“เพื่อแม้ว” แค้นศาลขัดแก้ รธน. เล็งสุมหัว ส.ว.เปิดประชุมร่วมคว่ำบาตร หลังจบศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ รมต. “ก่อแก้ว” แอบดีใจ “เทือก” ขีดเส้นตายตัวเอง วันพ่อบีบให้ยุติม็อบ เชื่อไม้ตายทหาร-ป.ป.ช.คิดหนักเข้าข้างเทือกก็ต้องเจอกับเสื้อแดง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 26 พ.ย. นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยกำลังหารือกับวุฒิสภา เพื่อขอเปิดประชุมร่วมรัฐสภาให้ ส.ส.และส.ว.อภิปรายเกี่ยวกับกรอบอำนาจหน้าที่องค์กรอิสระว่า ขณะนี้กำลังดูข้อบังคับสภาฯ ตนในฐานะผู้กำลังยกร่างขอเปิดญัตติกำลังดูข้อบังคับ ประเด็นที่จะขอเปิดคือ เรื่องบทบาทฝ่ายนิติบัญญัติเกี่ยวกับกรอบอำนาจหน้าที่ที่มีต่อองค์กรอิสระ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวอีกว่าจะขอเปิดทันทีหลังจากเสร็จสิ้นการโหวตรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย ในวันที่ 28 พ.ย.นี้ นายวิทยากล่าวว่า ยังไม่ได้ระบุวันว่าจะขอเปิดได้เมื่อใด ต้องขอหารือกับ ส.ว.ก่อน แต่หากมีการเปิดประชุมร่วม เป็นการขอเปิดเพื่อให้มีการอภิปราย โดยไม่มีการลงมติเพื่อให้สังคมได้เข้าใจบทบาทหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติว่าทำได้แค่ไหน ไม่ใช่องค์กรอิสระจะมาตีกรอบก้าวล่วงฝ่ายนิติบัญญัติจนทำอะไรไม่ได้
เมื่อถามว่า เรื่องนี้อาจถูกมองว่าเป็นการกดดันศาลผ่านการอภิปราย นายวิทยากล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน เป็นเพียงการระดมความเห็นให้ประชาชนได้ทราบว่าบทบาทหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติว่ามีกรอบอำนาจหน้าที่แค่ไหน แล้วกรอบอำนาจหน้าที่ขององค์กรอิสระมีอำนาจหน้าที่แค่ไหน หากฝ่ายนิติบัญญัติไม่ทำอะไรอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้
ขณะที่นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ในฐานะวิปรัฐบาลกล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว แต่ก็ควรทำเพื่อยืนหยัดในจุดของฝ่ายนิติบัญญัติ
“ในวันนี้เพื่อนกระทืบเต็มตีนแล้ว อย่าไปกลัวอะไร ในสถานการณ์วันนี้ที่เขาจะจับเราเชือดคออยู่แล้ว” นายก่อแก้วระบุ
ส่วนสถานการณ์การชุมนุมในขณะนี้นั้น แกนนำ นปช.กล่าวว่า ข้อเรียกร้องของม็อบนายสุเทพ เลยเป้าหมายทางประชาธิปไตยไปแล้ว วันนี้มาบอกรัฐบาลยุบสภา ลาออก ม็อบยังไม่หยุด เลยไปถึงการขับไล่ตระกูลชินวัตรออกนอกประเทศ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ คนที่สนับสนุนมีมากกว่าคนที่ออกมาไล่ นายกฯ ระบุพร้อมเจรจา ถ้าข้อเรียกร้องเขาเลยเป้าหมายไปแล้วเขาจะมาเจรจากับเราหรือ อีกทั้งถ้ามาเจรจาแล้วเราทำให้เขาไม่ได้จะเป็นอย่างไร รัฐบาลประกาศ พ.ร.บ.มั่นคง 4จังหวัด เป็นการใช้ท่าทีอย่างละมุนละม่อมกว่าประกาศพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ในสถานการณ์ฉุกเฉินที่จะกระทบภาพลักษณ์ต่างชาติ การท่องเที่ยว จึงเลือกประกาศเป็น พ.ร.บ.ความมั่นคงแทน จากนี้คงต้องดูเป็นจุดๆ ว่าจุดไหนควรจะควบคุมการชุมนุม เชื่อว่าม็อบคงไม่ฟัง ไม่มีผลต่อม็อบ ขนาดการชุมนุมคนเสื้อแดงปี 53 รัฐบาลอภิสิทธิ์ประกาศก่อนที่พวกเสื้อแดงจะออกมาอีก แต่สุดท้ายก็ยังออกมา หากออกมาแล้วยังทำอยู่ในกรอบกติกา กฎหมาย ที่รัฐบาลไม่สามารถทำอะไรกลุ่มผู้ชุมนุมได้ เพราะเราไม่มีกรรมการเข้าข้าง การทำอะไรต้องละเอียดรอบคอบ ไม่งั้นประกาศอะไรผลีผลามออกมาอาจจะหมิ่นเหม่ต่อข้อกฎหมายได้
ผุ้สื่อข่าวถามว่า เมื่อประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงควบคุมการชุมนุม ต้องรวมไปถึงกลุ่มที่ชุมนุมของ นปช.ที่ราชมังคลากีฬาสถานด้วย นายก่อแก้วกล่าวว่า รัฐธรรมนูญกำหนดให้ยังทำอะไรตามสิทธิเสรีภาพได้ ที่เสื้อแดงทำตอนนี้ได้คือ เพียงตรึงคนไว้ ชุมนุมแสดงพลังให้ฝ่ายตรงข้ามเห็นว่ายังมีประชาชนจำนวนมากเป็นกำแพงให้รัฐบาล และเราพร้อม รวมทั้งยังเป็นการส่งสัญญาณฝ่ายตรงข้ามว่าอย่าให้มากไป อย่าทำอะไรที่ละเมิดกฎหมายมากไป เสื้อแดงยังไม่เคลื่อนออกนอกที่ตั้ง หากทำอย่างนั้นจะเข้าทางฝ่ายตรงข้าม แต่เรายังชุมนุมอยู่ยังไม่กำหนดวันกลับ อยู่จนกว่าม็อบพรรคประชาธิปัตย์จะกลับ
เมื่อถามอีกว่าอ่านทางม็อบนายสุเทพอย่างไร มองว่ามีไพ่เด็ดเพียงแค่แนวรบด้านมวลชนเพียงอย่างเดียวหรือมั่นใจใน Super Deal ด้วย นายก่อแก้วกล่าวว่า ที่เขาไปคุยไปเชื่อมกันก็คงหวัง แต่เมื่อถึงเวลาคนทำจะกล้าทำหรือไม่ ป.ป.ช.จะกล้าลงดาบ 312 ส.ส.-ส.ว. โดยไม่เป็นไปตามกระบวนการหรือไม่ จะให้ทหารลงดาบจะกล้าหรือไม่ ถ้าทำก็ต้องเจอกับเสื้อแดง แต่เขาคงมั่นใจในฝั่งตัวเองที่ไปหารือ 3-4 คน ทั้งคนชื่อย่อ ส.หรือชื่อย่อ พ.ที่ดันกันสุดตัว นายสุเทพก็รู้ถ้าชนะไม่ได้เขาก็ลำบาก คดีก็เข้าสู่ศาลไปแล้ว พรรคตัวเองก็แพ้เลือกตั้ง
“ยอมรับมวลชนที่มาวันที่ 24 พ.ย.ผมก็ตกใจ แต่เห็นการเคลื่อนยึดกระทรวงต่างๆ พอทำให้ยิ้มได้ นายสุเทพบางครั้งก็ไปพูดอะไรที่มัดตัวเองเกินไป เช่น บอกในสิ้นเดือนนี้ต้องจบ แต่คิดว่าเขาก็คงรู้ถ้าเกินสิ้นเดือน ไม่จบเขาก็ลำบาก ไม่สามารถบอกมวลชนได้ ยิ่งเดือนหน้ามีวันมหามงคล ถ้ายังไม่เลิก กลุ่มคนรักในหลวงก็จะตั้งคำถามกลับ แม้กระทั่งเสื้อแดงก็จะย้อนกลับ ไหนว่าคุณรักในหลวงแต่ทำไมยังชุมนุมอยู่” นายก่อแก้วกล่าว