ส.ส.กุ๊ยแดงเผยกฤษฎีกาแนะรับอานิสงส์ล้างผิด แสดงตนแต่ควรงดออกเสียง พ.ร.บ.นิรโทษฯ เชื่อแดงเจ็บปวดแต่ไม่เคลื่อนชุมนุมไล่รัฐฯ ชี้สังคมเบื่อขัดแย้ง ม็อบล้มรัฐฯ จุดไม่ติด รองโฆษก พท.เปรียบ สปท.แก๊งปาหิน ค้านรัฐฯ ไม่สนชาติบอบช้ำ ขอ ปชช.อย่าหลงกล ชี้พรรคใหญ่ชักใย โวการข่าวรู้หมดแล้ว ท่องบทล้างผิดไม่เกี่ยวตระกูลชินวัตร
วันนี้ (28 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำ นปช. ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ว่าที่ประชุมวันนี้ไม่มีการพูดถึงการโหวตร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เป็นเพียงการพูดคุยเกี่ยวกับกฎหมายที่เข้าสภา แต่ตนก็ได้ถามประเด็นข้อกฎหมายจากตัวแทนคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าคนที่ได้อานิสงส์จาก พ.ร.บ.ฉบับนี้ควรจะโหวตสนับสนุนหรือไม่ ซึ่งก็ได้แนะนำว่าคนที่ได้อานิสงส์ควรแสดงตน แต่ไม่ควรโหวตสนับสนุน หากเห็นด้วยก็ควรงดออกเสียง ส่วนจุดยืนทางการเมืองยังไม่ได้มีการหารือในกลุ่ม ส.ส.เสื้อแดงว่าจะโหวตอย่างไร แต่ส่วนตัวอยากได้การแปรญัตติที่ไม่รวมนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำ แต่ให้นิรโทษกรรมผลพวงจากการยึดอำนาจด้วย ซึ่งต้องรอดูรายงานของคณะกรรมาธิการว่ามีใครแปรญัตติอย่างที่เราต้องการบ้าง
เมื่อถามถึงแรงต้านของคนเสื้อแดงเกี่ยวกับ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม นายก่อแก้วกล่าวว่า คนเสื้อแดงเองก็มีทั้งที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย โดยคนที่ไม่เห็นด้วยหากพรรคเพื่อไทยเดินตามร่างของ กมธ.เสียงข้างมาก คงรู้สึกเจ็บปวด แต่ก็ไม่ถึงขั้นที่จะออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาล เป็นเพียงการแสดงความรู้สึกออกมาให้พรรคเพื่อไทยรับทราบ เพราะเราต้องการให้รัฐบาลอยู่ครบวาระแล้วแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย ส่วนคนเสื้อแดงซึ่งเป็นญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ปี 53 ที่ออกมาคัดค้าน พ.ร.บ.ฉบับนี้สามารถทำได้เพราะเป็นสิทธิ แต่จะออกมาเยอะๆ เพื่อล้มรัฐบาลนั้นไม่มี ส่วนที่มีความกังวลว่ากลุ่มที่ต้านและสนับสนุน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมอาจจะเผชิญหน้ากัน นั้น นายก่อแก้วกล่าวว่า เสื้อแดงไม่เคลื่อนอยู่แล้ว ยกเว้นว่าหากมีคนที่จะมาล้อมรัฐสภา เพื่อไม่ให้สามารถพิจารณากฎหมายได้อันนั้นไม่แน่เราอาจมาครองพื้นที่ไว้ก่อนเป็นกันชนไว้
เมื่อถามถึงการเคลื่อนไหวในประเด็นต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หรือการตัดสินคดีปราสาทพระวิหารในศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ จะสามารถล้มรัฐบาลได้หรือไม่ นายก่อแก้วกล่าวว่า วันนี้สังคมเบื่อเรื่องความขัดแย้ง โดยจะเห็นได้จากการชุมนุมของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลไม่สามารถกระตุ้นคนมาร่วมได้ จึงไม่เชื่อว่าทั้งสองเรื่องจะส่งผลให้ล้มรัฐบาลได้
ส่วนนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีกลุ่มสภาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ สปท. นัดชุมนุมใหญ่หลังร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมและคดีพื้นที่ปราสาทพระวิหารมีความชัดเจนว่า ความจริงการจัดการชุมนุมที่ชอบด้วยกฎหมาย ถือเป็นสิทธิตามระบอบประชาธิปไตย แต่ควรต้องคำนึงถึงความสงบเรียบร้อยของประเทศชาติบ้านเมืองเป็นสำคัญ น่าเสียดายที่รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยกำลังแสวงหาเครื่องมือที่จะพาประเทศชาติและประชาชนก้าวข้ามความขัดแย้งไปสู่ความปรองดองสมานฉันท์ แต่คนพวกนี้กลับดำเนินการสวนทาง เหมือนขับรถสวนเลนจ้องจะหาเหตุปะทะ ทำตัวเป็นแก๊งปาหินโดยไม่สนว่าที่สุดทั้งประเทศจะบอบช้ำไปด้วยกัน ตอนนี้ประชาชนสับสนกับพฤติกรรมของกลุ่มคนพวกนี้ หลังการประกาศยุติบทบาทของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย คนพวกนี้กลับเคลื่อนไหวสะเปะสะปะ เลอะเทอะ ไร้ทิศทาง เปลี่ยนชื่อกันไปเรื่อยๆ จนตัวย่อจะหมดประเทศอยู่แล้ว ทั้งที่แท้จริงแล้วก็ล้วนเป็นพวกหน้าเดิม ขาประจำ คอยหาเรื่องหาประเด็นที่จะออกมาเคลื่อนไหวตลอดเวลา อย่างนี้ขอเสนอให้กลับไปใช้ชื่อเดิมจะได้เห็นตัวตนชัดเจน ขอเตือนพี่น้องประชาชนให้รับฟังข้อมูลข่าวสารให้รอบด้าน ระวังการบิดเบือนข้อมูล นำไปสู่การเข้าใจที่ผิดๆ ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มปลุกระดม เป็นเครื่องมือของการสร้างความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ซึ่งมีข้อมูลด้านการข่าวพบว่ามีพรรคการเมืองใหญ่ไปติดต่อเวที เครื่องเสียงชุดใหญ่หลายสิบชุดจากผู้ให้เช่าย่านลำลูกกา ปทุมธานี เพื่อสนับสนุนการตั้งเวทีเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลของกลุ่มต่างๆ โดยในครั้งแรกติดต่อจะใช้ในวันที่ 6 พฤศจิกายน ต่อมาได้เลื่อนการเช่าเร็วขึ้นเป็นวันที่ 2 พฤศจิกายนเป็นต้นไป ซึ่งข้อมูลด้านการข่าวรู้หมดแล้วว่าใครเป็นใคร
นายอนุสรณ์กล่าวถึงกรณีนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินหน้าผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเพื่อช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าการเดินหน้าร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมนั้นเป็นกระบวนการทำงานของระบบรัฐสภา เป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่เกี่ยวกับอำนาจบริหารหรือรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรีได้เสียสละทุ่มเทแรงกายแรงใจทำงานหนักเพื่อประเทศชาติและประชาชนตลอดมา อย่าพยายามลากเรื่องของประเทศชาติมาเป็นเรื่องครอบครัวว่าจะช่วยเหลือพี่ชาย ไม่เกี่ยวกัน เรื่องการนิรโทษกรรมนั้นเป็นอีกหนึ่งหนทางที่จะนำไปสู่ความปรองดอง แม้ต้นทางจะดูยากลำบาก ดูเหมือนจะมีความขัดแย้งเห็นต่างกันอยู่บ้าง แต่เมื่อผ่านจุดนี้ไปได้ ประเทศไทยจะได้เดินหน้า ความขัดแย้งที่เคยมีจากกลุ่มต่างๆ ก็จะเบาบางลง วันนี้ทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน ประเทศไทยขัดแย้งกันมากจนถึงจุดที่ต้องเยียวยา เพราะฉะนั้น อยากให้ทุกฝ่ายลองเปิดใจ แล้วพินิจพิเคราะห์ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ทั้งฝ่ายหนุน ฝ่ายต้าน ควรติดตามรายละเอียด ดูวิวัฒนาการของร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมอย่างใกล้ชิด เพราะวันนี้ยังไม่มีอะไรตายตัว ยังสามารถปรับเปลี่ยนเนื้อหาในรายละเอียดได้อีก เพราะยังต้องไปถกกันในสภาอีกเยอะ