“วราเทพ” โวย ปชป.ซักฟอกไม่บริสุทธิ์ใจ “หมวดเจี๊ยบ” ขู่โค่น “แม้ว” สำเร็จจะเอาคืนบ้าง

รมต.ประจำสำนักนายกฯ โวยฝ่ายค้านไม่บริสุทธิ์ใจอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่มีการยื่นญัตติล่วงหน้า ขณะที่รองโฆษกรัฐบาลจ้อ “เทือก” นำม็อบป่าเถื่อน ถามจะรับผิดชอบยังไง ทำขู่โค่นล้มรัฐบาลสำเร็จจะเอาคืนบ้าง อ้างก้าวขึ้นสู่อำนาจไม่ชอบธรรม

วันนี้ (25 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ระยะเวลา 2 วันตามที่ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรกำหนด ถือว่าเพียงพอต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้เวลา 3 วันตามที่ฝ่ายค้านเรียกร้อง ที่ผ่านมาการอภิปรายรัฐมนตรี 6-7 คนใช้เวลาแค่ 3-4 วันเท่านั้น เพราะถ้าไม่อย่างนั้นจะไม่ทันสมัยปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากการลงมติต้องลงคนละวัน ไม่สามารถลงมติในวันอภิปรายได้ การลงมติต้องลงในวันรุ่งขึ้น หากปิดสมัยประชุมแล้วทำให้ไม่สามารถลงมติได้ ญัตติก็จะค้างฝ่ายค้านก็จะเอาไปดิสเครดิตรัฐบาล และไม่ต้องการปล่อยให้มีการลงมติได้ เพื่อไม่ให้นายกฯ ใช้อำนาจในการยุบสภาได้

ส่วนเรื่องประเด็นคำร้องยื่นถอดถอนในการอภิปรายก็ได้รับการยืนยันจากประธานวิปฝ่ายค้านแล้วว่าจะไม่มีการยื่นล่วงหน้า แต่จะยื่นเมื่อมีการอภิปรายในแต่ละประเด็นทั้งหมด แสดงให้เห็นว่าการตรวจสอบครั้งนี้ไม่บริสุทธิ์ใจ ต้องการใช้เทคนิคของช่องรัฐธรรมนูญและข้อบังคับที่เขียนไว้ไม่ชัดเจนนำมาเป็นประโยชน์ทำให้การอภิปรายวุ่นวาย และทำให้ผู้ที่ชี้แจงไม่สามารถเตรียมตัวได้ทัน ตอบการชี้แจงไม่ได้ ถือว่าเป็นการใช้เวทีสภาไม่เป็นไปตามครรลองที่ชอบธรรม เป็นเหตุอันควรเชื่อได้ว่าเจตนาต้องการให้เกิดปัญหาในสภา และขอยืนยันว่าฝ่ายกฎหมายจะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์ขัดขวางการทำหน้าที่ ส.ส.ในสภา อยากขอร้องพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นส่วนของผู้ชุมนุมกลับมาทำหน้าที่ในสภา

ด้าน ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องแปลกที่นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงท่าทีเห็นด้วย และให้ท้ายการกระทำของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ที่พาผู้ชุมนุมไปคุกคามสื่อมวลชน และบุกยึดสถานที่ราชการเพื่อข่มขู่ให้ข้าราชการเลือกยืนข้างพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งๆ ที่ นักการเมืองควรจะต้องเคารพในความเป็นอิสระของสื่อมวลชนและความเป็นกลางของข้าราชการ

ที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ และลูกพรรคประชาธิปัตย์ มักจะตำหนิการกระทำของกลุ่มคนเสื้อแดงอยู่เสมอว่าใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย แต่พอเป็นม็อบของพรรคประชาธิปัตย์บ้าง นายอภิสิทธิ์กลับปกป้องและให้ท้าย สะท้อนให้เห็นว่าหากเป็นพวกตัวเอง จะทำตัวเกเรอันธพาลอย่างไรก็ได้ แต่หากเป็นการเคลื่อนไหวของผู้ที่คิดต่างกับพรรคประชาธิปัตย์ ถึงจะเรียกว่าเป็นการคุกคามใช่หรือไม่ นอกจากนี้ หากนายสุเทพ สั่งการให้ม็อบเดินทางไปกดดันสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ นั้น เป็นการทำเพื่อข่มขู่ให้สื่อมวลชนเสนอข่าวเชียร์พรรคประชาธิปัตย์ แต่ให้เสนอข่าวโจมตีรัฐบาล ก็อย่าเรียกตัวเองว่าเป็นพวกอารยะขัดขืนอีกเลย เพราะมันเป็นพฤติกรรมแบบป่าเถื่อนมากกว่า

“อยากถามพรรคประชาธิปัตย์ว่าจะรับผิดชอบอย่างไร กับความรุนแรงที่เกิดขึ้น ทั้งๆ ที่อ้างมาตลอดว่า จะชุมนุมโดยสันติและอหิงสา แต่สุดท้ายก็มีความรุนแรงเกิดขึ้นโดยที่แกนนำไม่สามารถควบคุมได้” รองโฆษกรัฐบาล กล่าว

ร.ท.หญิง สุณิสา กล่าวอีกว่า ขอเตือนนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ อย่าใช้วิธีการนอกกฎหมาย มาคุกคาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้ยุบสภาหรือลาออก รวมทั้งอย่ายัดเยียดระบอบการปกครองที่ไม่เป็นประชาธิปไตยให้กับคนไทย เพราะจะไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศเช่นกัน และต่อให้โค่นล้มรัฐบาลได้สำเร็จ ก็คงไม่สามารถครองอำนาจได้อย่างราบรื่น เพราะจะถูกขับไล่จากผู้ที่เห็นว่าก้าวขึ้นสู่อำนาจอย่างไม่ชอบธรรม และไม่เป็นไปตามวิถีทางประชาธิปไตย และยังจะทำให้ประเทศถอยหลังลงคลอง เพราะไม่ได้รับการยอมรับจากประชาคมโลกอีกด้วย