นปช.จ่อยื่นผู้ตรวจฯ ฟัน “สุขุมพันธุ์”-กทม.โวยส่งแต่ไฟฟ้าส่องสว่างไม่ใช่เครื่องปั่นไฟ

“สมหวัง มิตซูชิต้า” เอาทุกทาง พรุ่งนี้ยื่นผู้ตรวจฯ สอบจริยธรรม “สุขุมพันธุ์” รู้เห็นสนับสนุนม็อบขับไล่ “ยิ่งลักษณ์” อ้างมาจากเสียงส่วนใหญ่ของประเทศ แตะไม่ได้ ด้าน “ชายหมู” ยันสนับสนุนทุกกลุ่ม วอนขอให้ดูหลักมนุษยธรรม โฆษกโต้กลับ ส่งเฉพาะไฟฟ้าส่องสว่าง ไม่ใช่เครื่องปั่นไฟ เชื่อเรื่องนี้จ้องเป็นประเด็นทางการเมือง

วันนี้ (17 ต.ค.) นายสมหวัง อัสราษี รองประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 21 ต.ค.เวลา 10.00 น.ตนจะเดินทางไปยื่นหนังสือถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินดำเนินการตรวจสอบพฤติกรรมและจริยธรรมของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และคณะที่ปรึกษา ที่มีการสั่งการและให้การสนับสนุนกลุ่มมวลชนกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) และเครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) จัดชุมนุมทางการเมืองปิดถนน ยึดสวนสาธารณะ สร้างความเดือดร้อนเสียหายให้กับประชาชน เพื่อมุ่งหวังโค่นล้มรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งซึ่งเป็นเสียงส่วนใหญ่ของประเทศ ปัญหาที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ก็มาจากพรรคประชาธิปัตย์ทั้งสิ้น ไม่ว่าการแก้รัฐธรรมนูญปี 2550 ก็ตาม จะแก้อะไรก็ไม่เคยเห็นด้วย ชวนมาร่วมคณะสภาปฏิรูปฯ ก็ไม่เอา จะเอาอย่างเดียวคือจะเอาอำนาจบริหารประเทศเท่านั้น ทั้งที่ประชาชนเขาไม่ได้เลือกให้มาเป็นรัฐบาล เขาเลือก ปชป.ให้มาเป็นฝ่ายค้านเท่านั้น ก็จงทำหน้าที่ฝ่ายค้านให้ประชาชนเห็นผลงาน

ด้าน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวถึงการดูแลผู้ชุมนุม กปท.และ คปท.ว่า ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ชุมนุมใด กทม.ก็จะอำนวยความสะดวก แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเข้าไปสนับสนุน สมมติว่า กทม.ใจดำไม่ส่งรถสุขาเข้าไปในพื้นที่ ก็ให้คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะมนุษย์ก็ยังเป็นมนุษย์อยู่ ไม่ต้องดูอะไร ขอให้ดูหลักมนุษยธรรม อีกทั้งหาก กทม.ไม่ให้รถสุขา กทม.ก็ต้องเข้าไปจัดการพื้นที่ให้เรียบร้อย โดยสุดท้ายก็จะเป็นเงินจากภาษีประชาชน ดังนั้นหากรัฐบาลต้องการอะไรก็ขอให้สั่งมาอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรก็พร้อมจะดำเนินการให้

ขณะที่ นายวสันต์ มีวงษ์ โฆษกประจำตัว ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวถึงกรณีเพื่อไทยยื่นเอาผิด กทม.ต่อกระทรวงมหาดไทยจากกรณีนำรถปั่นไฟมาช่วยเหลือผู้ชุมนุมที่อุรุพงษ์ว่า ว่าขอยืนยันว่า กทม.ได้ส่งรถไฟส่องสว่างมาในพื้นที่ ไม่ใช่เครื่องปั่นไฟที่นำมาต่อกับเครื่องเสียงตามที่ถูกกล่าวหา ซึ่งกรณีนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ก็ไม่ได้กังวลเพราะตั้งแต่ปี 2553 ไม่ว่ากลุ่มใดจะชุมนุมวิธีการปฏิบัติของ กทม.ยังเหมือนเดิม วันนี้จึงไม่มีเหตุผลใดที่ผู้ว่าฯ จะไม่เป็นกลางในการทำหน้าที่

ทั้งนี้ หากรัฐบาลจะเอาผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ตนอยากบอกว่า มาตรา 157 ก็ใช้ได้กับทั้งสองฝ่าย จึงขอให้รัฐบาลอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายเช่นกัน ถ้าจะใช้มาตรการทางกฎหมาย กทม.ก็ยินดีอยู่แล้ว กทม.ก็ขอใช้สิทธิตามกฎหมายเช่นกัน ซึ่งสิ่งที่พรรคเพื่อไทยพูดก็จะเป็นบูมเมอแรงกลับไปหาแน่นอน กทม.มีหน้าที่ต้องดูแลความปลอดภัย เรื่องนี้จึงเป็นประเด็นทางการเมืองแน่นอน