“นิคม” ดักคอศาล รธน.หวังวินิจฉัยไม่ทำชาติแตกแยก

ส.ว.ชลบุรี เผยประชุมวุฒิสภาวันจันทร์ โหวตผู้ตรวจการแผ่นดิน ก่อนซัก พ.ร.บ.กู้ 2 ล้านล้าน วาระ 2 หวังเสร็จไม่เกิน 4 ทุ่ม ด้านประธานวุฒิสภา ยันไม่ได้ทำอะไรเลยเถิด พร้อมส่งคำร้องถอดถอนให้ ป.ป.ช. ชี้ถ้าไม่เคารพเหตุผลชาติวุ่นแน่ ดักคอศาล รธน.วินิจฉัยไม่ก้าวล่วงจนสังคมแตกแยก

วันนี้ (16 พ.ย.) นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ส.ว.ชลบุรี ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) เปิดเผยถึงการประชุมวุฒิสภา ในวันที่ 18 พ.ย. นี้ ว่า จะมีวาระพิจารณาที่สำคัญ 2 เรื่อง คือ 1.ให้ความเห็นชอบ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ซึ่งเป็นบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดิน หลังจากที่คณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมได้ดำเนินการแล้วเสร็จ เบื้องต้นผลการพิจารณาพบว่า นายพรเพชร ไม่พบข้อมูลเกี่ยวกับประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมที่เป็นผลเสียแต่อย่างใด และหลังจากลงมติเป็นการลับแล้วเสร็จ จะมีการพิจารณาในเรื่องที่ 2 คือ ร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ (พ.ร.บ.กู้เงิน) วงเงิน 2 ล้านล้านบาท วาระสอง หลังจากที่กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาแล้วเสร็จ

นายสุรชัย กล่าวต่อว่า สำหรับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน เบื้องต้นได้วางกรอบให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 18 พ.ย. ไม่เกินเวลา 22.00 น. ทราบว่าขณะนี้มี ส.ว.ที่สงวนความเห็น และขอแปรญัตติ ประมาณ 54 คน อีกทั้งกรรมาธิการฯ เสียงข้างมากเห็นชอบให้มีการแก้ไข ใน 2 มาตรา คือ มาตรา 3 ว่าด้วยการกำหนดนิยามที่ได้เพิ่มนิยามของคำว่า “โครงการ” ที่หมายถึง โครงการตามที่กำหนดไว้ในบัญชีท้ายร่าง พ.ร.บ.นี้ และมาตรา 6 ว่าด้วยการกำหนดวัตถุประสงค์ของการกู้เงิน ซึ่งได้แก้ไขให้การกู้เงินเพื่อนำไปใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ในการกู้ ต้องนำส่งคลังตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ และกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลัง จากเดิมที่ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน ที่ผ่านความเห็นชอบของสภาฯ ระบุว่า ไม่ต้องนำส่งคลังตามกฎหมาย จะทำให้ ส.ว.ทุกคนได้รับสิทธิอภิปราย อย่างไรก็ตาม หากในวันที่ 18 พ.ย. การอภิปรายมีแนวโน้มไม่แล้วเสร็จ ก็จะขอให้ไปพิจารณาต่อในวันที่ 19 พ.ย. และต้องแล้วเสร็จภายในวันดังกล่าว เนื่องจากวุฒิสภาได้รับสิทธิให้พิจารณาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 21 พ.ย. นี้ ส่วนตัวเชื่อว่าบรรยากาศการอภิปรายจะเป็นไปอย่างราบรื่น

ด้านนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงกรณีตกเป็นเป้าโจมตีทางการเมืองว่า ต้องขอความเห็นใจด้วยตนต้องทำตามหน้าที่ ไม่ได้ทำอะไรเลยเถิด เพราะมีกลุ่มบุคคลกว่า 50 กลุ่มยื่นคำร้องขอให้ตนเร่งยับยั้งร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และ ส.ว.ทุกคนก็เห็นตรงกัน 100 เปอร์เซ็นต์ แล้วทำไมเราไม่เร่งแก้ปัญหาบ้านเมือง เป็นการแปรเจตนาของตนผิดไม่รู้ว่าต้องการอะไร สำหรับคำร้องยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีรวม 3 คน ตนจะรีบตรวจสอบหากไม่มีอะไรผิดพลาด จะส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการต่อไป

เมื่อถามว่า มองสถานการณ์ที่มีการปลุกมวลชน 2 ฝ่ายขึ้นมา นายนิคม กล่าวว่า ขอวิงวอนทุกฝ่ายให้คิดถึงประโยชน์ของประเทศชาติ ถ้าตราบใดยังเป็นอย่างนี้ ไม่เคารพเหตุผลซึ่งกันและกันบ้านเมืองวุ่นวายแน่

“หวังอย่างเดียว่าวันที่ 20 พ.ย.นี้ ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยคำร้องเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาของ ส.ว. จะพิจารณาโดยยึดหลักนิติรัฐ นิติธรรม ให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ยึดหลักกฎหมาย เพราะผมยังเชื่อในกระบวนการยุติธรรม คงไม่พิจารณาก้าวล่วงจนทำให้สังคมเกิดความแตกแยก แต่ทุกอย่างอยู่ที่การพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ” นายนิคม กล่าว