xs
xsm
sm
md
lg

“แรมบ๊อง” หิ้ว “อส.เต้ย” แถลงมัด “เทือก” ขนอาวุธ แฉถูกซ้อม-เชื่อชุมนุมใหญ่แป้ก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


จ่าฝูงแดงนำ “ทหารพรานเต้ย” แถลงม็อบราชดำเนินขนอาวุธสงคราม ย้ำเรื่องจริงฟ้องได้ สะท้อน “นายหัวเทพ” ต้องรับความจริงสั่งพวกประชุมที่กองร้อยทหารพราน 42 เตรียมขนสไนเปอร์ ย้ำม็อบรุนแรงแนะ ปชช.อยู่บ้าน เผยแจ้งฝ่ายเกี่ยวข้องแล้ว ห่วง หน.คนต้นเรื่องถูกทำร้าย “อส.เต้ย” อ้างเพื่อนบอกคนที่เห็นเป็นนายทุนสวน ยันหยิบสไนเปอร์เอง แต่ไม่เห็นตอนขนย้าย รับถูกซ้อมเพราะถ่ายคลิป กล่าวถึง “นายหัวเทพ” ยันมีเอี่ยว ชี้ 24 พ.ย.คนร่วมชุมนุมน้อย

วันนี้ (21 พ.ย.) ที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้พานายเต้ย จักราช อส.ทพ.สังกัดกรมทหารพราน 42 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งอ้างว่ารู้เห็นการขนอาวุธสงครามเข้ามาในพื้นที่การชุมนุมของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ว่าที่มาแถลงข่าวเนื่องจากไม่ต้องการให้ถูกมองว่ากุข่าว เพราะเป็นเรื่องจริง และเป็นข้อมูลที่มีพยานบุคคลชัดเจน จึงนำมาเปิดเผยต่อสาธารณชนถึงเบื้องหลัง และหลังจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการหาข้อเท็จจริงต่อไป ซึ่งการเปิดเผยของนายทหารพรานเต้ยอย่างน้อยที่สุดจะเป็นข้อมูลที่สะท้อนว่า 1. นายสุเทพต้องกล้าออกมายอมรับความจริงและพูดความจริงว่าได้สั่งการให้กลุ่มนายทุนพ่อค้าสวนปาล์ม จ.ตรัง เข้าไปประชุมที่กองร้อยทหารพราน 42 จริงหรือไม่ 2. ได้มีการสั่งเตรียมอาวุธเหมือนที่ทหารพรานเต้ยได้ยินชัดเจนว่าอาวุธสไนเปอร์ทั้งหมดนี้ถูกขนไปให้นายหัวเทพจริงหรือไม่ 3. เหตุการณ์เหล่านี้เป็นการเตือนให้เห็นว่าการชุมนุมในครั้งนี้มีอาวุธขนขึ้นมาและเตรียมก่อเหตุ เพื่อจะได้เตือนไปถึงประชาชนว่าอยู่บ้านดีที่สุด เพราะการชุมนุมอาจไม่ปลอดภัย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการแจ้งให้กองทัพทราบเรื่องนี้หรือไม่ รองเลขาธิการนายกฯ กล่าวว่า ได้แจ้งให้ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกฯ ทราบแล้ว และได้คุยกับ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยได้ขอให้ช่วยประสานแจ้งไปยังกองทัพเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริง และตอนนี้กำลังเป็นห่วง ร.ต.จักรภพ เพชรสีหมื่น ผบ.มว.สังกัดกรมทหารพรานที่ 42 ซึ่งเป็นหัวหน้าของ อส.ทพ.เต้ย เพราะทราบว่าถูกทำร้ายด้วย ซึ่งได้แจ้งยัง พล.ท.ภราดร สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงไปช่วยดูแลด้วย

นายสุภรณ์กล่าวยืนยันด้วยว่า ไม่เคยรู้จักกับ อส.ทพ.เต้ยมาก่อน แต่ได้มีการประสานมากับตำรวจที่ตนรู้จัก และยืนยันว่าไม่มีการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น ตนไม่กล้าเอาข้อมูลเหล่านี้มาเปิดเผยหรือใส่ความนายสุเทพ เพราะถ้าไม่เป็นความจริงนายสุเทพก็ฟ้องร้องได้ และตนเองก็ไม่กล้าที่จะให้นายสุเทพฟ้อง แต่เห็นว่าเป็นข้อมูลจริง และถ้าไม่เปิดเผยรอจนเกิดเหตุการณ์ขึ้นมาก่อน ตนจะถูกประนามได้ว่ารู้แล้วไม่ยอมแจ้ง

เมื่อถาม อส.ทพ.เต้ย ว่าในห้องประชุมที่เกิดเหตุมีใครที่เป็นหัวหน้าขณะนั้น อส.ทพ.เต้ยกล่าวว่า ที่เห็นมีข้าราชการ 4 คน แต่งชุดเครื่องแบบมา 2 คน ซึ่งเป็นทหารยศพันตรี แต่อีก 3 คนเป็นบุคคลภายนอกซึ่งตนไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน เมื่อถามว่า ถ้าไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนแล้วรู้ได้อย่างไรว่าเป็นนายทุนสวนปาล์ม อส.ทพ.เต้ยกล่าวว่า หลังจากวันนั้นได้มีเพื่อนมาถามว่าได้รู้จักคนนี้ไหม ซึ่งตนได้บอกว่าไม่รู้จัก เพื่อนเลยเล่าให้ฟังว่านายทุนคนนี้อยู่ อ.กันตรัง จ.ตรัง และเพื่อนก็เห็นหน้านายทุนคนนี้ เมื่อถามว่ากล่องที่ใส่สไนเปอร์เท่าที่เห็นเป็นสไนเปอร์จริงหรือไม่ อส.ทพ.เต้ยกล่าวว่า เป็นสไนเปอร์จริงๆ และตนเป็นคนยกกล่องสไนเปอร์เข้าไปในห้องประชุมเอง โดยใส่รังมารังละ 1 กระบอก มีความยาวประมาน 1.5-2 เมตร เป็นสไนเปอร์รุ่น Chey Tac M 200 ซึ่งยกวันแรกจำนวน 2 กล่อง วันที่ 2 จำนวน 5 กล่อง รวม 7 กล่อง

เมื่อถามว่า หลังจากวันนั้นแล้วได้เห็นขั้นตอนการยกออกไปจากหน่วยทหารหรือไม่ อส.ทพ.เต้ยกล่าวว่า ตนไม่เห็นขั้นตอนที่ขนออกมา น่าจะรอบขนกันช่วงดึก เมื่อถามว่า ทำไมคุณเต้ยถึงถูกซ้อม อส.ทพ.เต้ยกล่าวว่า ตนถูกถ่ายคลิปไว้ตอนที่โทร.คุยโทรศัพท์ และเขาพยายามเข้ามาขอดูโทรศัพท์ว่าตนติดต่อกับใคร ซึ่งตอนที่ตนจะยกกล่องสไนเปอร์มีเจ้าหน้าที่มาบอกว่าห้ามนำโทรศัพท์เข้าไป และให้ถอดซิมออกและเอาไว้นอกห้องประชุม เมื่อถามว่า ส่วนตัวรู้สึกไม่ชอบมาพากลตอนไหน อส.ทพ.เต้ยกล่าวว่า ตั้งแต่ตอนที่มีการประชุมกันวันแรก ตอนที่ตนเข้าไปเสิร์ฟน้ำได้ยินเขาพูดถึงการหาอาวุธไปให้นายหัวเทพ ซึ่งพูดเป็นภาษาใต้ โดยมีบุคคล 2 คนเข้ามาเรียกตนกับหัวหน้าเข้าไปเค้นความจริง และขอดูโทรศัพท์ ซึ่งตนได้แจ้งไปว่าโทร.คุยกับแม่

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ถูกซ้อมตรงไหน อส.ทพ.เต้ยกล่าวว่า ในห้องประชุม โดยถูกเตะที่ซี่โครง ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวขอให้เปิดดูทั้ง 2 คนได้มีท่าทีอึกอัก โดยนายสุภรณ์ตอบแทนว่า อส.ทพ.เต้ยถูกเตะมาหลายวันแล้ว ไม่ถึงกับช้ำอะไรมาก ซึ่งการเตะอาจไม่มีบาดแผลอะไร เมื่อถามว่า อส.ทพ.เต้ยยืนยันได้หรือไม่ว่าที่มาเปิดเผยวันนี้ไม่มีการเมืองมาเกี่ยวข้องหรือไม่มีใครซื้อตัวมา เพื่อดิสเครดิตฝ่ายตรงข้าม อส.ทพ.เต้ยกล่าวว่า ขอยืนยันว่าเรื่องที่ตนเจอมาและพบเห็นเป็นเรื่องจริงทุกอย่าง ไม่มีใครจ้าง ตนทำเพื่อประเทศชาติ เพราะไม่อยากเห็นใครตายอีกแล้ว อยากให้บ้านเมืองสงบสุข ตนจึงยอมเสี่ยงออกมา เมื่อถามว่า หลังจากนี้มั่นใจหรือไม่ว่าจะปลอดภัย อส.ทพ.เต้ยกล่าวว่า ตนมั่นใจว่ารัฐบาลจะให้ความปลอดภัยกับตนได้

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้เคยเป็นการ์ดของกลุ่มการเมืองไหนมาก่อนหรือไม่ อส.ทพ.เต้ยกล่าวว่า ไม่เคยเป็น ตนไม่เคยขึ้นมากรุงเทพฯ เลย มีภรรยาอยู่นครฯ เมื่อถามว่า ข้อความจุดไหนที่ทำให้มั่นใจว่าคนที่อยู่เบื้องหลังคือนายสุเทพ อส.ทพ.เต้ยกล่าวว่า ตนมั่นใจเพราะกลุ่มที่คุยกันบอกว่าขนของไปให้นายหัวเทพ

เมื่อถามว่า หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยแล้วรัฐบาลประเมินการเคลื่อนไหววันที่ 24 พ.ย.อย่างไรบ้าง นายสุภรณ์กล่าวว่า คิดว่าวันที่ 24 พ.ย.ประชาชนจะไม่ให้ความร่วมมือเท่าไหร่ สิ่งที่ประชาชนต้องการคือเฉลิมฉลองวันที่ 5 ธันวาฯ แต่นายสุเทพปราศรัยแบบลิเกหลงโรง ใส่ความไปเรื่อย การชุมนุมเป็นการชุมนุมทางการเมือง ไม่ควรดึงสถาบันมาโหมหรือเรียกว่า “โหมเจ้า” ทุกคนรักและเทิดทูนในหลวง ซึ่งจะถึงวันที่ 5 ธ.ค.แล้วไม่ควรมาปลุกกระแสโหมแบบนี้ มั่นใจว่านายสุเทพจะไม่สามารถเรียกแขกได้ อย่างน้อยเราได้ประสานงานกลับกับนายทุนอย่าให้การสนับสนุน จะเหลือเพียงกลุ่มที่ ส.ก. ส.ข. ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งมา คงไม่มาก เมื่อศาลวินิจฉัยเสมือนหนึ่งให้บ้านเมืองเดินไปได้ ตนก็มองว่าประชาชนก็ต้องการให้บ้านเมืองสงบสุขและเดินไปได้ ส่วนการที่คนเสื้อแดงอาจจะชุมนุมในวันที่ 24 พ.ย.ก็สามารถทำได้ และควรละเว้นการเผชิญหน้ากัน




กำลังโหลดความคิดเห็น