ถก พ.ร.บ.มั่นคง ไม่จบ รอสรุปรอบบ่าย ส่อใช้กันไว้ก่อน เชื่อพรุ่งนี้เคลียร์ม็อบเสร็จ

รองนายกฯความมั่นคง ยังไม่เคาะ พ.ร.บ.มั่นคง ถกซ้ำ ครม.ชุดเล็กช่วงบ่าย หลังรอบเช้าถกหนักความเหมาะสม เหตุผู้ชุมนุมน้อย ส่วนใหญ่หนุนใช้กันไว้ก่อน หลอนถูกยึดทำเนียบ แถมงานสภานายใหญ่สั่งยังไม่เสร็จ และมีรับนายกฯจีน เล็งใช้ถึง 18 ต.ค.พื้นที่พระนคร ดุสิต ป้อมปราม “อดุลย์” คุม ย้ำเบาไปหนัก เชื่อพรุ่งนี้ก็สำเร็จ

วันนี้ (9 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.40 น.โดย พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยภายหลังประชุม ครม.ชุดเล็ก ที่ประกอบด้วย นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายประเสริฐ บุญชัยสุข รมว.อุตสาหกรรม นายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรม พล.อ.ยุทธศักดิ์ พล.ท.ภราดร และ นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี  เพื่อพิจารณาการประกาศใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ว่า การหารือของ ครม.ชุดเล็ก ยังไม่เสร็จสิ้น ต้องรอเอกสารจากหน่วยงานต่างๆ ก่อน ดังนั้น จะกำหนดประชุมอีกครั้งในเวลา 13.30 น.วันนี้ จึงจะมีการความชัดเจนการประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ ในที่ประชุมฝ่ายความมั่นคงช่วงเช้าที่มี พล.ต.อ.ประชา เป็นประธาน ได้มีการถกเถียงถึงความเหมาะสมในการประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคง เนื่องจากจำนวนผู้ชุมนุมมีไม่มาก รัฐบาลจะถูกมองได้ว่าใช้มาตรการรุนแรงเกินกว่าเหตุ หรือตื่นตูมเกินไป แต่ขณะที่เสียงส่วนใหญ่เห็นว่า พ.ร.บ.มั่นคง เป็นกฎหมายที่ป้องปราม ที่ไม่ใช่ว่าจะรอให้เกิดปัญหาแล้วถึงมาแก้ไข จากพฤติกรรมกลุ่มผู้ชุมนุมในอดีตที่มีการบุกเข้าทำเนียบ และมีการลุกลามไปปิดล้อมรัฐสภา ที่ช่วงเวลานี้สภากำลังจะมีการพิจารณากฎหมายสำคัญๆ  จึงจำเป็นต้องป้องกันไว้ก่อน รวมถึงรัฐบาลมีงานต้อนรับนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่จะเดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 11 ต.ค.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ที่ประชุมความมั่นคงเสียงส่วนใหญ่เห็นว่า มีความจำเป็นที่รัฐบาลต้องประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคง โดยจะมีการประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 9-18 ต.ค.ใน 3 เขตพื้นที่ คือ พระนคร ดุสิต ป้อมปราม และแต่งตั้ง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ทำหน้าที่ ผอ.ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย โดยศูนย์บัญชาการอยู่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ขณะที่แผนปฏิบัติการจะเริ่มจากเบาไปหาหนัก ขั้นแรกจะมีการติดประกาศให้ผู้ชุมนุมได้ทราบ สกัดกั้นไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้ามาเพิ่มเติม และจะมีการกำหนดเส้นตายให้ผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่หน้าทำเนียบ ซึ่งจะมีการตัดน้ำ ตัดไฟ ซึ่งเท่าที่ฝ่ายความมั่นคงประเมินอย่างน้อยวันที่ 10 ต.ค.กลุ่มผู้ชุมนุมต้องออกจากพื้นที่แล้ว และอาจสถานการณ์ไม่มีอะไรก็สามารถยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคง ได้ก่อนวันที่ 18 ต.ค