ม็อบไทยไม่เฉยเริ่มกระเตื้อง !!

เกาะกระแส

00 เป็นเพราะ "ไอ้ขี้คาตูด" จริงแท้ที่ทำให้บ้านเมือง อึดอัดรำคาญมานานหลายปี คำพูดเปรียบเทียบของ ธีรยุทธ บุญมี ที่พูดถึงอาการของ "ขี้ขำ" ทักษิณ ชินวัตร ได้อย่างเห็นภาพชัดที่สุด น่าขยะแขยงน่ารังเกียจที่สุด เพราะชี้ให้เห็นว่าปัญหาที่เป็นอยู่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่อง "ประชาธิปไตย"ที่อ้างมาหลอกต้มชาวบ้านแต่อย่างใด แต่เป็นเรื่องส่วนตัวของ ทักษิณ ล้วนๆ เป็นเรื่องของการทุจริตคอร์รัปชั่น การใช้อำนาจรัฐครอบงำทุกอย่าง ซึ่งก็ชัดเจนถูกต้องที่สุด ไม่ได้สลับซับซ้อนอะไร ซึ่งการกำจัด ทักษิณ และรัฐบาลหุ่นเชิดของทักษิณ มันไม่ได้ยากอะไร เพียงแค่ต้องใช้เวลา ให้ประจานตัวเองออกมาให้เห็นเท่านั้น และระหว่างก็ต้องโหมตีแผ่ออกมาให้เห็นทุกวัน และนับวันก็จะยิ่งเห็น"คนไทยไม่เฉย"ออกมาแสดงตัวกันมากขึ้นทุกวัน

00 ภาวะของคนไทยไม่เฉยดังกล่าวเริ่มมี "แนวโน้มเพิ่มขึ้น" ทุกวัน อย่างน้อยก็สังเกตเห็นได้จากการชุมนุมที่แยกอุรุพงษ์ ที่เริ่มมีนักศึกษาหลากหลายสถาบันเข้าร่วมมากขึ้น แม้จะยังไม่ถึงกับกลายเป็น "กระแสแรง"นัก แต่อย่างน้อยก็เป็นนิมิตหมายที่ดีไม่ใช่หรือ อีกทั้งมวลชนอื่นๆที่แม้ว่าส่วนใหญ่จะยังเป็นกลุ่มที่เคยร่วมชุมนุมขับไล่แม้วในช่วงพันธมิตรฯ แต่ก็ยังมีคนใหม่ ทั้งดารา ศิลปินนักร้องมากหน้าหลายตาที่กล้าแสดงตัวออกมาให้เห็นหน้าเห็นตาแบบไม่กลัวเกรง ก็ได้แต่ภาวนาขอให้บรรยากาศเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ให้เป็นการชุมนุมที่ออกมาในลักษณะ "ธรรมชาติ"ให้มากที่สุด อย่าพยายามไป"ตัดแต่งออกแบบ"มากจนเกินไป ที่สำคัญอย่าพยายามทำให้ หรือ"ถูกทำ"ให้เป็น "ม็อบการเมือง"อย่างเด็ดขาด ไม่งั้นมันก็จะเป็นแบบม็อบหน้ากากขาวก่อนหน้านี้ที่เริ่มต้นน่าสนใจ แต่ในที่สุดก็ต้องสะดุดลงอย่างน่าเสียดาย และหวังว่าคราวนี้ถ้าเชื่อมั่น "ทนายนกเขา" นิติธร ล้ำเหลือและน้องๆนักศึกษา ก็ต้องให้เขานำโดยอิสระ ให้กำลังใจ โดยเฉพาะฝ่ายการเมืองต้องยืนระยะห่างให้พอดี เพื่อเปิดกว้างให้มวลชนเข้าร่วมได้อย่างอิสระและไม่ตะขิดตะขวงใจ !!

00 เห็นได้ชัดก็คือม็อบแยกอุรุพงษ์ที่มีมวลชนเข้าร่วมจำนวนมาก มาในลักษณะ"รวมใจไม่เอาแม้ว" ไม่สนใจแม้กระทั่ง "แกนนำโนเนม" ขอให้มีเจตนารมณ์ร่วมกันเหมือนกันก็ต้องมา นี่แหละถ้าพิจารณาจากปริมาณที่เพิ่มขึ้นทุกวันแม้จะเป็นวันธรรมดา แต่ถึงอย่างไรต้องรอพิสูจน์ไปตลอดจนถึงสุดสัปดาห์นี้ว่ามีแนวโน้มอย่างที่เห็นหรือไม่ ถ้ายังไหลลื่นแบบนี้ก็ถือว่า "จุดติด"ได้ในระดับหนึ่ง และน่าชื่นใจ อีกด้านหนึ่งสำหรับรัฐบาลที่นับวันเริ่มหวั่นไหว ชักไม่กล้าใช้ "รัฐตำรวจ"คุกคามอย่างเปิดเผยเหมือนก่อน และคราวนี้ถ้าสังเกตให้ดีเป้าหมายจะพุ่งตรงไปที่ "แจ๊ด" พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบ.ชน. เพราะนาทีนี้ชวบ้านเขาชี้หน้าแล้วว่า "คุณเป็นตำรวจการเมือง" การใช้เครื่องมือทางกฎหมายจะไม่ได้รับการยอมรับอีกต่อไป หมดความชอบธรรมไปเรียบร้อยแล้ว

00 นี่ก็ผลงานอัปยศที่โผล่ออกมาให้เห็นเรื่อยๆ ล่าสุด "หม่อมอุ๋ย" มรว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรมว.คลัง ได้ออกมาแฉตัวเลขการขาดทุนจากนโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาล 2 ปีรวมแล้วกว่า 4 แสนล้านบาท และจี้ให้ยกเลิกโดยเร็วก่อนจะพาชาวบ้านฉิบหายกันทั้งประเทศ และที่สำคัญยังเสี่ยงต่อการถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือในอนาคตอันใกล้ ซึงถ้ากิดขึ้นจริงก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะก่อนหน้านี้ทาง "มูดี้ส์"ก็เคยส่งสัญญาณเตือนมาแล้ว หวังว่า"เสี่ยโต้ง" รมว.คลัง กิตติรัตน์ ณ ระนอง คงจะหาทาง"โกหก"ชาวบ้านเอาไว้ล่วงหน้าดิบดีแล้วนะ ทุด !!

00 สับสนมึนงง และสมเพชพิลึกกับตัวเลขการขายข้าวให้กับทางการจีนว่าตกลงแล้วมันขายได้จริงหรือไม่ และจีนรับซื้อเท่าไหร่กันแน่ เพราะก่อนหน้านี้คำแถลงอย่างเป็นทางการของ นายกฯจีน หลี่เค่อเฉียง ระบุชัดเจนว่าจะรับซื้อข้าว 1 ล้านตันในเวลา 5 ปี และรวมพวกสินค้าเกษตรอื่นๆอีก 2 แสนตัน และสำนักข่าวของทางการจีนก็ยืนยันตรงกันแบบนี้ แต่กลายเป็นว่า นายกฯคนเก่งของเรา ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาแถลงคนเดียวบอกตัวเลขไปอีกแบบว่าจีนลงนามเอ็มโอยู(รับปากหลวมๆ)ว่าจะซื้อปีละ 1 ล้านตัน ไม่จำกัดจำนวนปี แต่อ้างอยู่ฝ่ายเดียว จีนเงียบฉี่ หรือว่านายกฯฟังไม่เข้าใจแล้วพูดมั่ว ทำให้ต้องมั่วกันไปเรื่อย ส่วนเรื่องตัวเลขขาดทุนจำนำข้าว ทาง นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมว.พาณิชย์ ก็ยืนยันว่าไม่จริ๊งไม่จริง แต่เปิดเผยตัวเลขจริงไม่ได้ว่าเท่าไหร่ เวร !!