ที่ประชุมพรรคเพื่อไทยมีมติเอกฉันท์ โหวตเห็นด้วยกับ กมธ.เสียงข้างมากร่างนิรโทษกรรมฉบับ “ประยุทธ์ ศิริพานิชย์” มั่นใจ ส.ส.เสื้อแดงไม่สวนมติพรรค สั่ง ส.ส.ชี้แจงเสื้อแดงอารมณ์ค้าง อ้างเป็นทางออกประเทศ ไม่สนฝ่ายค้านต้าน เผยพฤหัสบดี-ศุกร์ ประชุมวาระ 2 โหวตวาระ 3 เสาร์นี้
วันนี้ (29 ต.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย เมื่อเวลา 16.20 น. นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค นายอำนวย คลังผา ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) นายโภคิน พลกุล ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย และนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค ร่วมกันแถลงผลหลังการประชุม ส.ส.ของพรรค
โดย นายภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้แม้พรรคมีความยากลำบากในการพิจารณาเรื่องต่างๆ แต่ก็พิจารณาด้วยความเข้าใจและเห็นใจ เพราะสังคมอยู่บนสถานการณ์ความขัดแย้งที่ยาวนานมาหลาย 10 ปี เรารู้ว่าการจะออกจากความขัดแย้งได้ย่อมมีความเห็นแตกต่างหลายส่วน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของระบบสังคมประชาธิปไตย และจากการพูดคุยกับหลายฝ่าย วันนี้พรรคเพื่อไทยจึงมีข้อยุติโดยมีมติพรรคดังนี้ 1.ขอให้ ส.ส.ของพรรคงดเว้นภารกิจต่างๆ เพื่อเข้าร่วมประชุมสภาพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพราะถือว่าเป็นกฎหมายสำคัญที่เกี่ยวพันกับทิศทางเดินไปข้างหน้าของประเทศ
2.เพื่อความเป็นเอกภาพพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาลพร้อมลงมติไปในทิศเดียวกันเพื่อลงมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ตามกรรมาธิการเสียงข้างมาก โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ และ 3.สำหรับท่าทีของพรรคต่อคนเสื้อแดง และแนวร่วมผู้รักประชาธิปไตยทุกคน เราเห็นว่าความเห็นทางการเมืองในการหาทางออกของประเทศย่อมแตกต่างกันได้ ซึ่งเป็นความแตกต่างระหว่างมิตรผู้รักประชาธิปไตยด้วยกัน พรรคขอยืนอยู่บนพื้นฐานที่เข้าใจและเห็นใจ โดยเรียกร้องให้ ส.ส.ของพรรคทำความเข้าใจ พูดคุย และประสานงานในทุกภาคส่วน เราเชื่อว่าการดำเนินการของเราจะทำให้ประเทศหลุดจากความขัดแย้ง ขณะที่ผู้ถูกคุมขังจะได้ออกจากความขัดแย้งด้วย
เมื่อถามว่า ส.ส.กลุ่มคนเสื้อแดง จะโหวตตามมติพรรคใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เชื่อว่า ส.ส. พรรคโดยรวมจะเดินหน้าตามมติพรรค เพราะวันนี้เป็น ส.ส.ซึ่งแตกต่างจากการอยู่ในฐานะผู้นำมวลชน จึงต้องเห็นความสำคัญของมติพรรค อย่างไรก็ตามเท่าที่พูดคุยพรรคเข้าใจถึงความยากลำบาก ความอึดอัดใจของทุกส่วน ส่วนจะมีบทลงโทษ ส.ส.ที่โหวตสวนมติพรรคหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้ยังเชื่อว่าจะโหวตไปในทิศทางเดียวกัน
“เราเองก็ขมขื่นที่มีการเข่นฆ่าประชาชนจนเกิดความสูญเสีย แต่เราคิดว่าในอนาคตจะมีวิธีการที่เป็นทางออกต่อไป เป็นเรื่องที่ยังต้องพูดคุยและทำความเข้าใจกัน หากนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพจะออกมาคัดค้านเรื่องนี้ให้ถึงที่สุดนั้น เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่จะตัดสินว่าใครถูกใครผิดเอง เชื่อว่านายอภิสิทธิ์ (เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี) และนายสุเทพ (เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี) ก็เป็นคนที่ถูกกล่าวหา ต้องคิดให้ดีกว่านี้ที่จะออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องดังกล่าว” นายภูมิธรรม กล่าว
เมื่อถามถึงความมั่นใจว่าจะควบคุมสถานการณ์นอกสภาให้ไม่เกิดความขัดแย้งได้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ได้คิดถึงขนาดนั้น แต่แค่อยากออกจากความขัดแย้ง เพราะตามระบอบประชาธิปไตย ไม่มีใครเห็นด้วย 100 เปอร์เซ็นต์ พร้อมปฎิเสธที่จะประเมินร่างกฎหมายฉบับนี้หากเจอทางตันว่า ขอให้สถานการณ์เกิดขึ้นก่อนแล้วค่อยมาคุยกัน
ด้าน นายอำนวย กล่าวว่า สำหรับการประชุมสภาเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม วาระ 2 จะพิจารณาในวันพฤหัสบดีที่ 31 ต.ค.ถึง วันศุกร์ที่ 1 พ.ย.ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น.จากนั้นในวันเสาร์ที่ 2 พ.ย.จะดำเนินการลงมติวาระ 3 ต่อทันที
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมยืนยันว่า ไม่มีเกียร์ถอยหลัง ใส่เกียร์เดินหน้าอย่างเดียว เรายึกยักกันมาสองปีกว่าแล้ว ยืนยันว่า ไม่ได้เร่งผลักดัน แต่เราทำตามความเหมาะสม อะไรที่เดินได้ก็ต้องเดิน ไม่ให้ชะงัก ส่วนที่จะมีแรงต้านจากภายนอกเป็นจำนวนมากนั้น มั่นใจว่า จะควบคุมแรงต้านได้ เพราะเราลงพื้นที่ตลอดเวลามีแต่คนมาถามว่า เมื่อไรจะเดินหน้าพ.ร.บ.ฉบับนี้เสียที ถ้าไม่ทำจะเสียภาพพจน์ ส่วนกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ประกาศสู้นอกสภา เพื่อต่อต้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรม พร้อมขู่จะระดมคนต่อต้านเป็นแสนคนนั้น ไม่จำเป็นต้องไปประเมินอะไรให้หนักสมอง เอาสมองไปคิดเรื่องอื่นดีกว่า ผู้สื่อข่าวถามว่า หากส.ส.เสื้อแดงโหวตสวนจะมีมาตรการลงโทษหรือไม่ นายจารุพงศ์ตอบว่า เรื่องนี้มีกติกาอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมาขู่กันให้แสลงใจ เมื่อมติพรรคเป็นเอกฉันท์ทุกคนก็ต้องเคารพกติกา หากไม่ทำตามก็มีขั้นตอนอยู่แล้ว ไม่ต้องมาพูดขู่กัน ยอมรับว่า ในที่ประชุมมีส.ส.เสื้อแดงไม่เห็นด้วยกับร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ แต่เป็นแค่บางส่วนเท่านั้น
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวถึงกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ นายสุเทพ เทือกสุวรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าว กรณีที่ อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้อง ในข้อหาร่วมกันก่อให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล กรณีออกคำสั่งสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดงเมื่อปี 53 โดยระบุว่า ทั้งสองมีท่าทีเหมือนไม่ยอมรับอำนาจของอัยการสูงสุด และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ในลักษณะจะฟ้องกลับอัยการเหมือนเป็นการแสดงการไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง การที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาตีโพยตีพาย ว่าเรื่องนี้น่าจะเข้าข่ายการกระทำผิดต่อการปฏิบัติหน้าที่ในส่วนราชการ ซึ่งเป็นอำนาจของ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มากกว่าการสอบสวนของ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นั้น เหมือนเป็นพวกธาตุไฟแตก จึงอยากให้ทั้งสอง ไปต่อสู้ในชั้นศาลตามกระบวนการยุติธรรมดีกว่า เพราะทุกอย่างมีขั้นตอนอยู่แล้ว หรือไม่ก็ลาออกจากการเป็น ส.ส. ไปต่อสู้คดีอย่างเต็มตัว
ภายหลังการประชุมส.ส.พท. รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยแจ้งว่า ที่ประชุมได้เปิดโอกาสให้ส.ส.แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับของกรรมาธิการเสียงข้างมาก ซึ่งก็มีส.ส.ที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย โดยมีส.ส.เสื้อแดงลุกขึ้นเสนอความคิดเห็น อาทิ นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายชินวัฒน์ หาบุญพาด นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า แม้พรรคเพื่อไทยจะมีมติพรรคให้ส.ส.ทุกคนยกมือสนับสนุนร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับกรรมาธิการฯเสียงข้างมาก แต่ตนยืนยันขอใช้สิทธิงดออกเสียงตอนลงมติวาระ 2 เฉพาะมาตรา 3 ที่มีการแก้ไขเนื้อหาให้นิรโทษกรรมแกนนำทุกฝ่าย รวมถึงการโหวตลงมติวาระ 3 ก็จะงดออกเสียงด้วย เพื่อรักษาจุดยืนที่ไม่ต้องการให้นิรโทษกรรมคนสั่งฆ่าประชาชน ซึ่งตนได้ยืนยันในที่ประชุมพรรคไปแล้วว่า จะงดออกเสียง หากพรรคเห็นว่า มีความผิดจะลงโทษ ก็พร้อมจะยอมรับ ส่วนนายณัฐวุฒิขอใช้สิทธิตามความคิดเห็น ซึ่งพรรคเพื่อไทย ได้แจ้งว่านี่ถือเป็นมติของพรรคและก่อนถึงวันพฤหัสบดีให้เก็บเรื่องนี้เอาไปพิจารณา ทั้งนี้รายงานข่าวแจ้งว่า นายภูมิธรรม ได้บอกสมาชิกพรรคว่า นี่เป็นมติของพรรค หากใครเห็นเป็นอย่างอื่นก็ให้รับผิดชอบตัวเอง
นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี ได้โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัวที่ใช้ชื่อว่า “ส.ส.สมคิด อบุล” โดยระบุว่า ประชุมพรรคเพื่อไทยวันนี้..มติพรรคให้เห็นชอบกับกรรมาธิการเสียงข้างมาก ที่แก้ไข พรบ.นิรโทษกรรม (ห้ามฟรีโหวต) เรียกว่าไปสุดซอย "เรายอมเสียเชลยศึกสองคน(ที่เป็นตัวแทนกลุ่มอำนาจเก่า)เพื่อแลกกับแม่ทัพใหญ่ของเรา ถือว่าคุ้ม"เป็นคำพูดของวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย เหตุผลมีอีกมากเขียนไม่หมด เราจะลุยกันในวันที่ 31 ต.ค.พวกเราเห็นต่างได้แต่อย่าด่าจนแยกกัน