xs
xsm
sm
md
lg

Set Zero ทักษิณ เหนือเสียงข้างมากยังมีเสียงประชาชน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พี่เมียกับน้องเขย คือ นช.ทักษิณ ชินวัตร กับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ บอกว่า ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมจะเป็นการ Set Zero ประเทศไทย พาสังคมไทยย้อนเวลากลับไปหาอดีต เริ่มนับหนึ่งใหม่ สร้างความปรองดองของคนในชาติ

ไปๆ มาๆ เพียงสามวัน หลังจากพรรคเพื่อไทยกระทำการลักหลับ ใช้เสียงข้างมาก ผ่านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมวาระ 2 และวาระ 3 รวดเดียว เมื่อเช้ามืดวันที่ 1 พฤศจิกายน นช.ทักษิณกลับเป็นฝ่ายถูก Set Zero เสียเอง เรื่องโกหกที่กุขึ้นมาตลอด 7 ปีที่ผ่านมาว่า ตัวเองถูกรังแก ถูกอิจฉาจากอำมาตย์ ภาพที่นักวิชาการเสื้อแดง ตัดตีนให้เข้ากับเกือก แต่งแต้มเติมสีให้เขาเป็นชนชั้นนำใหม่ที่เข้ามาแย่งชิงอำนาจผลประโยชน์จากชนชั้นนำเก่านำไปจัดสรรให้กับชนชั้นล่าง จนเป็นที่เกลียดชัง ต้องถูกทำลายล้างเป็นชนชั้นนำใหม่ที่เป็นหุ้นส่วนอย่างเหลือเชื่อกับชนชั้นกลางใหม่ในการสร้างประชาธิปไตย เรื่องโกหกนี้ถูกลบล้างด้วยความจริงที่สะท้อนผ่านร่างกฎหมายนิรโทษกรรมว่า ธาตุแท้ของ นช.ทักษิณคือคนเห็นแก่ตัว ขี้โกง ทรยศ

เห็นแก่ตัวที่บงการให้ลิ่วล้อในสภาผู้แทนราษฎรเปลื่ยนแปลงแก้ไขบทบัญญัติในมาตรา 3 ให้เป็นประโยชน์แก่ตัวเอง และหัวโจกในการเผาบ้านเผาเมือง ด้วยเสียงข้างมาก ไม่คำนึงถึงหลักการและความถูกต้อง โดยไม่สนใจเลยว่ากฎหมายบับนี้จะถูกต่อต้านคัดค้านจากประชาชนมากแค่ไหน ขอเพียงตัวเองได้ประโยชน์ อะไรจะเกิดขึ้นก็ช่างมัน

ขี้โกง นอกจากจะเขียนกฎหมายลบล้างความผิดคดีฉ้อโกงของตัวเองโดยอ้างว่าเป็นคดีที่ตนถูกกลั่นแกล้งจากคนที่เป็นปรปักษ์ที่ทำหน้าที่ เป็น คตส.แล้ว ยังขี้โกงเขียนกฎหมายให้ลบล้างความผิด ที่เกิดขึ้นก่อนการรัฐประหารในปี 2549 โดยให้ครอบคลุมตั้งต่ปี 2547 เป็นการฉวยโอกาสป้องกันความเสี่ยงที่ตัวเองอาจถูกดำเนินคดีในกรณีตากใบและกรือเซะ และยังขี้โกงเขียนกฎหมายลบล้างความผิดที่เกิดขึ้นในรัฐบาลนี้ด้วย

ทรยศ คือทรยศต่อคนเสิ้อแดงที่ถูกใช้เป็นเหยื่อในการสร้างความรุนแรงเพื่อล้มรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2553 ด้วยการนิรโทษแบบเหมาเข่ง ให้นายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ออกคำสั่งสังหารคนเสื้อแดง เพื่อให้ตัวเองได้รับการนิรโทษในคดีคอร์รัปชั่นด้วย

ร่างกฎหมายนิรโทษล้างความผิดคดีคอร์รัปชั่นให้ตัวเอง Reset นช.ทักษิณให้ย้อนกลับไปอยู่ในสถานการณ์เดิมเมื่อต้นปี 2549 ตอนที่ขายหุ้นชินคอร์ปฯ ให้กลุ่มเทมาเส็กจากสิงคโปร์ ในราคา 76,000 ล้านบาท โดยไม่เสียภาษีให้รัฐเลยสักบาทเดียว และยังกล่าวโจมตีผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นพวกที่อิจฉาตน ทำให้ผู้คนหลั่งไหลราวสายน้ำเข้าไปร่วมรับฟังรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ที่สวนลุมพินีกระแสต่อต้านทักษิณลุกลามขยายตัวไปทั่วอย่างรวดเร็วจนเกิดการชุนนุมใหญเพื่อขับไล่ทักษิณในนามพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

ครั้งนั้น นช.ทักษิณเชื่อว่ากลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านเขามีไม่มาก ครั้งนี้ก็เช่นกัน ที่เขาประเมินว่ากลุ่มต่อต้านไม่มีพลังมากพอถึงกับสบประมาทว่าไม่ถึงหมื่นคน

สถานการณ์การชุมนุมตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม ทั้งการชุมนุมของ เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท ซึ่งปักหลักอยู่ที่อุรุพงษ์มาก่อนแล้ว และการชุมนุมที่สถานีรถไฟสามเสน ของพรรคประชาธิปัตย์ ได้ขยายตัวออกไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่กระแสการต่อต้านร่างกฎหมายนิรโทษที่ลบล้างความผิดของคนโกงลุกลามไปอย่างกว้างขวางเหมือนประกายไฟไหม้ลามทุ่ง

เป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปีนับตั้งแต่เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ที่มีการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลที่มีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากและมีการชุมนุมเกิดขึ้นทั่วประเทศ มีการชุมนุมของนักศึกษาอาจารย์ในมหาวิทยาลัยเกือบทุกแห่ง มีการชุมนุมของนักธุรกิจ แพทย์ พยาบาล ในจุดต่างๆ ที่เป็นย่านธุรกิจ ศูนย์กลางคมนาคมในกรุงเทพ มีการออกแถลงการณ์ต่อต้านร่างกฎหมายนิรโทษ ที่แม้แต่ผู้พิพากษาก็ยังแสดงจุดยืนคัดค้านกฎหมายฉบับนี้

แน่ละว่า“ไลน์”อันเป็นระบบการสื่อสารแบบเรียลไทม์ ทั้งภาพ เสียง และข้อความ ผ่านสมาร์ทโฟน มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง ที่กระตุ้นให้เกิดการรวมตัวกันอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง แต่ปัจจัยที่ทำให้การต่อต้านร่างกฎหมายนิรโทษกรรมขยายตัวไปอย่างรวดเร็วทั่วประเทศคือความรู้ทันและชิงชังต่อระบบทักษิณที่ยังอยู่ในความรุ้สึกและความนึกคิดของคนไทยส่วนใหญ่

นช.ทักษิณคงนึกไม่ถึงว่า ยังมีคนเกลียดเขามากถึงขนาดนี้ และคงเชื่อมั่นว่าด้วยอำนาจอันยิ่งใหญ่ของเขาที่มีทั้ง ส.ส. ส.ว.ทหาร ตำรวจ อัยการสูงสุดในอดีตและปัจจุบัน ข้าราชการระดับสูงทุกกระทรวง สื่อมวลชน เขาจะทำอะไรก็ได้ในประเทศนี้ แต่ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในขณะนี้แสดงว่าเขาคิดผิด

ประชาชนทุกหมู่เหล่าทั่วประเทศที่เดินออกจากบ้านมาชุมนุมต่อต้านร่างกฎหมายนิรโทษ มีความคิดง่ายๆ ที่ชัดเจนว่าร่างกฎหมายฉบับนี้ก็คือกฎหมายของคนโกง คือ นช.ทักษิณ ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรเลยกับทฤษฎีชนชั้นกลางเก่าชนชั้นกลางใหม่ที่นักวิชาการเสื้อแดงคิดเองและยัดเยียดให้คนไทยเชื่อเพื่อสร้างความชอบธรรมให้ นช.ทักษิณ แต่เป็นเรื่องของคุณธรรมขั้นพื้นฐานที่มนุษย์ต้องมี คือ ไม่เห็นแก่ตัว ไม่โกง ไม่ทรยศ


ในขณะที่ นช.ทักษิณอ้างว่าจะ Set Zero ประเทศไทยด้วยร่างกฎหมายนิรโทษกรรมนี้ แต่ Set Zero ของ นช.ทักษิณ คือการโกหก หลอกลวง การใช้เสียงข้างมากในสภาทำทุกอย่างตามอำเภอใจ การใช้ความรุนแรง ใช้ความตายของคนเสื้อแดงเป็นเครื่องมือในการต่อสู้ ปรากฏการณ์การต่อต้านร่างกฎหมายนิรโทษกรรมที่ลุกลามขยายตัวไปอย่างกว้างขวางในขณะนี้ จนรัฐบาลต้องถอยร่นออกจากซอยอย่างไม่เป็นกระบวนท่า กำลังบอกว่าวิธีการเหล่านี้ใช้ไม่ได้ผลแล้ว เสียงข้างมากในสภาไม่มีความหมาย เพราะไม่เคยแก้ปัญหาอะไรได้ เสียงของประชาชนนี่แหละที่ยิ่งใหญ่กว่าเสียงข้างมาก และทำให้ นช.ทักษิณต้องกลับไปนับหนึ่งใหม่สำหรับความพยายามที่จะลบล้างความผิดคดีคอร์รัปชั่นของตัวเอง เพื่อกลับบ้านอย่างเท่ๆ




กำลังโหลดความคิดเห็น