อดีตหัวหน้าประชาธิปัตย์ ส่ง จม.ถึงโจกแดงชงนิรโทษกรรม เชื่อถูกตีความอีกนาน ก้าวล่วงพิพากษา หวั่นผู้เสียหายอดเรียกร้องต่อ ไร้การตรวจสอบถึงแก่นแท้ ถามนักการเมืองได้อานิสงส์เหมาะแล้วหรือ แนะเพื่อไทยคิดให้รอบคอบ รับไม่อยากให้บ้านเมืองพินาศ
วันนี้ (30 ต.ค.) นายพิชัย รัตตกุล รองประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตหัวหน้าพรรค ส่งจดหมายเปิดผนึก ถึงนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้เสนอ ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมืองของประชาชน พ.ศ.... เรื่องการดำเนินการของคณะกรรมาธิการวิสามัญเสียงข้างมาก ที่พิจารณาแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ที่ครอบคลุมไปไกลจนเรียกว่าเหมาเข่ง โดยมีใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า เชื่อว่าการดำเนินการแก้ไขดังกล่าวจะนำไปสู่ความสับสนหลายประเด็น ทั้งในมุมมองของหลักนิติรัฐ ที่กำลังถกเถียงกันอยู่ 3 แนวคิดด้วยกัน ดังนี้ 1. ร่างฯ ดังกล่าวที่จะพิจารณาวาระ 2 ในวันที่ 31 ต.ค.นี้ ขัดหลักการกับตอนที่ได้รับอนุมัติในวาระที่ 1 หรือไม่ และในที่สุดก็จะต้องนำไปสู่การตีความในศาลรัฐธรรมนูญอีกยาว 2. เรื่องบางเรื่องและบางคดี ฝ่ายตุลาการได้ตัดสินความไปแล้ว หากยังไม่มีการรับโทษ จะเหมาะสมหรือไม่ ที่ฝ่ายนิติบัญญัติไปก้าวล่วงคำพิพากษา 3. ความเสียหายที่เกิดขึ้นผู้ที่ได้รับผลกระทบ ประกอบด้วยญาติ พี่น้อง หากมีกฎหมายฉบับเหมาเข่งนี้จะทำให้ผู้เสียหายเสียสิทธิการเรียกร้องทั้งทางแพ่งและอาญาด้วยหรือไม่
อีกทั้งหากมองในทางรัฐศาสตร์ก็จะเกิดการถกเถียงอีกหลายประเด็นได้แก่ 1. เรื่องการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อผู้ถูกกล่าวหาในหลายกรณีที่ยังไม่บรรลุถึงแก่นแท้ความจริงได้ว่าใครทำอะไร อย่างไรในอดีต ก็อาจจะเป็นชนวนความขัดแย้งและกล่าวโทษกันอย่างเลื่อนลอยต่อไปอีกไม่จบสิ้น 2. นักการเมืองที่จะได้อานิสงส์ไปพร้อมกับการช่วยให้ประชาชนพ้นผิดพร้อมๆ กันนั้น เหมาะสมแล้วหรือไม่กับสถานการณ์
“ถ้าคิดให้ดีก็น่าจะมีทางออกได้ไม่ยากลำบากนัก อยากให้ ส.ส.เก่งๆ รุ่นน้องในพรรคเพื่อไทยคิดให้รอบคอบถึงผลได้ผลเสียที่จะตกแก่ประเทศและประชาชนโดยส่วนรวม ดังเช่นการจะพิจารณาใช้แนวทางที่นายชวลิต วิชยสุทธิ์ เลขานุการคณะกรรมาธิการนิรโทษฯ เสนอก็น่าสนใจ การต่อต้านหรือชุมนุมที่ไม่อยู่ในความสงบและสันติ เป็นเรื่องที่ผมไม่ขอยุ่งเกี่ยวและไม่ขอรับทราบว่าใครเป็นใคร เท่าที่พูดมาก็เพื่อไม่อยากเห็นการเผชิญหน้าขัดแย้งกันอย่างรุนแรง จนบ้านเมืองพังพินาศไปต่อหน้าต่อตา ผมอยากให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยได้หยุดพิจารณาคิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจยกมือสนับสนุน หรือยกมือคัดค้าน หากทำได้เท่ากับว่าท่านได้เป็นผู้ที่สร้างบุญคุณต่อประเทศชาติและลูกหลานของเรา ให้สังคมทุเลาความขัดแย้งลงได้ และจะเป็นบุญคุณของประเทศและพี่น้องประชาชนอย่างใหญ่หลวงที่ประชาชนจะแซ่ซ้องสรรเสริญท่านอย่างจริงใจตลอดไป” นายพิชัยระบุ