“จารุพงศ์” แถรักษาศักดิ์ศรีฝ่ายนิติ จำต้องโดดขึ้นเวทีแดงไม่รับคำสั่งศาล

รมว.มหาดไทย แก้ตัวพัลวัน ปชป.อัดใช้อำนาจสร้างความแตกแยก อ้างหนุนสุดซอยสังคมไม่เสียหาย ขึ้นเวทีแดงเพราะต้องรักษาศักดิ์ศรีฝ่ายนิติ พร้อมยืนยันควักเงินจ่ายค่าตั๋ว-ที่พักทัวร์จีน-มาเลย์เองทุกบาท หลัง “วิรัช” โชว์ใบเสร็จ บ.ทัวร์จ่ายเงินดูแลงานเข้าข่ายรับเงินเกินสามพัน

วันนี้ (27 พ.ย.) นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายไม่ไว้วางใจนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ว่ามีพฤติกรรมสร้างความแตกแยกให้แก่บ้านเมือง แทนที่จะทำให้บ้านเมืองสงบสุข โดยการสนับสนุนให้มีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับสุดซอย อ้างว่ามีการสำรวจโดยมหาดไทย 75,000 ตัวอย่าง ไม่ส่งเสริมประชาธิปไตย ไม่บำบัดทุกข์บำรุงสุข ใช้อำนาจสั่งให้มีการขึ้นป้ายสนับสนุนทั่วประเทศ ขณะที่มีการชุมนุมของประชาชนกลับใส่เสื้อสีแดงแขนยาวชูมือหราบนเวที แถลงการณ์ไม่ยอมรับคำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้ประชาชนสับสนต่อบทบาทหน้าที่และสุ่มเสี่ยงต่อการขัดรัฐธรรมนูญด้วยการประกาศจะร่วมต่อสู้กับกลุ่ม นปช. และแถลงไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ

นายจารุพงศ์ชี้แจงว่า ถ้าบ้านเมืองสังคมขัดแย้งเป็นหน้าที่มหาดไทยต้องลดความขัดแย้ง ปฏิเสธไม่ได้ว่าแต่ละจังหวัดมีคนกลุ่มสีต่างๆ เช่นกัน การขึ้นคัตเอาต์ก้าวข้ามความขัดแย้ง หันหน้าเข้าหากันไม่ใช่สิ่งที่ผิด มหาดไทยยืนยันทำถูกต้อง ไม่ได้เกิดผลเสียต่อสังคม ส่วนการขึ้นเวทีเสื้อแดงในฐานะหัวหน้า เพราะเห็นว่ารัฐสภามีอำนาจในการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราต้องรักษาเกียรติ ศักดิ์ศรีของสถาบันนิติบัญญัติซึ่งถือเป็นสถาบันหนึ่งของประเทศ ทำในนามหัวหน้าพรรคไม่ใช่ตำแหน่ง รมว.มหาดไทย

ด้านนายวิรัช ร่มเย็น กล่าวว่า กฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 122 และกฎหมาย ป.ป.ช.มาตรา 103 ห้ามเจ้าหน้าที่รัฐรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากบุคคลอื่น และหากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับ 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่การกำกับดูแลการประปาส่วนภูมิภาค ให้จัดตั้งบริษัทจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำ ภาคตะวันออกกำจัด หรืออีสต์วอเตอร์ โดยให้การประปาส่วนภูมิภาคเป็นหุ้นส่วนใหญ่ มีเงินทุน 6,000 ล้านบาท นายชินวัตร อัศวโภคี กรรมการบริษัท ซึ่งเป็นเพื่อนรักบุตรชายนายจารุพงศ์มักพาลูกค้าไปดูแลงานต่างประเทศบ่อยๆ พบว่ามีการนำนายชินวัตร นายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ เลขานุการ มท.1 และนายจารุพงศ์ไปประเทศมาเลเซีย โดยบริษัททัวร์ชื่อ บริษัท แอร์โร อินเตอร์เนชั่นแนล มีบิลเรียกเก็บเงิน และใบสำคัญวางบิล ไป 3 คน สนนราคา 62,340 บาท หลักฐานชิ้นสำคัญคือเช็คของธนาคารกสิกรไทย สาขาบางเขน จ่ายเงินจากบริษัทอีสต์วอเตอร์ นอกจากนี้ยังมีบิลเงินสดจ่ายค่าการเดินทางบริษัททัวร์ เอ็มแอนด์พี ฮอลิเดย์ เดินทางไปจีนสำหรับ 3 คนเช่นเดิม สนนราคา 117,900 บาท พร้อมเช็คเงินสดจ่ายแล้ว

“นายจารุพงศ์ต้องหมดสภาพการเป็นกรรมการบริหารพรรค เพราะรับเงินเกิน 3 พัน มีความผิด คนที่เป็นรัฐมนตรีบางครั้งคิดว่ากฎหมายไม่สำคัญ เงินเล็กๆ น้อยๆ แต่เราต้องคงความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายไว้ โดยเฉพาะคนที่เป็น รมว.มหาดไทย ดูแลผู้ว่าราชการทั่วประเทศ ถ้าหย่อนยานกฎหมาย ผู้ว่าฯ อีก 77 จังหวัดคิดอย่างท่านบ้าง บ้านเมืองก็ไปไม่รอด ผมจึงไม่สามารถไว้วางใจให้นายจารุพงศ์สมควรจะเป็น รมว.มหาดไทยต่อไป”

นายจารุพงศ์ชี้แจงว่า อีสต์วอเตอร์ได้เชิญตนไปดูงาน 2 ครั้ง ที่จีน และมาเลเซียจริง โดยบริษัทอีสต์วอเตอร์เป็นบริษัทที่การประปาส่วนภูมิภาคหุ้นใหญ่ และอยู่ภายใต้การดูแลของตน จึงเห็นว่าการดูงานมีประโยชน์ต่อการบริหารงานจึงตอบรับไปดูงาน โดยตนจ่ายเงินไปเองทั้ง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกที่ประเทศจีน จำนวน 118,000 เป็นค่าเครื่องบินและที่พัก มีหนังสือเอกสารยืนยัน และครั้งที่ 2 ไปมาเลเซีย ยอดเงิน 62,000 บาท เป็นค่าเครื่องบินและที่พัก โดยก่อนเดินทางทุกครั้งตนจะขออนุมัติจากนายกฯ ก่อน จึงขอปฏิเสธว่าไม่ได้จงใจฝ่าฝืนรับทรัพย์สินจากหน่วยงานใดที่ขัดกับรัฐธรรมนูญ และพ.ร.บ.ป.ป.ช. เพราะเงินยอดนี้ไม่ใช่มากมาย และยืนยันว่าตลอดที่รับราชการมารู้กฎเกณฑ์ระเบียบดี และได้ปฏิบัติตามทุกอย่าง จึงไม่จงใจเข้าข้อหาฝ่าฝืนรับทรัพย์สิน ขอยืนยันด้วยเกียรติยศว่าไม่มีความคิดจะเบียดบังทรัพย์สินเหล่านี้