เมื่อรัฐบาลไม่ชอบธรรม ประชาชนก็มีสิทธิ์ปฏิเสธอำนาจ!!

ผ่าประเด็นร้อน

ความไม่ชอบธรรมของรัฐบาลที่นำโดย “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ในที่นี้มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งไม่ชอบธรรมตามกฎหมาย หลังจากพรรคเพื่อไทยประกาศไม่ยอมรับอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ รวมไปถึงไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับที่มาของสมาชิกวุฒิสภามิชอบ รวมทั้งยังเป็นการกระทำที่ทำให้ได้มาซึ่งอำนาจไม่เป็นไปตามวิถีทางรัฐธรรมนูญ และยังต่อเนื่องไปถึงแสดงท่าทีชัดเจนว่าจะไม่ยอมรับการพิจารณาความผิดในเรื่องดังกล่าวของ องค์กรอิสระอย่างคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อีกด้วย

หรือกรณีที่นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ยอมขอนำร่างพระราชบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญในเรื่องดังกล่าวที่ถือว่ามีข้อบกพร่อง “มีมลทิน” ที่จงใจนำขึ้นทูลเกล้าฯ และไม่ยอมนำกลับลงมา เพียงแค่นี้ถือว่ารัฐบาล ผู้นำรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำรัฐบาลมีความผิดใหญ่หลวง ไม่ควรค่าแก่การให้การยอมรับแล้ว เพราะนี่ถือว่ารัฐบาบนี้ปฏิเสธรัฐธรรมนูญที่เป็นกฎหมายสูงสุด ทำลายหลักนิติธรรม นิติรัฐ ทำลายระบบการตรวจสอบถ่วงดุลโดยแท้ เพียงหลักสำคัญไม่กี่ประการดังกล่าวก็เพียงพอแล้วสำหรับเหตุผลทำให้รัฐบาล “ขาดความชอบธรรมทางกฎหมาย” อย่างสมบูรณ์

นอกจากนี้ยังขาดความชอบธรรมในความหมายจากการ “ทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชน” มีการทุจริตคอร์รัปชันจากการออกนโยบายที่มี “ผลประโยชน์ทับซ้อน” เอื้อประโยชน์เฉพาะครอบครัว และเครือญาติของทักษิณ ชินวัตร ที่มีอำนาจแท้จริงชักใยอยู่เบื้องหลังเท่านั้น การใช้เสียงข้างมากในสภาเป็นเครื่องมืองของรัฐบาลหรือฝ่ายบริหาร “ไม่ใช่เสียงข้างมากเพื่อประโยชน์ของคนส่วนใหญ่” ไม่ใช่ประชาธิปไตยตามเจตนารมณ์
ที่สำคัญผ่านมาเกือบ 3 ปี รัฐบาลมีความ “ล้มเหลว” ในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแก้ปัญหาปากท้อง การสร้างรายได้ การอยู่ดีมีสุข รวมไปถึงการสร้างความสามัคคีในประเทศ ตรงกันข้ามกลับสร้างความแตกแยก เลือกปฏิบัติจนสร้างความวุ่นวายโกลาหลไปทั่ว

แบบนี้คือการ “ไร้ความชอบธรรมจากการปฏิบัติงานที่ล้มเหลวของรัฐบาล” มีผู้นำหรือนายกรัฐมนตรีที่ไร้ความสามารถ ไร้สติปัญญาอย่างสิ้นเชิง จนทำให้เกิดการ “ดูถูกเหยียดหยาม” ทำลายศักดิ์ศรีตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์

นอกจากนี้ยังมีข้อปลีกย่อยอื่นๆ ที่ถือว่ามีความสำคัญไม่แพ้กันก็คือ การยอมรับให้ “นักโทษ” ที่เป็นอาชญากร หนีคำพิพากษาอย่าง ทักษิณ ชินวัตร คอยชี้นำชักใยในทุกเรื่อง แม้กระทั่งการแต่งตั้งรัฐมนตรี และข้าราชการในตำแหน่งสำคัญ ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวถือว่าเป็นการทำลายหลักนิติรัฐ ทำลายความเสมอภาคในทางกฎหมายอย่างชัดแจ้ง และไม่อาจยอมรับใช้ เพราะไม่มีประเทศอารยะที่ไหนทำแบบนี้ เพราะหากเป็นชาวบ้านทั่วไปที่นับถือโจร รับฟังคำสั่งโจรชาวบ้านคนนั้นย่อมถูกประณามและไม่ได้รับการยอมรับ แต่นี่กลายเป็นว่า “โจรเป็นคนคัดเลือกรัฐมนตรี” แต่งตั้งตำรวจให้มาใช้กฎหมายคุ้มครองดูแลรัฐบาล หรือมาจัดการกับฝ่ายตรงข้าม

สิ่งที่เกิดขึ้นล้วนเป็นเหตุผลเท่าที่พอนึกขึ้นได้ว่าทำไมรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงหมดความชอบธรรม ไม่สมควรที่จะบริหารบ้านเมืองอีกต่อไป

ดังนั้น เมื่อรัฐบาลไม่มีความชอบธรรม ไม่ยอมรับอำนาจขององค์กรตามรัฐธรรมนูญ คำสั่งที่ออกมาโดยรัฐบาลที่มิชอบ ก็ไม่สมควรยอมรับเช่นเดียวกัน เพราะที่ผ่านมาเป็นการพิสูจน์ให้เห็นชัดแจ้งหลายครั้งแล้วว่าการกระทำและแนวทางการบริหารของรัฐบาลกระทำไปไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ตามเจตนารมณ์

อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมามวลมหาประชาชนก็ได้แสดงออกให้เห็นแล้วว่า พวกเขาได้ปฏิเสธรัฐบาลนี้อย่างไร แต่เมื่อยังดื้อแพ่ง ดันทุรัง ก็ต้องเจอกับการอารยะขัดขืนที่เข้มข้นต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งในที่สุดรับรองว่าไม่มีทางทัดทานได้ตลอดไปหรอก!!