“นายกฯ ยิ่งลักษณ์” เรียกร้องเครือข่ายโค่นทักษิณหยุดชุมนุม รัฐบาลพร้อมคุย “สุเทพ” และทุกฝ่าย เผยให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามขั้นตอนตามกระบวนการ ขณะเดียวกันกลับถือหางแก๊งแดงก่อม็อบหนุนรัฐบาลได้แม้อยู่ในพื้นที่ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง อ้างชุมนุมอย่างสงบ
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เช้าวันนี้ (26 พ.ย.) ซึ่งเป็นวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ ขณะที่กลุ่มเครือข่ายโค่นระบอบทักษิณบุกยึดสถานที่ราชการหลายแห่งว่า ที่บริเวณบ้านพักซอยโยธินพัฒนา 3 มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด จากตำรวจทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบประมาณ 4 กองร้อย โดยนายกรัฐมนตรีเดินทางออกจากบ้านพักเวลา 08.15 น. เพื่อร่วมประชุมสภาฯ ในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ขณะที่นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกฯ และคณะทำงาน ตั้งวอร์รูมรับมือการอภิปรายไม่ไว้วางใจตั้งแต่ช่วงเช้าที่รัฐสภา
น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์หลังเดินทางถึงอาคารรัฐสภาเกี่ยวกับการดำเนินการกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่บุกรุกสถานที่ราชการหลังประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักรเพิ่มเติมว่า ต้องขอความร่วมมือจากประชาชน เพราะการบุกรุกสถานที่ราชการอาจทำให้การบริหารประเทศติดขัด ซึ่งรัฐบาลไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เพราะการทำงานของกระทรวงต่างๆ มีหน้าที่ในการบริการประชาชนคนไทยทั้งประเทศ รัฐบาลไม่ต้องการให้เกิดความเดือดร้อนและเสียความเชื่อมั่น อย่างไรก็ตาม เรายินดีที่จะหารือรายละเอียดในความร่วมมือกันต่อไป ส่วนขั้นตอนต่างๆ นั้น คงจะมอบหมายให้ฝ่ายเจ้าหน้าที่ดูแลตามขั้นตอนกระบวนการต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าผู้ชุมนุมใช้กฎหมู่เหนือกฎหมาย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คงต้องขอความร่วมมือเราต้องยึดกฎหมายเป็นหลัก การจะให้บ้านเมืองเดินต่อไปได้เราต้องยึดกฎกติกา
ผู้สื่อข่าวถามว่าา กลุ่มผู้ชุมชุมคนเสื้อแดงที่ราชมังคลาฯ ถือว่าอยู่ภายใต้ พ.ร.บ.มั่นคงฯ ด้วยหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ในส่วนของ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ นั้นอยากให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างสงบ ตราบใดที่การชุมนุมเป็นไปอย่างสงบภายใต้กรอบกฎหมาย เชื่อว่าก็จะสามารถดำเนินการได้ ยืนยันว่าไม่ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงต่อประชาชน รัฐบาลยึดหลักการดูแลความสงบ ความมั่นคงในแนวสันติวิธีภายใต้กรอบกฎหมาย แต่ในการบุกรุกสถานที่ราชการนั้นเราคงต้องขอความร่วมมือจากประชาชน
ส่วนที่สหรัฐฯ ออกมาเตือนประชาชนถึงสถานการณ์ความวุ่นวายในไทย จะเรียกความเชื่อมั่นต่อนานาชาติอย่างไร นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นการกระทบความเชื่อมั่น ซึ่งเราไม่อยากเห็นภาพเช่นนี้กลับมาอีก เพราะเราห่วงจะกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งการบุกรุกสถานที่ราชการทำให้หลายๆ ประเทศเป็รห่วง
“อยากเรียกร้องถึงกลุ่มผู้ชุมนุมว่าได้แสดงออกและแสดงจุดยืนอย่างเต็มที่แล้ว และวันนี้เป็นเวทีการอภิปรายที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะได้ติดตามการทำงานของรัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้ร้องขอให้มีการเปิดอภิปราย ก็ควรใช้กลไกนี้เพื่อตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล” นายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มคนเสื้อแดงควรยุติการชุมนุมด้วยหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่า การชุมนุมโดยสันติภายใต้กรอบของกฎหมายสามารถทำได้ แต่ไม่อยากให้นำไปสู่ความวุ่นวายก็ต้องขอความร่วมมือและเชื่อว่าถ้าได้มีโอกาสพูดคุยกันก็เชื่อว่าประชาชนเองจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เพราะเดือนธันวาคมถือเป็นเดือนมหามงคล จึงอยากเห็นคนไทยมีความสุข จะได้ไม่เกิดความกังวลต่อการชุมนุม
ต่อข้อถามว่าจะชี้แจงต่างประเทศโดยใช้ช่องทางไหน น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า การบุกรุกเข้าไปเจ้าหน้าอาจทำงานไม่สะดวก แต่ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศยังทำงานข้างนอกได้ คงต้องหาสถานที่ในการทำงาน แต่ทั้งนี้ขอความเชื่อมั่นประเทศไทยกลับคืนมาดีกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า พร้อมเจรจากับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ยินดีค่ะๆ และยินดีที่จะพูดคุย ซึ่งเวทีปฏิรูปทางการเมืองก็เปิดกว้างอยู่แล้ว อยากให้ใช้เวทีนี้พูดคุย ถ้ามัวแต่ต่างคนต่างพูดคุยไปตอบโจทย์ผู้ชุมนุม คงไม่สามารถหาข้อยุติได้”
ส่วนหากการพูดคุยไม่สำเร็จรัฐบาลจะใช้กฎหมายเข้มงวดขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันนี้ขอให้ดำเนินการไปตามขึ้นตอนและขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการไปทีละขั้นตอนให้เป็นไปตามหลักสากล เมื่อถามว่านายสุเทพประกาศจะตั้งรัฐบาลประชาชน นายกฯ ไม่ตอบ พร้อมกับเดินเข้าร่วมประชุมสภาฯ ทันที