วิปฝ่ายค้านยืนยันญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจถูกต้องตาม รธน. ชี้ดำเนินการในลักษณะนี้มาตลอดไม่เคยมีปัญหา ซัดประธานสภาฯ ตุกติดตีรวนเพื่อช่วย “ยิ่งลักษณ์-จารุพงศ์” พร้อมซัดฝ่ายรัฐบาลกดดัน-ข่มขู่การทำหน้าที่ของศาล รธน.
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (ประธานวิปฝ่ายค้าน) แถลงภายหลังประชุมวิปฝ่ายค้าน โดยยืนยันว่าฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 158, มาตรา 271, มาตรา 272 และข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ข้อที่ 168 ที่ผ่านมาฝ่ายค้านปฏิบัติลักษณะนี้มาโดยตลอดตั้งแต่สมัยนายชวน หลีกภัย เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และยืนยันว่าฝ่ายค้านจะไม่ยื่นสำเนาเอกสารคำยื่นถอดถอนเพิ่มเติมตามที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เรียกร้อง
ทั้งนี้ การยื่นถอดถอนทั้ง 2 คนเป็นไปตามความถูกต้อง นายนิคม ไวยรัชพานิช ปรานวุฒิสภา มีหน้าที่ส่งต่อเรื่องไปยัง ป.ป.ช. จะไม่มีหน้าที่ส่งต่อให้ประธานสภาฯ หรือผู้ถูกกล่าวงหา ทำให้น่าสงสัยว่าปีที่ผ่านมานายสมศักดิ์ก็เป็นประธานสภาฯ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็เป็นนายกรัฐมนตรี แต่เหตุใดปีนี้จึงมีปัญหา ขอให้ยื่นคำร้องขอถอดถอนเพิ่มเติมเสมือนส่งข้อสอบให้ผู้ที่จะทำการสอบดูก่อน จึงเป็นความพยายามที่จะช่วย น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายจารุพงศ์หรือไม่ และเป็นการใช้อำนาจขอดูข้อสอบก่อนเพื่อประโยชน์ของคนที่จะสอบ ซึ่งปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น พฤติกรรมของประธานสภาฯ และรัฐบาล มีเจตนาตุกติก ตีรวนการทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลของฝ่ายค้าน เป็นความพยายามรวมหัวกันของรัฐบาลและประธานสภาฯ ที่ทำหน้าที่เป็นองครักษ์พิทักษ์นายกรัฐมนตรี
นายจุรินทร์กล่าวว่า การที่ฝ่ายรัฐบาลประกาศไม่รับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญที่จะวินิจฉัยคำร้อง การแก้ไขรัฐธรรมนูญ กรณีที่มา ส.ว.ถือว่าเป็นการไม่ยอมรับนิติรัฐที่เป็นหัวใจของการปกครองระบอบประชาธิปไตย ที่ผ่านมาชอบอ้างประชาธิปไตยถือเป็นแค่คำพูดสวยหรู และหากศาลวินิจฉัยไม่เป็นประโยชน์ก็จะออกมาปฏิเสธ และหลักการก็จะไม่มีประโยชน์ จะมีก็แต่ “หลักกู” เท่านั้นจึงขอให้กำลังใจศาลที่จะปฏิบัติหน้าที่ตรงไปตรงมาเพื่อเป็นหลัก
ทั้งนี้ ฝ่ายค้านยื่นคำร้องให้วินิจฉัยเรื่องนี้ในประเด็น มาตรา 68 ที่ผ่านมารัฐบาลจะโต้แย้งประเด็นว่าไม่เข้าข่ายล้มบ้างการปกครอง แต่กลับไม่พูดถึงอีกประเด็นหนึ่ง คือ ในมาตรา 68 ประเด็นการกระทำใดเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งไม่เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ นอกจากนี้ยังมีความพยายามข่มขู่คุกคามศาล จึงมีความพยายามหลายรูปแบบข่มขู่ศาลเพื่อให้วินิจฉัยออกมาพ้นจากการกระทำความผิด
นายจุรินทร์ยังกล่าวต่อว่า หลังจากนี้ฝ่ายค้านจะใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 154 เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยว่าร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ (พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท) ว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยขณะนี้ฝ่ายค้านได้ทำหนังสือไปยังประธานสภาฯ แล้วว่ามีความประสงค์จะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้น ไม่ว่าการพิจารณาของวุฒิสภาจะเสร็จในเวลาใดหรือนอกเวลาราชการหรือไม่ ก็ให้จัดเจ้าหน้าที่รอรับการยื่นเรื่องดังกล่าวด้วย เพื่อป้องกันหลังจากผ่านวาระ 3 จะมีการลักไก่ขึ้นทูลเกล้าฯ ทันที