ส.ส.ขี้ข้าทักษิณแถลงยันรัฐจ่ายเงินเดือน ขรก.ตามเดิม ชี้ยึดคลังนานกระทบธุรกิจ ขอ ปชช.อย่าหนุน ตอก “สุเทพ” วางแผนกลุ่มล้มรัฐยึดกระทรวง เพ้อมีทหารแก่ผลักดันหวังเกิดปะทะเพื่ออ้าง ตร.ฆ่า ปชช. ให้ทหารออกมา แต่กองทัพไม่เอาด้วย ลั่นกุ๊ยแดงไม่ยอม แถมปูดทุนต่างชาติหนุนม็อบ เหตุฉุนไม่ได้งานรัฐ ขู่ศาลไม่มีอำนาจถอด 312 ส.ส.-ส.ว.แก้ รธน.-มท.1 กำชับพ่อเมือง ใช้ พ.ร.บ.ปภ.หากผู้ชุมนุมเคลื่อนปิดล้อมและบุกยึดศาลากลาง วอนแกนนำเจรจา
วันนี้ (27 พ.ย.) ส.ส.พรรคเพื่อไทย นำโดยนายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี นายวรชัย เหมมะ ส.ส.สมุทรปราการ นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงข่าว โดยนายสมคิดกล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มผู้ชุมนุมที่เวทีราชดำเนิน นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ประกาศที่จะยึดกระทรวง ทบวง กรม และศาลากลางจังหวัด ขณะที่มีข่าวว่าข้าราชการจะไม่ได้เงินเดือน ขอยืนยันรัฐบาลก็จะดำเนินการเหมือนเดิม ขอให้ข้าราชการทั้งหลายอย่าได้กังวล เพราะกรมบัญชีกลาง สำนักงบประมาณ ก็ได้ยืนยันว่าจะดำเนินการตามปกติ แต่ถ้าหากมีการชุมนุมนานเกินไปจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ กลุ่มนักธุรกิจ ทั้งหลายที่ได้มีการเซ็นสัญญากับภาครัฐไว้ก็อาจจะล่าช้า เนื่องจากมีการดำเนินการทางด้านเอกสารไม่สะดวก ฉะนั้น ประชาชนทั่วประเทศอย่าไปเห็นด้วยในเรื่องการยึดกระทรวงการคลัง แต่จะให้รัฐบาลดำเนินการอะไรก็ให้เรียกร้องมาในสิ่งที่รัฐบาลทำได้ ไม่ใช่มาข่มขู่
นายวรชัยกล่าวว่า การที่นายสุเทพออกมาเพื่อยึดกระทรวงสำคัญทั้งหมด เป็นการวางแผนทั้งหมด โดยนายสุเทพได้ร่วมประชุมกับกลุ่มที่ต้องการล้มล้างรัฐบาลไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย อีกทั้งมีนายทหารเก่าแก่พยายามที่จะผลักดันคนในกองทัพบางคนวางแผนเพื่อก่อเหตุความวุ่นวาย ทำให้รัฐบาลไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และวางแผนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลผู้ชุมนุมปะทะกับประชาชนที่ชุมนุม จนนำไปสู่การอ้างว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจฆ่าและทำร้ายประชาชน จนกลายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเอาไม่อยู่ ทหารก็ต้องออกมาควบคุมสถานการณ์ แต่ต้องยอมรับว่าวันนี้ ผบ.เหล่าทัพ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ทราบว่าการกระทำเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติเลย แต่จะทำให้ประเทศชาติเสียหายและความเชื่อมั่นของประเทศตกต่ำ อีกทั้ง ผบ.เหล่าทัพคงไม่ยอมให้ทหารกลุ่มนี้ออกมาใช้อำนาจตามอำเภอใจอย่างแน่นอน เชื่อว่าคนที่คิดจะทำต้องโดนแรงต้าน เพราะคนเสื้อแดงและคนที่รักประชาธิปไตยคงไม่ยอม นอกจากนี้ยังได้ข่าวยังมีทุนจากต่างชาติกลุ่มหนึ่ง ที่ไม่พอใจรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ที่ไม่ได้ทำสัญญาโครงการรถไฟฟ้ากับรัฐบาล จึงเป็นนายทุนให้เงินกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อล้มรัฐบาล
นพ.เชิดชัยกล่าวว่า การที่ได้มีการยื่นต่อ ป.ป.ช.เพื่อถอดถอน ส.ส.และ ส.ว.312 คน ที่ร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับที่มาของ ส.ว.นั้น ขอเตือน ป.ป.ช.ว่าศาลรัฐธรรมนูญมีขอบเขตอำนาจหรือไม่ แม้ว่าคำวินิจฉัยของศาลจะผูกพันทุกองค์กร แต่ต้องเป็นคำวินิจฉัยไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 คือ การใช้หลักนิติธรรม และถูกต้องตามกฎหมาย ขณะที่พวกตนก็ได้ยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุด ให้ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 เพื่อเป็นการย้ำว่าต้องการให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทำหน้าที่ตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมาย ทั้งนี้เห็นว่าขอบเขตอำนาจของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะมีอำนาจวินิจฉัยได้เฉพาะกฎหมายลูก หรือ พ.ร.บ.อื่นๆ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 154 แต่ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจที่มาพิจารณาการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 291
ด้านนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า ได้ส่งหนังสือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ให้รักษาสถานที่ราชการ หากมีกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าปิดล้อมศาลากลาง เพราะเป็นที่ให้บริการประชาชน และเป็นสัญลักษณ์ การบริหารแผ่นดิน หากมีใครบุกรุกถือว่ามีความผิด ตามกฎหมายอาญา มาตรา 115, 116 ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี พร้อมให้ผู้ว่าฯประสานผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด โดยใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และเชิญประชุมหัวหน้าส่วนราชการเพื่อวางแผนป้องกัน ในแต่ละจังหวัด
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยยังระบุว่า ขณะกลุ่มผู้ชุมนุมได้เข้าปิดล้อมศาลากลางในจังหวัดสตูล สงขลา ชุมพร และตรังแล้ว ซึ่งก็ให้ผู้ว่าราชการประเมินสถานการณ์ในการดูแล และพร้อมให้เปิดรับหนังสือจากผู้ชุมนุม ส่วนตัวไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะกระทบการช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะ 14 จังหวัดภาคใต้ที่กำลังประสบอุกทกภัย
ทั้งนี้ เห็นว่าการที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำผู้ชุมนุมส่งทนายอุทธรณ์ถอนหมายจับข้อหาบุกรุกสถานที่ราชการก็เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายที่สามารถทำได้ แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งมีอายุความ 10 ปี พร้อมขอแกนนำผู้ชุมนุมให้ยึดหลักเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้ง ไม่ให้เกิดความสูญเสีย ซึ่งแนวทางการเคลื่อนไหวขณะนี้เป็นสิ่งที่ผิด