“จุรินทร์” ย้อนรัฐขอประชุมร่วมรัฐสภาเรื่องคดีพระวิหาร นายกฯต้องเข้าแจงสังคมตัดสินเป็นคุณอย่างไร เคลียร์ประโยชน์ทับซ้อนกับแก้ ม.190 ยัน 9 ส.ส.ปชป.ไขก๊อกเพื่อส่วนรวม ไม่กระทบไม่ไว้วางใจยันยื่นก่อนปิดสมัยประชุม อุบไต๋ล็อกเป้า “ปู” อารยะขัดขืนไม่ใช่การบังคับ ไม่ผิด กม. หลายชาติใช้สู้รัฐ ชี้เรื่องปกติใช้อำนาจคุกคามออกหมายเรียก “สุเทพ”
วันนี้ (13 พ.ย.) ที่รัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภา ตามมาตรา 179 ที่มีการพิจารณาเรื่องกรอบความร่วมมือด้านภาษีระหว่างประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา และการตัดสินคดีปราสาทพระวิหารของศาลโลกว่า รัฐบาลเป็นผู้ขอให้มีการประชุมร่วมดังกล่าว นายกรัฐมนตรีจึงควรเข้าชี้แจง และตอบคำถามด้วยตนเอง เพราะสังคมมีคำถามกับปราสาทพระวิหารเป็นอย่างมากว่าคำวินิจฉัยของศาลโลกเป็นอย่างไร และที่นายกฯ ระบุว่าคำตัดสินนั้นเป็นคุณ เป็นคุณอย่างไร เป็นคุณกับใคร ทุกฝ่ายต้องการคำตอบที่ชัดเจนจากนายกฯ ไม่ใช่หยิบยกมาพูดเพียงด้านใดด้านหนึ่ง และที่สังคมมีคำถามเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนดูเหมือนจะสอดคล้องกับการที่รัฐบาลแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา มาตรา 190 ก่อนหน้านี้ ที่จะทำให้การเจรจาระหว่างประเทศไม่ต้องผ่านรัฐสภา ดังนั้นนายกรัฐมนตรีต้องชี้แจงเรื่องดังกล่าว
นายจุรินทร์ยังกล่าวถึงกรณีที่ 9 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ลาออก เพื่อไปเป็นแกนนำผู้ชุมนุม นั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า ถือเป็นการตัดสินใจทางการเมือง และก็ชัดเจนว่าการลาออกของทั้ง 9 ส.ส.เป็นการทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมในอีกบทบาทหนึ่ง เราต้องเคารพการตัดสินใจ ส่วนที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เรียกร้องให้ทำอารยะขัดขืนนั้น ก็เป็นเพียงข้อเสนอไม่ใช่การบังคับ และเป็นสิ่งที่ไม่ผิดกฎหมาย ไม่ได้นำไปสู่การใช้อาวุธไปก่อความไม่สงบ เป็นเพียงแนวทางของประชาชนในหลายประเทศที่ใช้ต่อสู้กับรัฐบาลอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมออกหมายเรียกนายสุเทพนั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องปกติสำหรับรัฐบาลในการใช้อำนาจรัฐมากคุกคามการใช้สิทธิของประชาชนที่เห็นต่างไปจากอำนาจรัฐบาล
นายจุรินทร์ยังกล่าวถึงการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า การลาออกของ 9 ส.ส.จะไม่ส่งผลกระทบต่อการยื่นญัตติแต่อย่างใด เสียง ส.ส.ประชาธิปัตย์ที่มีอยู่ถือว่าเพียงพอ และขณะนี้เราก็มีความพร้อมแล้ว ส่วนจะยื่นเมื่อไรนั้นอาจจะต้องขอดูเรื่องระยะเวลาที่เหมาะสม เพราะหากรออีกช่วงหนึ่งอาจทำให้ข้อมูลและหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งมั่นใจว่าจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจก่อนปิดสมัยการประชุมฯ ในวันที่ 28 พ.ย. แน่นอน โดยอย่างช้าก็จะยื่นภายในสัปดาห์หน้า ส่วนจะยื่นเฉพาะนายกฯ หรือรัฐมนตรีด้วยหรือไม่นั้น ยังไม่ขอเปิดเผยในตอนนี้