ม.จ.จุลเจิม นั่ง ปธ.ถกราชกุลราชนิกุลพร้อมบุคคลทางการเมือง "ประสงค์" หวังฝ่ายรักชาติ-สถาบันร่วมมือกัน ก่อนมีฉันทามติร่อน จม.จี้รัฐดูแลการแสดงออกจาบจ้วงสถาบัน เล็งดำเนินคดี ชี้ พ.ร.บ.นิรโทษฯมีมลทินไม่ควรทูลเกล้าฯ ปัดโยงการเมืองห้ามความคิดไม่ได้ นัด 10 พ.ย.สักการะ ร. 1 ชวนทุกสีแสดงความจงรักภักดี
วันนี้ (3 พ.ย.) ที่โรงเรียนนาชาติ บางกอก เพรพ นำโดยพล.ต.ม.จ.จุลเจิม ยุคล ได้นัดประชุมตัวแทนราชสกุล เพื่อหารือสถานการณ์ทางการเมือง อาทิ ราชสกุลยุคล ราชสกุลเสนีวงศ์ ราชสกุลจักรพันธุ์ ราชสกุลดิศกุล ราชสกุลพึ่งบุญ ราชสกุลทองแถม ฯราชนิกุล และบุคคลสำคัญทางการเมือง อาทิน.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีต เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นายชิงชัย มงคลธรรม หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ นายบวร ยสินธร ประธานเครือข่ายราษฎรอาสาปกป้อง 3 สถาบัน นายคมสันต์ โพธิ์คง แกนนำสยามประชาภิวัฒน์ ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี อนุกรรมาธิการเสริมสร้างธรรมาภิบาลด้านพลังงานของ วุฒิสภา นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำเสื้อหลากสี และมวลชนกลุ่มกองทัพนิรนามกว่า 10 คน
น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า ได้รับเชิญให้มาประชุมเพื่อร่วมรับฟัง และให้ข้อมูลและสถานการณ์ต่าง ๆ โดยแนวทางในการต่อสู้ขณะนี้ ทุกฝ่ายที่รักชาติ รักสถาบัน จะต้องร่วมใจกันเพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายเดียวกัน สำหรับแนวทางทุกกลุ่มต้องประสานงานกันเพื่อกำหนดยุทธวิถีเพื่อที่จะเดินไปพร้อม ๆ กันและเชื่อว่าเป้าหมายจะสำเร็จ ตนไม่เห็นด้วยกับร่างพ.ร.บ.นิโทษกรรม เพราะเป็นกฎหมายที่เห็นแก่ตัว ไม่เคารพกติกาหลักนิติรัฐ หลักนิติธรรม ความปรองดอง ซึ่งความสามัคคีจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อคนที่ทำผิดต้องยอมรับผิดและถูกลงโทษ ไม่ใช่เอาคนดีกับคนเลวหรือขาวกับดำมาจับมือกัน แล้วบอกว่าให้เซตซีโร่ ให้ล้างความผิดไม่ได้ คนผิดต้องสำนึก
จากนั้นเวลา 11.30 น . พล.ต.ม.จ.จุลเจิม พร้อมด้วยม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย แถลงว่า ในการประชุมของราชสกุลที่เกิดในราชวงศ์จักรี ไม่ว่าจะเป็นวังหน้า วังหลัง วังหลวง เรามาทำความเข้าใจร่วมกันเพื่อขอฉันทามติว่าจะอยู่เฉยๆ หรือจะเดินหน้าเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เนื่องจากขณะนี้มีการกระทำที่จาบจ้วงบังอาจเกินไป เหมือนพระมหากษัตริย์เป็นเพื่อนเล่น โดยเฉพาะละครที่เล่นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมาซึ่งมีเนื้อหาส่อนัยยะ ก็มีประชาชนมาถามตนว่าทำอะไรอยู่ ทำไมคนในราชสกุลอยู่เฉย ปล่อยให้มีการใส่ร้ายและบิดเบือน ปล่อยให้ชาวบ้านที่นอนกลางดิน กินกลางทรายมาปกป้องแทน
พล.ต.ม.จ.จุลเจิม กล่าวว่า ยืนยันว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้จะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง และการชุมนุมของเวทีต่างๆ ซึ่งแนวทางการเคลื่อนไหวอาจจะทำจดหมายเปิดผนึกให้รัฐบาลออกมาทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยเฉพาะเว็ปไซต์ หากมีการจับกุมหรือดำเนินคดีไปแล้ว ขอให้มีการออกข่าวเพื่อเผยแพร่ให้ประชาชนได้รับทราบ วันนี้เป็นการปรึกษาหารือกัน ที่ราชสกุลมาช่วยกันโดยร่วมกับประชาชนที่มีความจงรักภักดี ขอแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ จากคนไทย 65 ล้านคน ประมาณ 1 ล้านกว่ามาร่วมกัน
พล.ต.ม.จ.จุลเจิม กล่าวต่อว่า เราจะไม่พูดเรื่องการเมืองและคดีของพรรคประชาธิปัตย์ แต่ในเรื่องพ.ร.บ.นิรโทษกรรม หลังจากผ่านรัฐสภาแล้วเมื่อถึงปลายน้ำ ตนจะหาแนวทางเพื่อคัดค้านการยื่นทูลเกล้า ฯเนื่องจากกฏหมายฉบับนี้ มีคนไม่เห็นด้วยจำนวนมาก เป็นของที่ไม่ดี ไม่บริสุทธิ์แล้วยังไปทูลเกล้าฯ ก็ถือว่าเป็นเรื่องไม่บังควร เพราะตนไม่อยากให้เป็นการกดดันพระองค์
"พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเหมือนกับน้ำป่าที่ซัดเข้ามาอย่างรุนแรง ผมก็เหมือนฝ้ายน้ำล้น กันได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ให้เบาลง อย่าพยายามโยงผมกับการเมือง แต่เราออกมาปกป้องสถาบัน เพราะรู้สึกไม่สบายใจที่รัฐบาลไม่เหลียวแล เรายอมไม่ได้แล้ว ใครมาด่าเราทุก มาตบหน้าเราจนหน้าเราบวม เราก็ทนไม่ได้ จึงอยากจะขอตบกลับบ้าง" พล.ต.ม.จ.จุลเจิม กล่าว
พล.ต.ม.จ.จุลเจิม ยุคล กล่าวภายหลังการประชุม ว่าแนวทางการเคลื่อนไหวโดยในวันที่ 10 พ.ย. นี้ตนพร้อมด้วยราชสกุลจะเดินทางไปสักการะ พระบรมราชานุเสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณตนว่าจะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยขอเชิญชวนประชาชนผู้ที่จงรักภักดีเข้าร่วม ไม่ว่าจะเป็นสีแดง สีเหลือ สีน้ำเงิน เข้าร่วม ส่วนแนวทางการจัดตั้งเวทีตนจะไม่ทำ โดยแนวทางการเคลื่อนไหวหลังวันที่ 10 พ.ย.จะจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อหารือแนวทางการเคลื่อนไหวต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการทำจดหมายเปิดผนึกและการดำเนินคดีกับผู้ที่ละเมิดสถาบัน
เมื่อถามว่า ผู้ที่มาร่วมประชุมในครั้งนี้จะเข้าร่วมเคลื่อนไหวด้วยใช่หรือไม่ พล.ต.ม.จ.จุลเจิม กล่าวว่า ก็น่าจะชัดเจน ขอให้เป็นคนที่มีใจจงรักภักดี ก็สามารถร่วมได้ ส่วนที่จะถูกมองว่าจะโยงเป็นเรื่องการเมืองนั้น ตนยืนยันว่าไม่เกี่ยว ก็คงจะไปห้ามคนคิดไม่ได้