ผบ.ตร.ไม่ห่วงม็อบยกระดับการชุมนุมมีแผนและขั้นตอนการปฏิบัติรับมืออยู่แล้ว ระบุเงื่อนไขเริ่มลดทำเรตติ้งม็อบตก เหลือผู้ชุมนุมไม่มาก เชื่อที่สุดจบลงด้วยดี รับการข่าวพบมีมือที่ 3 เข้าแทรกซึมก่อเหตุรุนแรงในการชุมนุม แต่เจ้าหน้าที่มีมาตรการรับมืออยู่แล้ว อ้างต้องเร่งขอคืนพื้นที่ก่อนเดือนธันวาฯ ที่มีการจัดงานเฉลิมพระเกียรติในหลวง
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยภายหลังเข้ารายงานสถานการณ์การชุมนุมต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า ตนได้รายงานถึงสถานการณ์ภาพรวมของการชุมนุมขณะนี้ โดยที่นายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่าให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยยึดหลักกฎหมาย ส่วนสถานการณ์การชุมนุมที่มีบางกลุ่มประกาศยกระดับการชุมนุมนั้น ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เตรียมแผนและขั้นตอนการปฎิบัติรองรับไว้หมดแล้ว ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยได้ สำหรับการประกาศของแกนนำว่าการชุมนุมจะสิ้นสุดภายในสิ้นเดือน พ.ย.นี้ ส่วนตัวมองว่าสถานการณ์จะจบลงด้วยดีตามที่วิเคราะห์ไว้
ผู้สื่อข่าวถามถึงการเฝ้าระวังการก่อเหตุโดยผู้ที่ต้องการก่อความวุ่นวายหรือมือที่ 3 พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า ตามรายงานของฝ่ายการข่าวแจ้งมาเป็นระยะๆ ว่าอาจจะมีมือที่สามเข้ามาแทรกซึมเพื่อก่อเหตุความรุนแรงในการชุมนุม และหวังผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลง โดยทางเจ้าหน้าที่ก็มีมาตรการเตรียมรับมืออยู่แล้ว และเชื่อว่าจะควบคุมได้ ส่วนกระแสข่าวผู้ชุมนุมจะเผาที่ทำการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) นั้นก็เป็นไปได้ที่ผู้ชุมนุมจะยกระดับความรุนแรงหวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
“สถานการณ์ตอนนี้ดีขึ้นมาก และกระแสต่างๆ ก็ดีขึ้นมากหลัง ส.ว.ลงมติคว่ำ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมและมีคำตัดสินของศาลโลก เห็นได้จากการชุมนุมเมื่อวานนี้ (12 พ.ย.) พบว่าผู้มาชุมนุมทั้ง 3 จุด เหลือไม่มาก มีกว่า 6,000 คน เนื่องจากเงื่อนไขต่างๆ หมดลงไปแล้ว”
พล.ต.อ.อดุลย์ยังกล่าวถึงแนวทางการขอคืนพื้นที่จากกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยว่า ต้องประเมินปัจจัยหลายอย่าง และต้องพิจารณาเป็นช่วงๆ หากประชาชนเดือดร้อนมากก็จำเป็นต้องพิจารณาดำเนินการเป็นรายกรณีไป โดยเฉพาะในช่วงเดือน ธ.ค.นี้ ที่มีภารกิจต้องใช้พื้นที่บริเวณถนนราชดำเนินในการจัดงานวันเฉลิมพระชนมพรรษา
ส่วนกรณีที่มีผู้แจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีต่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ และพวก ในข้อหากระทำความผิดต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรนั้น พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวเพียงว่า เป็นอำนาจของพนักงานสอบสวน โดยที่จะดำเนินการตามขั้นตอน เริ่มจากการออกหมายเรียก ยืนยันว่าจะยึดตามหลักกฎหมาย