เกาะกระแส
00 จนถึงขณะนี้ถือว่าทุกอย่างเริ่มนับถอยหลังกันแล้ว อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันที่ 24 พย.ที่กำหนดดีเดย์ไล่ "ระบอบทักษิณ"กันครั้งใหญ่ ซึ่งความหมายก็รวมถึงรัฐบาล "หุ่นเชิด"ที่นำโดย ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ด้วยนั่นแหละ บรรยากาศในยามนี้สังคมได้เห็น"ความชั่วช้า"ได้มากขึ้นเรื่อยๆอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน พวก "กลางกลวง"เริ่มมีเสียงเบาลง จนไม่มีความหมายแล้ว เวลานี้มีอยู่สองทางให้เลือกเท่านั้นคือ เอาหรือไม่เอาทักษิณ เท่านั้น เป็นการสู้กันระหว่างระบอบนิติรัฐ กับระบอบส่วนตัวที่ส่งเสริมให้ครอบครัวชินวัตร-วงศ์สวัสดิ์ ได้ร่ำรวยและใช้อำนาจการเมืองกอบโกยสืบไปหรือไม่เท่านั้นเอง คำจำกัดความมีอยู่แค่นี้จริงๆ ไม่มีคำว่า "ประชาธิปไตย"ขี้หมาอะไรมาเกี่ยวข้องทั้งสิ้น เพราะถ้าระบอบทักษิณพ้นไปแบบ "ถอนรากถอนโคน"เมื่อไหร่ เมื่อนั้นประชาธิปไตย แบบถ่วงดุล การเมืองไทยก็จะเข้าสู่จุดสมดุล โดยมี"ภาคปราชน"เป็นพลังสำคัญที่สุดที่จะกำหนดทิศทางในอนาคต ซึ่งเวลานี้กำลังก้าวเดินไปทางนั้นอย่างรวดเร็ว
00 นาทีนี้เรากำลังได้เห็น "วิชามาร"ที่บรรดา "ขี้ข้า"ทักษิณ ต่างระดมนำมาข่มขู่มากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในเรื่องของการขู่จับขังคุก ฐานเป่านกหวีดไล่นักการเมืองชั่ว ข้าราชการชั่วที่รับใช้ทรราช และไม่น่าเชื่อก็คือนั่นเป็นคำขู่จากอธิบดีดีเอสไอ ธาริต เพ็งดิษฐ์ ทำราวกับว่านี่คือ "กบฏนกหวีด"อะไรประมาณนั้น รวมไปถึงระดับปลายแถวอย่างรองผบ.ชน.ที่ออกมาในเชิงข่มขู่ให้ชาวบ้านกลัว เช่นบอกว่ากำลังจะมีการก่อวินาศกรรมในม็อบไล่รัฐบาลวันที่ 24 พย.ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยก็ให้อยู่บ้านเฉยๆอย่าไปร่วมชุมนุม ขณะที่ "นักสันติวิธี"อย่าง สุภรณ์ อัตถาวงศ์ ก็อ้างข้อมูลว่ากำลังมีการขน"สไนส์เปอร์"เข้ามาในม็อบ นี่มันบ้าหรือเปล่า บางครั้งคนพวกนี้จะว่าเจ้าเล่ห์ก็ได้ จะว่าโง่ก็โง่ เพราะจะพูดจะคิดดูแล้วทำไมเหมือนคนไร้สมองแบบนี้ ทั้งที่จะว่าไปแล้วนี่คือการชุมนุมตามสิทธิ์ภายใต้รัฐธรรมนูญ และเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องให้ความคุ้มครองดูแลความปลอดภัย และที่สำคัญคนที่มีศักยภาพก่อควาวุ่นวายและก่อความรุนแรงมีเพียงฝ่ายรัฐเท่านั้น ทั้งมาในรูปของ "ตำรวจ"และกองกำลังภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลและ "รัฐตำรวจ"เท่านั้น ฝ่ายอื่นไม่เห็นเหตุผลที่ต้องทำเช่นนั้น
00 น่าอัปยศอดสูสิ้นดีกับการแถลง "ไม่ยอมรับอำนาจ"ศาลรัฐธรรมนูญ ของบรรดา สส.-สว.กว่า 300 คน ที่เคยร่วมกันโหวต "ข่มขืนรธน."แม้กระทั่ง ตัวประธานสภา อย่าง สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ และ นิคม ไวยรัชพานิช ก็ลงทุนตั้งโต๊ะแถลงแบบประจานให้เห็น "ธาตุแท้"ของตัวเองแบบไม่ต้องเกรงใจใครกันอีกแล้ว แต่อีกด้านหนึ่งมันก็ดีไปอย่างในสถานการณ์แบบนี้ "ใส้กี่ขด"ใครมีเท่าไหร่ก็ลากออกมาให้เห็นจนหมด ถึงเวลากวาดก็จะได้รวมไปในคราวเดียวกัน
00 เวลานี้คงไม่ต้องถามแล้วว่ารัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะอยู่ได้นานแค่ไหน เพราะในปัจจุบันแทบไม่เหลือสภาพความเป็นรัฐบาลให้เห็นแล้ว เพราะถือว่า"หมดความชอบธรรม"อย่างสิ้นเชิง สิ่งที่ทำอยู่ในเวลานี้ก็คือพยายาม "ยื้อ"เวลาออกไปให้นานที่สุดเท่านั้น เพื่อให้กม.สำคัญ "ผ่านสภา"เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นร่างเงินกู้สองล้านล้านบาท การแก้ไขรธน.ให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ แต่คำถามก็คือยิ่งอยู่มันก็เหมือน "ยิ่งเละยิ่งเสื่อม"ลงเรื่อยๆ
00 ในที่สุดก็ชัดเจนและไปไกลเกินคาดสำหรับคำพิพากษาของศาลรธน.ที่ชี้ให้เห็นว่าการแก้ไขรธน.เกี่ยวกับที่มา สว.มิชอบด้วยกม.หลายประการ ทั้งขัดมาตรา 68 ที่เกี่ยวกับการได้มาซึ่งอำนาจไม่เป็นไปตามวิถีทางตามรัฐธรรมนูญ มีการบิดเบือนปกปิดซ่อนเร้น "สอดใส้"ร่างแก้ไขขึ้นใหม่ จนผิดรูปไปจากร่างเดิม รวมไปถึงวิธีการลงคะแนนก็ผิดขั้นตอน"ไม่ซื่อสัตย์"เพราะใช้วิธีการลงคะแนนแทนกัน สรุปก็คือทุกขั้นตอน และเนื้อหามิชอบ ที่สำคัญยังมีเจตนาแก้ไขเปลี่ยนแปลงวุฒิสภาให้เป็น "สภาผัวเมีย"ให้ฝ่ายการเมืองครอบงำอย่างเบ็ดเสร็จ ผิดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่ต้องการให้วุฒิสภากลั่นกรองตรวจสอบและถ่วงดุล ดังนั้นทั้ง สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ และ นิคม ไวยรัชพานิช รวมทั้ง 312 สส.และสว.ไม่ต้องมาชิงแถลงกลบเกลื่อนไม่ยอมรับอำนาจศาล แต่ขอให้เตรียม"รับทัณฑ์"ที่ตามมาให้ดีก็แล้วกัน เพราะพวกนี้ไม่ต่างจาก "แก๊งโจร"ต้องไล่ไปให้พ้นสถานเดียว !!