นายกฯ และ รมว.กห. อ้างเฉย นิรโทษกรรมไม่ใช่ร่างรัฐบาล ยันงานคนละส่วนนิติบัญญัติ ปากบอกไม่อยากเห็นวุ่นวาย มีเวลาให้เถียงอีกหลายขั้นตอน ย้ำทัวร์ ครม.สัญจรไม่เลื่อนรอถกนิรโทษฯ สอน “อภิสิทธิ์” อยู่มานานน่าจะรู้ดีอำนาจสองฝ่ายแยกกัน บอกพิสูจน์ความจริงกับล้างผิดคนละเรื่อง แต่อ้างไม่ได้พูดทำแล้วชาติสงบ รับห่วงม็อบต้าน งง “เจ๊แดง” ร้องไห้ตอนไหน
วันนี้ (29 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา13.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีร่างจุดยืนรัฐบาลต่อ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่าในส่วนนี้ไม่ใช่ร่างของรัฐบาล เป็นร่างของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร คงต้องเรียนว่าเราต้องมองในเรื่องของอำนาจฝ่ายบริหารและอำนาจฝ่ายนิติบัญญัตินั้นเป็นการทำงานกันคนละส่วน ในส่วนของรัฐบาลที่จะทำได้อย่างเต็มที่ คือ พยายามที่จะร่วมกันทำอย่างไรให้บรรยากาศบ้านเมืองเป็นไปอย่างสงบ และเราไม่อยากเห็นการก่อความวุ่นวาย ตนเชื่อว่า พ.ร.บ.นิรโทษฉบับนี้ ในส่วนของการถกเถียงกันยังมีอีกหลายขั้นตอนไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา เชื่อว่าระหว่างนั้นจะทำให้ข้อมูลต่างๆ เกิดความกระจ่าง และจะมีความชัดเจนมากขึ้น เชื่อว่าผู้ที่จะต้องร่วมกันคิดนั้น ประชาชนทุกคน ที่จะร่วมกันรับฟังกันอย่างเต็มที่ และพิจารณาให้เป็นไปอย่างรอบครอบ เพื่อประโยชน์สูงสุด
ผู้สื่อข่าวถามว่า วันที่ 31 ต.ค. ที่ประธานสภาฯ นัด ส.ส.พิจารณา พ.ร.บ.นิรโทษกรรมวาระ 2 จะเข้าร่วมด้วยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ในส่วนของคณะรัฐมนตรีจะต้องไปประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ซึ่งเป็นกำหนดการเดิม อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่ติดเรื่องภารกิจก็คงต้องร่วมไปในฐานะ ส.ส. เมื่อถามว่า การที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยประกาศหนุน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย ตามที่กรรมาธิการแก้ไข ท่ามกลางความขัดแย้งที่ยังมีอยู่มองว่าจะเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงบานปลายหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า คงต้องดู และเชื่อว่าอันนี้เป็นเจตนารมณ์ของ ส.ส. และเราถือว่าเรื่องสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกต้องเคารพในการตัดสินใจแต่ละท่าน ซึ่งในสภาจะเป็นเวทีที่สมาชิก ส.ส.แต่ละท่านจะได้อภิปรายกันอย่างกว้างขวาง และมีจำนวนผู้อภิปรายมากมาย ซึ่งจะได้มีโอกาสอธิบายในเนื้อหาสาระ ทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย เชื่อว่าเวทีสภาจะเป็นเวทีที่ดีที่สุด ในการเข้ามาแก้ไข เพราะวันนี้เราอาจจะได้รับฟังผ่านทางหน้าสื่อ เป็นระยะๆ ข้อมูลอาจไม่ครบถ้วน ถ้าเราได้มีโอกาสได้รับฟังตรงนั้นจะทำให้ ความกระจ่าง ความกังวลใจต่างๆ ดีขึ้น เราอยากเห็นเวทีนี้ค่อยๆ พูดจากันบนหลักความเข้าอกเข้าใจกัน
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านบอกว่านายกฯ ดื้อตาใส ชอบพูดว่าร่างนิรโทษกรรมเป็นของ ส.ส. รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลความสงบ นายกฯ กล่าวว่า จริงๆ แล้วตนเชื่อว่าผู้นำฝ่ายค้านอยู่ในสภามานานแล้วคงทราบดีอยู่แล้วว่าอำนาจนิติบัญญัติกับอำนาจฝ่ายบริหารนั้นทำงานแยกส่วนกัน ซึ่งต้องเคารพในการตัดสินใจของแต่ละเสาหลัก ตนเองทำหน้าที่ในส่วนของรัฐบาลที่ดูแลความเรียบร้อยภายในปะเทศ
เมื่อถามว่า นายกฯ จะอธิบายอย่างไรที่เคยแถลงไว้ในรัฐสภาว่าจะพิสูจน์และค้นหาความจริงเหตุการณ์สลายการชุมนุมในปี 2553 แต่วันนี้กลับจะมานิรโทษกรรม นายกฯ กล่าวว่า ต้องเรียนว่าการพิสูจน์ความจริงกับการนิรโทษกรรมต้องมองทีละส่วน การพิสูจน์ความจริงเราได้ให้คณะกรรมการประสานและติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) ในการหาข้อมูล และว่าไปตามขั้นตอนอยู่แล้ว แต่เรื่องการนิรโทษกรรมเป็นเจตนารมณ์ของทุกภาคส่วนที่อยากเห็นประเทศเดินไปข้างหน้าได้ ซึ่งสิ่งที่หลายๆ ฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เป็นเนื้อหารายละเอียดที่จะต้องใช้เวทีสภาพูดกันในข้อกฎหมายและประเด็นรายละเอียดต่างๆ ขอให้เป็นไปตามหลักนิติรัฐ นิติธรรมและหลักความเสมอภาค
เมื่อถามว่า คดีได้ขึ้นสู่ศาลเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมจะต้องถูกตัดตอน โดยถูกยกเลิก ตัดตอนไปโดยปริยาย คนที่มีความผิดก็จะไม่มีความผิด นายกฯ กล่าวว่า ต้องดูในเนื้อหา แต่กระบวนการต่างๆ ต้องรอการตัดสินเป็นที่สิ้นสุดบางอันมีเนื้อหาที่แตกต่างกัน ฉะนั้นเวลาถกกันคงต้องไปพูดกันในเนื้อหาของข้อกฎหมาย เราไม่มองในเนื้อหาว่าจะต้องเจาะจงเป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง ตนเองถือว่าเป็นสมาชิกคนหนึ่งในสภาที่จะรับฟัง คงต้องเคารพสิทธิเสรีภาพในการพูดของแต่ละคนด้วย
เมื่อถามว่า นายกฯ เห็นด้วยกับคำว่า “เซตซีโร่” หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ตนมองว่าสิ่งที่เราจะเดินหน้าไปข้างหน้าได้ คงต้องใช้เวลาในการพูดคุยกันและอยากให้ทุกฝ่ายมองในมิติของประเทศ ว่าส่วนใดบ้างที่จะทำให้บ้านเมืองสงบได้ เพราะเราได้ผ่านมาแล้วทุกวิธีไม่ว่าจะเป็นวิธีการที่เราไม่ได้ทำอะไรเลย กับการที่จะปรับอย่างนั้นอย่างนี้ เราต้องพยายามแก้กันไป เพราะเราพูดวนกันอย่างนี้ 2 ปีแล้ว แต่อย่างไรก็ตามขั้นตอนนี้ยังมีอีกหลายขั้นตอน ซักต่อว่าทำไมจึงมองว่าการนิรโทษกรรมจะทำให้ประเทศสงบได้ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ ตนไม่ได้บอกอย่างนั้น ตนบอกว่าเราอยากเห็นเวทีพูดคุยกันและเราอยากเห็นทางออก เพราะฉะนั้นอะไรก็ต้องที่จะทำให้มีทางออกร่วมกัน และก็ต้องขอร้องบนหลักความเห็นใจซึ่งกันและกันเถอะคะ เพราะว่าถ้าเราไม่มีหลักคุยกัน อย่างน้อยรัฐสภาก็เป็นอีกเวทีหนึ่งที่จะมาพูดคุยกัน และเชื่อว่าประชาชนจะติดตามและรับฟัง เพราะฉะนั้นทุกคนที่เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนจะได้รับฟังอยู่แล้วและได้แสดงความคิดเห็น ตนเชื่อว่าสังคมคงจะต้องรับฟังตรงนี้
เมื่อถามว่า ห่วงหรือไม่ว่าเวทีสภาจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาล นายกฯ กล่าวว่า อยากให้มองในส่วนของฝ่ายบริหาร และนิติบัญญัติคนละส่วนกัน เพราะฉะนั้นเรื่องของข้อกฎหมายต่างๆก็เป็นเรื่องอำนาจของนิติบัญญัติ เมื่อถามต่อว่า ห่วงการชุมนุมของกลุ่มต่างๆหรือไม่ ที่จะประเดประดังมาถ้าผ่านวาระ 2 และวาระ 3 นายกฯ กล่าวยอมรับว่าห่วงและคอยติดตามสถานการณ์อยู่ โดยพยายามทำความเข้าใจให้เต็มที่ โดยการชุมนุมต่างๆ ได้ขอร้อง ขอความกรุณาประชาชน ขอให้ชุมนุมอยู่ในกรอบของกฎหมายที่สำคัญ กรุณาอย่าปิดถนน เพราะจะทำให้ประชาชนคนอื่นๆที่สัญจรไปมาลำบาก
เมื่อถามถึงกรณีที่นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ส.ส.เชียยงใหม่ พรรคเพื่อไทย น้ำตาคลอ ร้องขอให้แกนนำเสื้อแดงสนับสนุนในการพา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับบ้าน นายกฯ ทำสีหน้างุนงง พร้อมกับกล่าวถามกลับว่าร้องไห้ที่ไหน ไม่เห็นรู้เรื่องเลย