ผู้ว่าฯ กทม. เรียกคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมด่วน ติดตามความคืบหน้าและสถานการณ์การชุมนุมในพื้นที่ กำชับหน่วยงานในสังกัดเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมปฏิบัติงาน 24 ชั่วโมง หากมีเหตุการณ์ฉุกเฉินให้รายงานผู้บังคับบัญชาทันที และให้ปิดโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครในพื้นที่เขตพระนคร ดุสิต และป้อมปราบศัตรูพ่าย 3 วัน
วันนี้ (10 พ.ย.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นประธานการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์การชุมนุมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้อำนวยการสำนัก ผู้อำนวยการเขต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ณ ห้องสุทัศน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) ซึ่งที่ประชุมได้รายงานถึงการเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ ของหน่วยงานในสังกัด อาทิ ศูนย์เอราวัณ หน่วยแพทย์ฉุกเฉิน โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่เทศกิจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่ต่างๆ ของกรุงเทพฯ ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการชุมนุม รวมถึงบริเวณที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะเคลื่อนตัวผ่าน เพื่อให้สถานการณ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประชาชนได้รับความปลอดภัย ตลอดจนช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้ประชาชน
อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้กำชับให้ทุกฝ่ายติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์การชุมนุมทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถด้วยความระมัดระวัง จัดเตรียมรถดับเพลิงไว้ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร อีกทั้งหากประสบเหตุการณ์ฉุกเฉินเร่งด่วนให้รีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบทันที
ทั้งนี้ ผู้อำนวยการเขตพระนคร ดุสิต และป้อมปราบศัตรูพ่าย ได้สั่งปิดโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครต่อเนื่อง 3 วัน ระหว่างวันที่ 11 – 13 พ.ย. 56 ดังนี้ เขตพระนคร 11 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนราชบพิธ โรงเรียนวัดตรีทศเทพ โรงเรียนวัดพระเชตุพน โรงเรียนวัดมกุฏกษัตริยาราม โรงเรียนวัดมหรรณพ์ โรงเรียนวัดมหาธาตุ โรงเรียนวัดราชนัดดา โรงเรียนวัดราชบูรณะ โรงเรียนวัดสุทัศน์ โรงเรียนวัดใหม่อมตรส และโรงเรียนวัดอินทรวิหาร เขตดุสิต 9 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนวัดเบญจมบพิตร โรงเรียนวัดจันทรสโมสร โรงเรียนวัดเทวราชกุญชร โรงเรียนวัดธรรมาภิรตาราม โรงเรียนวัดประชาระบือธรรม โรงเรียนวัดสวัสดิ์วารีสีมาราม โรงเรียนวัดราชผาติการาม โรงเรียนวัดสมณานัมบริหาร (วัดญวนสะพานขาว) และโรงเรียนสุโขทัย และเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย 4 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนวัดคณิกาผล โรงเรียนวัดดิสานุการาม โรงเรียนวัดพระพิเรนทร์ และโรงเรียนวัดสิตาราม
สำหรับสถานการณ์การเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหมดในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ได้รับรายงานจากแหล่งข่าวต่างๆ มี 11 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ คัดค้านการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมและต่อต้านระบอบทักษิณ ชุมนุมบริเวณถนนราชดำเนินนอก (สะพานผ่านฟ้าลีลาศ) กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) คัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมและขับไล่รัฐบาล ชุมนุมบริเวณถนนราชดำเนินนอกระหว่างแยก จปร. และสะพานมัฆวาน กลุ่มประชาชนคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ชุมชนบริเวณถนนราชดำเนิน อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กลุ่มธรรมยาตรา เรียกร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญดำเนินคดีกับคณะรัฐมนตรีกรณีประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงทั้งที่ผู้ชุมนุมไม่มีแนวโน้มจะก่อเหตุความรุนแรง ชุมนุมบริเวณหน้าศาลรัฐธรรมนูญ ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่
กลุ่มสภาประชาชนปฏิวัติแห่งชาติ เรียกร้องให้แก้ไขปัญหาและคัดค้านการขึ้นราคาแก๊สและน้ำมันที่ไม่เป็นธรรม ชุมนุมบริเวณด้านหน้าสำนักงานใหญ่ ปตท. ถนนวิภาวดี-รังสิต กลุ่มพลังธรรมาธิปไตย ปกป้องศาลรัฐธรรมนูญจากอำนาจมืดและเป็นกำลังเสริมให้กลุ่ม คปท. ชุมนุมบริเวณศาลรัฐธรรมนูญ เขตหลักสี่ กลุ่มภาคีพลังประชาชน (ภปช.) จัดเวทีปราศรัยเพื่อปกป้องรัฐบาล ชุมนุมบริเวณถนนกำแพงเพชร 3 ด้านหลังตลาดนัดสวนจตุจักร กลุ่มชาวบ้านชายแดนไทยกัมพูชา จาก จ.สุรินทร์ จ.บุรีรัมย์ จ.ศรีสะเกษ จ.สระแก้ว และ จ.นครราชสีมา ชุมนุมบริเวณวัดพระรามเก้า เขตห้วยขวาง เพื่อเดินทางมาฟังคำพิพากษาของศาลโลก กลุ่มเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ จะเดินทางไปบ้านพักนายกรัฐมนตรี บริเวณซอยโยธินพัฒนา 3 เพื่อเรียกร้องไม่ให้รัฐบาลรับคำตัดสินของศาลโลก พรรคเพื่อไทย จัดเวทีปราศรัยรวมพลคนเสื้อแดง นปช. และเสื้อแดงปกป้องประชาธิปไตย ชุมนุมลานเอนกประสงค์หลังธันเดอร์โดม เมืองทองธานี จ.นนทบุรี และกลุ่มอาทิตย์สีแดง นัดรวมตัวกันที่แยกราชประสงค์
