“นายกฯยิ่งลักษณ์” ให้ “พงศ์เทพ” นั่งประธานทำรายงานผลการปราบปรามการค้ามนุษย์ ก่อนนำส่งสหรัฐฯ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการจัดทำรายงานของมะกัน หวังผลการจัดอันดับกลุ่มประเทศที่ต้องเฝ้าระวังการค้ามนุษย์
ร.ท หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) โดยมี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี นางปวีณา หงสกุล รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุม ว่า นายกฯ ได้มอบหมาย นายพงศ์เทพ เป็นประธานคณะทำงานเพื่อจัดทำรายงานผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของไทยในปี 2556 ซึ่งจะต้องส่งรายงานไปยังสหรัฐอเมริกา 2 ครั้งคือเดือน พ.ย.56 และเดือน ก.พ.57 เพื่อให้สหรัฐฯนำข้อมูลไปประกอบการจัดทำรายงานการค้ามนุษย์ของสหรัฐฯ หรือ Trafficking in Persons Report (TIP Report)
ร.ท หญิง สุณิสา กล่าวว่า รายงานดังกล่าวจะมีผลต่อการจัดอันดับประเทศไทยในกลุ่มประเทศที่ต้องเฝ้าระวังเรื่องการค้ามนุษย์ ซึ่งไทยตั้งเป้าที่จะอยู่ในลำดับที่ดีขึ้นคือ Tier 1 หรืออยู่ในลำดับเดิมคือ Tier 2 ทั้งได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงข้อเท็จจริงในข้อสงสัยของสหรัฐฯโดยเฉพาะประเด็นที่ไทยถูกมองว่า มีปัญหาการค้ามนุษย์มากแต่มีการดำเนินคดีน้อย โดยนายกฯ ขอให้มีการดำเนินการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ไม่ใช่ตื่นตัวเฉพาะตอนทำรายงานเท่านั้น และได้มอบหมายให้ พล.ต.อ ประชา รับผิดชอบในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อปราบปรามการค้ามนุษย์ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ รวมถึงให้ตำรวจ อัยการ และศาล นำข้อมูลด้านการค้ามนุษย์รวบรวมเป็นฐานข้อมูลเดียว และให้ใช้ประโยชน์ศูนย์ช่วยเหลือสังคมหรือ OSCC ให้มากขึ้น โดยในอนาคตรัฐบาลจะกำหนดให้การปราบปรามการค้ามนุษย์เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดการทำงานของทุกจังหวัดเพื่อประเมินผลงานของจังหวัดต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็น โดยเฉพาะเมื่อไทยจะเข้าสู่ยุคประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC เพราะอาจจะเป็นอุปสรรคในการทำการค้ากับต่างประเทศได้
รองโฆษกรัฐบาล กล่าวอีกว่า ในวันที่ 21 ต.ค.เวลา 15.30 น.นายพงศ์เทพ จะเชิญคณะทำงานจัดทำรายงานเข้าร่วมประชุม และในวันที่ 4 พ.ย.นายกฯ ได้นัดคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) ประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าของคณะทำงานจัดทำรายงาน ที่จะนำเสนอต่อสหรัฐฯในเดือน พ.ย.นี้