็บอกแล้วว่าพร้อมรับฟังและดำเนินการทุกอย่างเพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้ ส่วนคนกลางที่จะมาทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมในกรณีนี้นั้น นายพงศ์เทพ กล่าวว่า ความจริงก็ต้องมีคนกลางที่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายได้ โดยเฉพาะนักวิชาการกลางคนก็มีหลายคนก็สามารถทำหน้าที่ได้อยู่แล้ว และที่ผ่านมานักวิชาการเหล่านั้นก็ทำหน้าที่เหล่านี้อยู่ อย่างเช่นนายโคทม อารียา ที่ที่ผ่านมาก็พยายามจัดเวทีเหล่านี้อยู่

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่าการเมืองบ้านเราเหมือนเป็นการถอยหลังไปอีกหรือไม่ โดยเฉพาะกับการตั้งสภาประชาชน รองนายกฯ กล่าวว่า ความจริงแล้วถ้าพูดถึงสภาของประชาชน ก็น่าจะหมายถึงสภาที่มาจากการเลือกตั้ง ถ้าจะมาบอกว่าต้องเป็นสภาที่ตัวเองยอมรับเท่านั้น ก็ต้องถามว่าแล้วคนอื่นเขายอมรับหรือไม่ เมื่อถามว่าสิ่งที่รัฐบาลพยายามทำอยู่ แต่ยังมีม็อบอยู่คู่ขนาน ดังนั้นแนวทางที่รัฐบาลเดินไปจะสะดุดหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ม็อบมีทุกวัน ทุกแห่งทั่วโลก แต่ประเด็นอยู่ที่ว่าข้อเรียกร้องนั้นมีเหตุผล มีความชอบธรรมหรือไม่ ถ้าเรียกร้องว่าให้เอาอำนาจไปให้เขาแล้วเขาจะตั้งรัฐบาลที่ต้องการ สภาที่ต้องการเอง คนอื่นเขายอมรับหรือไม่ แล้วอย่างนี้เหตุผล ความชอบธรรมจะมีหรือไม่

เมื่อถามว่าสถานการณ์การเมืองเช่นนี้คิดว่าควรมีนายกฯมาตรา 7 หรือยัง นายพงศ์เทพกล่าวว่า มาตรา 7 ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะหยิบมาใช้กันส่งเดช โดยอ้างข้างๆ คูๆ ไม่ได้ ความจริงมาตรา 7 ตามรัฐธรรมนูญไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นเพราะมันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยากมาก หรืออาจไม่เกิดขึ้นเลย

“ไม่ใช่จู่ๆ ก็อ้างมาตรา 7 ส่งเดชไปเรื่อย สมมติถ้านายกฯลาออก ก็ยังมีสภาผู้แทนราษฎรอยู่ โดยนายกฯต้องรักษาการไปก่อน ส่วนสภาก็ต้องไปเลือกนายกฯ คนใหม่ มันไม่ใช่มาตรา 7” นายพงศ์เทพกล่าว และว่าอย่างไรก็ตามก็ยังหวังว่าเวทีนี้จะช่วยหาทางออกให้ประเทศในขณะนี้ได้


กำลังโหลดความคิดเห็น