“ไพร่เทียม” แฉกิจการ ส.ส.ปชป.ไม่หยุดงานอารยะขัดขืนตามที่ “สุเทพ” อ้าง ฉะไม่จริงใจ กลับใช้อำนาจบีบองค์กรปกครองท้องถิ่น ร.ร.สังกัด อบจ.หยุดแทน สะกิด มท.สอบลุอำนาจ สู่รู้แผนระดมคนจากใต้ขึ้น กทม.15 พ.ย.เพื่อปิดการจราจร ชี้ “มาร์ค” สมคบมาแต่ต้น เลิกอ้างเป็นแขกรับเชิญ มั่นใจแก้ที่มา ส.ว.ศาลตัดสินไร้ปัญหา ตามน้ำ “ทูตวีรชัย” ฉะ “ศิริโชค” ทำสถานการณ์เลวร้าย ไม่แคร์ IMF เตือนจำนำข้าว ด้านลุยต่อ
วันนี้ (14 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ และแกนนำ นปช.กล่าวถึงมาตรการอารยะขัดขืนของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ว่าจากการตรวจสอบกิจการห้างร้านของคนพรรคประชาธิปัตย์ ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 13 พ.ย. ทุกกิจการไม่มีกิจการใดยุติการปฏิบัติงานสักรายเดียว อาทิ ศรีสุบรรณฟาร์มของนายสุเทพ กิจการในเครือของคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และกิจการโรงเรียนและโรงแรมของนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีตส.ส.กทม. ดังนั้นจึงไม่มีความจริงใจเหมือนที่แสดงออกบนเวที แต่พบกรณีที่หยุดการปฏิบัติงานจ ริงคือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่คนของพรรคประชาธิปัตย์มีอำนาจบริหาร และไปใช้อำนาจทางมิชอบสั่งการให้โรงเรียนในสังกัดเทศบาลในสังกัด อบจ.หยุดการเรียนการสอน เช่น โรงเรียนในสังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช หยุดการเรียนการสอนกระทันหัน 9 โรงเรียน โรงเรียนในสังกัด อบจ.สุราษฎร์ธานี 3 โรงเรียน และอีกหลายแห่งใน จ.ชุมพร ซึ่งการอ้างว่ามีกำหนดการประชุมอยู่ก่อนแล้วไม่ใช่ข้อเท็จจริง เพราะหลายโรงเรียนนักเรียนและผู้ปกครองไม่ทราบ แสดงว่าไม่มีการประกาศล่วงหน้า ถือเป็นการลุแก่อำนาจ จึงอยากให้กระทรวงมหาดไทยตรวจสอบการใช้อำนาจของผู้บริหารท้องถิ่นเหล่านี้
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์ได้ใช้เครือข่ายการระดมผู้คนจากภาคใต้ในหลายจังหวัดขึ้นมา กทม.เพื่อร่วมเคลื่อนไหวในวันที่ 15 พ.ย.นี้ โดยจะมีการยกระดับปิดกั้นการจราจรในหลายพื้นที่ จึงอยากให้ทบทวน และอยากให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เลิกแสดงเป็นแขกรับเชิญ ถอดหน้ากากตัวเองให้คนเห็นชัดๆ ว่าสมคบคิดกันมาตั้งแต่ต้น คาดว่าวันที่ 15 พ.ย.หากเป็นไปที่พรรคประชาธิปัตย์คิด กทม.คงโกลาหล มีผู้คนมามากกว่าปกติ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ดูแลใกล้ชิด นอกจากนี้ วันที่ 20 พ.ย.ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาส.ว.นั้นไม่ว่าจะพิจารณาจากแง่มุมไหน การแก้ให้ ส.ว.มาจากการเลือกตั้งไม่ได้หมายความว่าเป็นการล้มล้างการปกครองแน่นอน เชื่อมั่นว่าศาลจะวินิจฉัยไม่เป็นลบต่อรัฐบาล แล้วเราจะผ่านสถานการณ์ของศาลรัฐธรรมนูญไปได้ แต่หากมีทฤษฎีสมคบคิด เรื่องวางแผนร่วมกันหลายๆ ฝ่าย จึงอาจต้องดูอีกที
นายณัฐวุฒิกล่าวถึงการตอบโต้กันระหว่างนายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ กับนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในการประชุมร่วมรัฐสภาตามมาตรา 179 ว่า อยากให้พรรคประชาธิปัตย์ทำงานด้วยความสำนึกและความรับผิดชอบ ตนไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ต้องจารึกว่าหัวหน้าทีมทนายความที่ไปว่าความแล้วประเทศไทยแพ้คดีปราสาทพระวิหารเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แล้วต่อมา 50 ปี คนที่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายเข้าไปอีกก็เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์
รมช.พาณิชย์กล่าวถึงกรณีกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เสนอให้ยกเลิกนโยบายรับจำนำข้าวว่า นโยบายนี้หลายฝ่ายทั้งในและต่างประเทศให้ความสนใจมาตรวจสอบอยู่แล้ว รัฐบาลไม่ได้ปิดกั้น แต่การจะตัดสินใจยุติการดำเนินการเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องพิจารณาโดยรอบคอบ เพราะในส่วนที่เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรเห็นชัดว่าเป็นจริง แล้วเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลที่ผลักดันมาตลอด ซึ่งความเห็นดังกล่าวทีมเศรษฐกิจคงรับไปพิจารณา อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เดินหน้าต่อไป ไม่ได้หมายความว่าไอเอ็มเอฟว่าแล้วจะต้องฟัง คนอื่นตั้งข้อสังเกตก็เป็นหน้าที่ที่รัฐบาลต้องรับฟัง แต่ในชั้นนี้ไม่มีแนวทางเปลี่ยนแปลง