เครือข่าย ปชช.ปกป้อง สภาธรรมาภิบาลและพรรคพลังงานไทย ยื่นสภาค้านนิรโทษฯ พร้อมบี้ รัฐเลิก กม.มั่นคงจำกัดเสรีภาพ จ่อเดินสายร้องหลายองค์กร "วัชระ" รับเรื่อง ชี้ นายกฯโมฆะนารี ไร้ความเชื่อถือ ด้าน ขรก.-พนง.ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ รวมตัวต้านล้างผิด ชงแถลงการณ์ชี้ขัดนิติบัญญัติ-นิติรัฐ เสียหายหลายด้าน ไม่ปรองดองส่อวิกฤต พร้อมลงชื่อคัดค้าน
วันนี้ (6 พ.ย.) ที่รัฐสภา พ.ท.พญ.กมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี ตัวแทนเครือข่ายประชาชนปกป้อง สภาธรรมาภิบาล และพรรคพลังงานไทย ได้ยื่นหนังสือคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมต่อนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านนายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์
โดย พ.ท.พญ.กมลพรรณกล่าวว่า กฎหมายนิรโทษกรรมจะล้างอำนาจของตุลาการที่ได้ตัดสินคดีไปแล้ว ซึ่งขัดต่อหลักการแบ่งแยกอำนาจ นอกจากนี้ การประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ของรัฐบาลยังเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชนอีกด้วย ถือว่ารัฐบาลฉกฉวยโอกาสนี้ปิดกั้นประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลใช่หรือไม่ ดังนั้น ขอเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงทันที หากรัฐบาลคิดว่าตัวเองทำถูกต้องก็ไม่ต้องกลัวว่าประชาชนจะออกมาประท้วง และหลังจากนี้จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อองค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทย ทำเนียบรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย
ด้านนายวัชระกล่าวว่า วันนี้ขอเรียกนายกรัฐมนตรีว่า “โมฆนารี” เนื่องจากเชื่อถือคำพูดไม่ได้เลย และขอเป่านกหวีดเชิญชวนประชาชนให้ไปร่วมชุมนุมที่ถนนราชดำเนินเพื่อแสดงพลังบริสุทธิ์
ขณะที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติแจ้งวัฒนะ อาคารบี ข้าราชการ พนักงานที่สำนักงานมีที่ตั้งอยู่ภายในศูนย์ราชการประมาณ 1,000 คนก็ได้ออกมารวมตัวกันที่บริเวณหน้าประตูทางเข้าทิศตะวันออกเพื่อแสดงจุดยืนคัดค้านต่อต้านการออกกฎหมายนิรโทษกรรม ก่อนจะเดินขบวนรณรงค์จากอาคารบีไปยังหน้าศูนย์ราชการที่ถนนแจ้งวัฒนะ โดยมีการเป่านกหวีด และส่งเสียงร้อง “ไม่เอา” ไปตลอดทาง
ทั้งนี้ ตัวแทนชมรมพนักงานและเจ้าหน้าที่สถาบันพระปกเกล้า ได้อ่านแถลงการณ์ฉบับที่ 1 ระบุว่า ตามหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตยและหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี การใช้อำนาจรัฐต้องตอบสนองและเป็นไปเพื่อประโยชน์โดยรวมของประชาชน และประเทศชาติ และประโยชน์สูงสุดของประชาชนในสังคม คือเป้าหมายสูงสุดของการปกครอง การที่สภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาเห็นชอบ “ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ” โดยขยายขอบเขตการนิรโทษกรรมไปอย่างกว้างขวาง เป็นที่ชัดเจนว่าขัดต่อหลักนิติบัญญัติ ขัดต่อหลักนิติรัฐ และไม่สอดคล้องต่อ The United Nation Convention against Corruption ซึ่งก่อความเสียหายอย่างมหาศาลทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง เฉพาะอย่างยิ่งการสร้างความสมานฉันท์ ปรองดองไม่อาจเกิดขึ้นได้อย่างแน่ มีแต่จะยิ่งนำพาประเทศชาติเข้าสู่ความวิกฤตขัดแย้งที่รุนแรงยิ่งกว่าที่เป็นอยู่
ทั้งนี้ ตัวแทนชมรมพนักงานฯยังได้เชิญชวนให้ข้าราชการ พนักงานได้ร่วมลงชื่อแสดงเจตจำนงคัดค้านกฎหมายดังกล่าว โดยมีเจตนาที่จะรวมให้ได้ 1 ล้านชื่อเพื่อนำไปยื่นต่อรัฐสภา
