นายกฯเชิญ ปชช.รณรงค์ยุติความรุนแรง เชื่อสังคมอยากเห็น รัฐฝ่ายเกี่ยวข้องช่วยสร้างจิตสำนึก ย้ำเคารพสิทธิผู้ชุมนุม แต่ขอให้กลับบ้านเพื่อความสบายใจ เชื่อลอยกระทงผ่านไปด้วยดี ยัน จนท.ปฏิบัติงานราบรื่น ขออย่าเป่านกหวีดงานเป็นทางการ รับ ปธ.สภายังไม่ประสานญัตติไม่ไว้วางใจ ปัดก้าวล่วงศาลปมที่มา ส.ว.วอน ปชช.ฟังด้วยเหตุผลอย่าใช้อารมณ์
วันนี้ (17 พ.ย.) ที่สนามกีฬากองทัพอากาศธูปะเตมีย์ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานเปิดงานและประกาศเจตนารมณ์ “เสียงพลังประชาชน : ยุติความรุนแรง” ของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ที่จัดขึ้นเพื่อรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.42 ซึ่งกำหนดให้เดือนพ.ย.ของทุกปีเป็นเดือนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี โดยมี นางปวีณา หงสกุล รมว.พม. นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร นายพีรพันธุ์ พาลุสุข รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย นางเบญจา หลุยเจริญ รมช.คลัง นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.และเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ร่วมงาน
ทั้งนี้ บริเวณงานมีประชาชนประมาณ 10 กว่าคนมายืนชูป้ายระบุข้อความ “นปช.สายไหม” ตะโกนนายกฯสู้ๆ ต้อนรับ นอกจากนี้ ขบวนเดินพาเหรดในงานบางขบวนยังชูป้ายสีแดงระบุข้อความ อาทิ “คันนายาว สนับสนุนรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง” พร้อมตะโกนนายกฯสู้ๆ ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีสีหน้าที่ยิ้มแย้ม และโบกมือทักทายให้ขบวนพาเหรดตลอดเวลา
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงการรณรงค์ยุติความรุนแรงในสังคมว่า มติคณะรัฐมนตรีกำหนดให้ทุกปีเดือนพฤศจิกายนเป็นเดือนแห่งการรณรงค์ยุติความรุนแรง จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมรณรงค์ เพราะสังคมไทยต้องอยู่ด้วยความรัก เมตตา เอื้ออาทรต่อกัน จึงจะทำให้สังคมมีความสุข โดยเฉพาะเพศที่อ่อนแอ สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ ต้องการดูแลเป็นพิเศษ และการติดเข็มกลัดเครื่องหมาย ก็เพื่ออยากให้เห็นว่า อย่างน้อยทุกปี เราต้องร่วมกันเตือนสังคมว่า ต้องยุติการใช้ความรุนแรงหรือใช้กำลังในครอบครัว
ผู้สื่อข่าวถาม สถานการณ์ปัจจุบันนายกฯจะรณรงค์ไปถึงสังคมอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า อยากใช้โอกาสนี้ขอความร่วมมือกับสังคมไทยทำทุกอย่าง เพื่อไม่นำให้ก่อเกิดความรุนแรง เชื่อว่าเป็นเป้าหมายที่สังคมทุกส่วนอยากเห็น ซึ่งภาครัฐได้พยายามรณรงค์โดยการสร้างจิตสำนึกในทุกกลุ่ม ทั้งในครอบครัวและการรณรงค์ การปกป้องสิทธิ ขณะเดียวกันทางสำนักงานอัยการและกระทรวงยุติธรรมก็พยายามรณรงค์ให้ประชาชนเข้าถึงสิทธิ เพื่อปกป้องสิทธิตามกฎหมาย และศูนย์ช่วยเหลือสังคมก็เปิดโอกาสให้ประชาชนที่ต้องการแก้ไขปัญหาหรือประสบปัญหาสามารถที่จะแจ้งเข้ามาได้ โดยที่ศูนย์ดังกล่าวจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยและเหยื่อต่างๆเพื่อให้ได้รับคุ้มครองทางสิทธิ
เมื่อถามว่า ความรุนแรงที่อาจเกิดจากทางการเมืองในขณะนี้จะแก้ไขอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เป็นเจตนารมณ์ที่เรารณรงค์ทุกปีและอยากขอความร่วมมือว่า รัฐบาลอยากเห็นความสงบและไม่ใช้กำลังกับผู้ชุมนุมและกลุ่มที่แสดงความคิดเห็นเรียกร้องต่างๆ รัฐบาลเคารพในสิทธิการแสดงออกของผู้ชุมนุมตามระบอกประชาธิปไตย ขณะเดียวกันต้องขอความร่วมมือ ถ้าส่วนใดที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะทำให้สังคมมีความสบายใจ เช่น การแสดงสิทธิตามข้อกฎหมาย ก็อยากขออนุญาตให้กลุ่มผู้ชุมนุมกลับไปทำงานตามปกติ ช่วงนี้ใกล้เทศกาล โดยเฉพาะวันลอยกระทงในวันนี้ (17 พ.ย.) อยากให้ประชาชนมีความสบายใจ คลายความกังวล
เมื่อถามว่า ในวันลอยกระทงห่วงความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นโดยเฉพาะมือที่ 3 หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ซึ่งวันนี้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำงานอย่างเต็มที่ เราต้องการดูแลรักษาความปลอดภัยให้ประชาชน ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ของมือที่ 3 และเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งทุกฝ่ายพยายามรณรงค์กันอย่างเต็มที่ ก็คาดว่าจะทำให้เทศกาลลอยกระทงในปีนี้ผ่านพ้นไปได้
เมื่อถามว่า ได้กำชับเจ้าหน้าที่อะไรเป็นพิเศษบ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราได้กำชับเจ้าหน้าที่ตลอดเวลาและเจ้าหน้าที่ทุกคนรับทราบภารกิจว่า หน้าที่หลักคือ การดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนและขอให้ทำหน้าที่ด้วยความอดทน ละมุนละม่อม ไม่ต้องการให้มีอะไรนำไปสู่ความรุนแรง และที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติงานด้วยดีมาตลอด การดูแลสถานการณ์การชุมนุมต่างๆ ก็ไม่เกิดความรุนแรงขึ้น ซึ่งจะทำหน้าที่เช่นนี้ต่อไป
เมื่อถามว่า นายกฯเกรงเสียงนกหวีดหรือกลัวเสียงนกหวีดเป่าใส่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ถือว่าเป็นการแสดงออกของพี่น้องประชาชน เราคงไม่สามารถไปพูดหรือก้าวละเมิดอะไรได้ แต่ต้องขอความกรุณาว่า บางครั้งงานที่เป็นทางการก็อยากให้เห็นถึงความสามัคคี อีกทั้งในการแสดงออกก็มีหลายวิธีและมีอีกหลายเวทีที่จะรับฟังความเห็น
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจพร้อมถอดถอนว่า นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยังไม่มีการติดต่อประสานงานมา คาดว่ายังอยู่ในขั้นตอนของสภา ต้องขออนุญาติรอฟังรายละเอียดทั้งหมดก่อน เพราะตนยังไม่เห็นรายละเอียดในญัตติดังกล่าวเลย ทราบแต่ว่ามีหัวข้อการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งตามหลักแล้ว ผู้ที่จะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจจะต้องได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องก่อน
เมื่อถามว่า ในวันที่ 20 พ.ย.นี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยคำร้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาของวุฒิสมาชิก กังวนใจหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เรื่องนี้คงไม่สามารถก้าวล่วงอะไรได้ ในข้อเท็จจริงแล้วเราก็พยายามรับฟังกันด้วยเหตุและผล คงต้องขออนุญาต ทุกอย่างต้องขอให้ประชาชนรับฟังด้วยเหตุและผล อย่าใช้อารมณ์ ทุกอย่างเชื่อว่า ศาลรัฐธรรมนูญ จะพิจารณาด้วยความละเอียดรอบครอบและดูในเรื่องกติกาต่างๆ อย่างสมบูรณ์ และเราอยากเห็นบ้านเมืองก้าวไปสู่ความสงบสุข สองสามปีที่ผ่านมาเรามีบรรยากาศไปในทิศทางที่ดีแล้ว ก็อยากเห็นบรรยากาศเหล่านี้ต่อไป