ตร.เจรจา ม็อบโค่นแม้ว ย้ายที่ชุมนุมจากข้างทำเนียบ เพื่อรับนายกฯจีน แกนนำลั่นปักหลักต่อ พร้อมต้อนรับและดูแลภาพลักษณ์ ย้อนเสียบบัตรแทน รบ.มุ่งแก้ รธน.น่าอายกว่า จี้ เลิกใส่ร้ายปชช.ปิดถนน ซัดตร.ทำเอง รองผบช.น. อ้างกระชับพื้นที่เพื่อความปลอดภัยผู้ชุมนุม หวั่นมือที่ 3 แถมตรวจพบอาวุธ ยันมาเจรจาอีก แกนนำแถลง ชี้ชุมนุมไม่เข้าหลักใช้ กม.มั่นคง พร้อมรับผิดชอบคนกปท.พกอาวุธ ยันไม่ทำลายชาติแบบแดง
วันนี้ ( 9 ต.ค.) เมื่อเวลา 8.30 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) พร้อมด้วยพ.ต.ท.จารุภัทร ทองโกมล รองผู้กำกับสืบสวนสอบสวนถานีตำรวจนครบาลดุสิต (รองผกก.สส.สน.ดุสิต) พ.ต.อ.ฤชากร จรเจวุฒิ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 (รองผบก.น.6.) เข้าเจรจากับคณะเสนาธิการร่วมกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอกทักษิณ (กปท.) นำโดยพล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ เพื่อขอให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่บริเวณข้างทำเนียบรัฐบาล ฝั่ง ถ.พิษณุโลกที่มีการปักหลักชุมนุมในขณะนี้ เนื่องจากในวันที่ 11 ต.ค.นี้นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีนจะเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ พร้อมกับจะเข้าพบน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม
โดย พล.ร.อ.ชัย กล่าวว่า กลุ่มผู้ชุมนุมมาชุมนุมภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่าจะปักหลักชุมนุมเช่นเดิม แต่หากรัฐบาลมีความกังวลใจในเรื่องภาพลักษณ์ของประเทศ ก็พร้อมที่จะดูแลพื้นที่การชุมนุมให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งเห็นว่าหากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอนุญาติให้มีการนำเต็นท์เพื่อจัดพื้นที่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมจะเกิดความสะดวกเรียบร้อยมากขึ้น
ทั้งนี้ อยากให้เข้าใจว่าการชุมนุมดังกล่าวเป็นไปโดยสงบ และไม่ใช่สิ่งที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศ แต่การที่ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน การที่รัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ และเร่งรัดแก้รัฐธรรมนูญเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เป็นสิ่งที่น่าอายกว่า
ด้าน พล.อ.ปรีชา ขอให้ภาครัฐหยุดบิดเบือนข้อมูลใส่ร้ายกลุ่มผู้ชุมนุม กรณีที่มีการติดป้ายทุกเส้นทางรอบทำเนียบรัฐบาลที่มีข้อความระบุว่า "กองทัพธรรมชุมนุมปิดถนน" ซึ่งในความเป็นจริงเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้นำแผงกั้นเหล็กและกองกำลังมาปิดล้อมพื้นที่กลุ่มผู้ชุมนุมไว้ นอกจากนี้ ยังพยายามที่จะเคลื่อนกำลังเข้ามาเพื่อล้อมกรอบผู้ชุมนุม อย่างไรก็ตามกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้มองว่าตำรวจเป็นศัตรู แต่ปัญหาคือรัฐบาล
ขณะที่ พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่า การที่จะมีการกระชับพื้นที่และการตรวจค้นอาวุธก่อนเข้ามาในพื้นที่ชุมนุมก็เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม เนื่องจากทางการข่าวมีการรายงานมาว่าจะมีกลุ่มมือที่สามเข้ามาสร้างสถานการณ์ ประกอบกับการตรวจค้นที่ผ่านมาก็พบว่ามีผู้นำอาวุธปืน คัทเตอร์ และกรรไกรพยายามเข้าไปในพื้นที่การชุมนุม ซึ่งไม่อาจรู้ได้ว่าบุคคลเหล่านี้เป็นใครส่วนการที่ผู้ชุมนุมไม่พอใจที่ทางเจ้าหน้าที่ติดป้ายการปิดถนนนั้น พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่าเป็นการดำเนินการเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร อยากให้ผู้ชุมนุมเข้าใจ
ทั้งนี้จะนำเอาข้อกังวลต่างๆของผู้ชุมนุมไปดำเนินการแก้ไขต่อไป และแม้การเจรจาในครั้งนี้จะไม่เป็นไปตามความคาดหวังที่ต้องการให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนย้ายไปชุมนุมที่อื่น แต่การเจรจาไม่ได้มีเพียงครั้งเดียว ยังมีเวลาครั้งนี้เป็นการเจรจาครั้งแรก แต่ยืนยันว่าจะมีการเจรจาในครั้งต่อๆไปอีก อย่างไรก็ตามหากผู้ชุมนุมมีปัญหาสามารถประสานงานมายังพ.ต.ท.จารุภัทรได้
จากนั้น เวลา 11.00 น.พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ พล.อ.ปรีชา เอี่ยยมสุพรรณนายไทกร พลสุวรรณ แถลงข่าวร่วมถึงกระแสรัฐบาลเตรียมประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงในพื้นที่ชุมนุม โดยพล.ร.อ.ชัย กล่าวว่า การที่รัฐบาลเตรียมพิจารณาประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อความชอบธรรมในการสลายการชุมนุม การชุมนุมของกปท.ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ยังไม่เข้าหลักการยืนยันว่าผู้ชุมนุมมาชุมนุมตามเสรีภาพ ไม่มีอาวุธ ตามสิทธิรัฐธรรมนูญ หากรัฐบาลมีการประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคง ทางกปท. จะต้องพิจารณาสถานการณ์ในการรับมืออีกครั้ง ทั้งนี้เราร้องขอเรียกร้องไปยังภาครัฐ ให้มีการแถลงข่าวร่วมกัน เพื่อไม่ใช้ประชาชนสับสน เนื่องจากที่ผ่านมามีการบิดเบือนข้อมูล อย่างเช่นการติดป้ายใส้ร้ายระบุว่าผู้ชุมนุมกองทัพธรรมเป็นผู้ปิดถนน ซึ่งกำกับชื่อป้ายโดยกองบังคับการตำรวจราจร ส่วนกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้พกพาอาวุธ และประทัดยักษ์ได้นั้น เราขอชี้แจงว่าให้เจ้าหน้าที่ระบุตัวบุคคลมา หากเป็นคนของกปท.จริงเราพร้อมรับผิดชอบ ซึ่งวานนี้( 8ต.ค.) ก็มีการจับกุมผู้พกกรรไกร และคัตเตอร์ โดยอ้างว่าเป็นอาวุธนั้น อยากบอกว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย เพราะการชุมนุมจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เหล่านี้บ้างเพื่อให้ในการตัดแต่งที่พัก
พล.ร.อ.ชัย กล่าวถึงผลการเจรจรากับรองผบช.น. ในช่วงเช้าที่ผ่านมาในเรื่องการขอให้กลุ่มกปท.เคลื่อนย้ายออกไปเพื่อใช้สถานที่ในการต้อนรับนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน วันที 11 ต.ค. ว่า เราความให้ความร่วมมือกับภาครัฐและยินดีตอนรับแขกบ้านแขกเมือง โดยเราพร้อมในการดูแลตกแต่งสถานที่และชุมนุมอย่างสงบ ซึ่งเราจะเขียนป้ายต้อนรับ และนำคนของเราโบกธงชาติไทยและจีนเพื่อความสัมพันธ์อันดี ส่วนการเปิดเส้นทางจราจรยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ปิดเส้นทางเองหากเจ้าหน้าที่ต้องการให้เปิดเส้นทาง เราก็พร้อมจะเปิดให้และจะชุมนุมในพื้นที่ที่กำหนด แต่ไม่เคลื่อนย้ายจากที่นี่แน่นอน รวมถึงกปท.จะไม่ทำลายผลประโยชน์ของประเทศ อย่างเช่นเหตุการณ์เมื่อปี 2552 ที่รร.รอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา อย่างแน่นอน
“เรายินดีร่วมมือกับรัฐบาลทุกอย่าง ถ้ารัฐบาลมาขอร้องในเรื่องนี้ เรายืนยันว่าการชุมนุมเป็นเรื่องที่ควรจะอวด และเป็นสีสันของประเทศชาติตามหลักประชาธิปไตย ว่า การที่มีคนชุมนุมเป็นเรื่องที่ดี ถ้าผมเป็นนายกฯ ผมก็จะเดินพานายกฯจีนมาอวด ว่า ประเทศเรามีสิทธิเสรีภาพ สามารถชุมนุมได้ และอยู่ในกรอบขอกฎหมาย” พล.ร.อ.ชัย กล่าว
ด้านนายไทกร กล่าวว่า การที่รัฐบาลจะประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคง เป็นการละเมิดสิทธิ์ของผู้ชุมนุม เพราะผู้ชุมนุมไม่ได้ชุมนุมสร้างความเสียหายให้กับสถานที่ราชการ ไม่สมควรใช้พ.ร.บ.ความมั่นคง ในการกีดกันเสรีภาพของประชาชน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังปิดกั้นการบริการกทม. ด้วยสกัดไม่ให้นำรถน้ำ และสุขาเคลื่อนที่เข้ามาในพื้นที่ชุมนุม