ผู้ประสานงาน คปท.ซัดรัฐหาเรื่อง กทม.ดูแลม็อบอุรุพงษ์ ลั่นยังไงก็ไม่ย้าย เผยยังไม่ไปทำเนียบฯ-สภา ถ้าจะไล่จริงนายกฯ ไปไหนตามที่นั่น ขอหนึ่งหมื่นไล่ “คำรณวิทย์” ท้าอย่าปอดแหกส่งลูกน้องซุ่มถ่ายออฟฟิศ ด้านที่ชุมนุมคึกคัก พบกระแส ปจ.ซ่อนในกรมทางหลวง 750 นาย ตรวจสอบแล้วไม่เห็น แต่เจอรถตู้ติดไซเรนขับวนเวียนใช้จิตวิทยาป่วน จับมือ “กลุ่มกรีน” เตรียมยื่น อสส.-ป.ป.ช.บี้ “จุลสิงห์” ปล่อยผี “นช.แม้ว” ก่อการร้ายเช้านี้
เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ที่สี่แยกอุรุพงษ์ ถนนพระราม 6 นายนิติธร ล้ำเหลือ ผู้ประสานงานกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ปราศรัยบนเวที กล่าวว่า ตนไม่เข้าใจว่ารัฐบาลชุดนี้ ตำรวจชุดนี้กลัวอะไรกับการชุมนุมที่อุรุพงษ์ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) บอกว่าม็อบนี้อยู่ไม่นาน เด็กๆ ไม่มีท่อน้ำเลี้ยง นี่ 6 วันแล้ว ชุมนุมวันแรกมันตั้งซีเมนต์ กลัวอะไรนักหนา ก็บอกแล้วว่าเราไม่ไปทำเนียบฯ แต่วันนี้มันล้อมตัวเองอยู่ แล้วมันก็ออกจากทำเนียบฯ ไม่ได้เหมือนกัน บอกให้มาก็ไม่มา แล้ววันนี้พอคุยกับเราไม่ได้ เจรจาไม่ได้ หาความผิดกับเราไม่ได้ ไปเล่นงาน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ถามว่าให้พวกตนใช้พื้นที่ได้อย่างไร
“ผมจะบอกให้ รัฐบาลชุดนี้ ตำรวจชุดนี้ เลขาฯ ความมั่นคงชุดนี้ ฝ่ายกฎหมายมึงโง่ ฝ่ายกฎหมายมึงไม่ฉลาดพอ นายมึงถึงติดคุกตั้งแต่แรกเรื่อยมา ก่อนที่มึงจะไปกล่าวหาผู้ว่าฯ กทม. ก่อนจะกล่าวหาผู้ชุมนุมใช้สิทธิผิดกฎหมาย กลับไปดูก่อนว่าเขาดำเนินการตามกฎหมายมาตามขั้นตอนหรือไม่ และระวังจะโดนทาง กทม.เขาฟ้องกลับเอา ไม่รู้จะชั่วกันไปถึงขนาดไหน คนเราเนี่ยทำเลวเองก็พอแล้ว แต่สอนให้คนอื่นเลวเนี่ยเลวยิ่งกว่า ก็ กทม.เขาจะช่วยดูแลพี่น้องที่ออกมาชุมนุมใช้สิทธิ์ ตอนพี่น้องเสื้อแดงชุมนุม เขาก็ดูแล ไม่เห็นมันโวย พอเขาดูแลเราบ้าง มันโวย ไม่รู้มันเป็นยังไง” นายนิติธรกล่าว
นายนิติธรกล่าวต่อว่า ตำรวจไปออกข่าวว่าผู้ชุมนุมเตรียมจะย้ายไปสนามกีฬา ยืนยันว่ายังไงตนก็ไม่ย้าย แต่ถ้าผู้ชุมนุมมาที่นี่ถึง 1 หมื่นคนเมื่อไหร่ ตนจะย้าย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.แน่ ถ้ายังมาไม่ถึง ตนก็ไม่ย้ายออกไป และตนจะยังไม่ย้าย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ แต่ถ้ามาถึง 1 หมื่นคนเมื่อไหร่ ตนย้าย พล.ต.ท.คำรณวิทย์แน่ ถ้าผู้ชุมนุมมาวันไหน ตนขอทำเรื่องถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ย้าย พล.ต.ท.คำรณวิทย์วันนั้นเหมือนกัน ไม่รู้ว่าจะรังแกกันขนาดไหน ทั้งนี้ ตนก็บอกแล้วว่าอยู่ระหว่างการที่ให้ประชาชนตัดสินใจว่าจะเอารัฐบาลนี้หรือไม่ แล้วก็ไม่รู้กลัวอะไร ปกปิดความผิดขนาดไหน
“ผมไม่ไปแน่ทำเนียบฯ เพราะ 2 ปีเข้าทำเนียบฯ ถึง 5 ครั้งหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย แล้วสภาฯ ผมก็ไม่ไป เพราะมันไม่เคยไปรัฐสภาเหมือนกัน ถ้าผมจะไป ถ้าผมจะไล่นายกฯ ผมก็จะไปเกาะติดอยู่ที่นายกฯ อยู่นั่นแหละ ดังนั้นฟังไว้ ถ้าผมจะเคลื่อนย้ายการชุมนุมแล้วผมจะไล่นายกฯ ผมจะเดินทางไปหานายกฯ ปู อยู่ที่ไหนผมไปที่นั่น ฉะนั้นถ้ามึงไม่เข้าทำเนียบฯ กูไม่ไปทำเนียบฯ มึงไม่เข้ารัฐสภา กูไม่ไปรัฐสภา แต่วันนี้ยังอยู่ที่นี่ เอากันชัดๆ จะได้ไม่ต้องวิตกจริต ถ้าจะเอาข้อกฎหมายมา ถ้าผมแพ้ทางกฎหมายไม่เป็นไร ผมยอมได้ แต่ถ้าเอาอำนาจที่ไม่เป็นธรรมมาข่มขู่ผม ตายกันไปข้างหนึ่ง รู้จักกันดี รู้จักฝีมือกันดี เคยต่อสู้กันมาหลายสนาม แต่โทษที กูชนะนายมึงทุกครั้ง” นายนิติธรกล่าว
นายนิติธรกล่าวอีกว่า ขอให้ผู้ชุมนุมอย่าไปสับสนกับเรื่องข่าว ตนเข้าใจว่าพรุ่งนี้ (16 ต.ค.) ก็คงจะมีการเจรจา จะขอกระชับพื้นที่ ฉะนั้นอยู่ที่ผู้ชุมนุมว่าจะเอายังไง ยืนยันว่าพื้นที่นี้ยังอยู่ได้โดยชอบด้วยกฎหมาย เราชุมนุมโดยใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ถ้ารุกเข้ามาเรามีสิทธิป้องกันตัว ตนไม่ตอบโต้ ไม่ต่อสู้ ใช้ความสงบ เอากันชัดๆ พี่น้องตำรวจจะได้ไม่ต้องมาถามไถ่ และไม่ต้องส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถ่ายออฟฟิศตน หน่วยงานรัฐหน้าไหนอยากได้ข้อมูลประวัติชีวิตตนมาหลังเวที ไม่ต้องไปข่มขู่ ไม่ต้องไปแอบถ่ายรูปออฟฟิศที่ทำงาน ใจถึงหน่อย อย่าปอดแหก แล้วถ้าทำกันมากๆ ตนจะไปหาเอง เคยท้ากันอย่างนี้ก็ไม่มา ใช้วิธีแอบซุกซ่อน กล้าจริงกับการตีกับประชาชน ไม่รู้เป็นยังไง มีครั้งไหนที่เดินสลายการชุมนุมแล้วเดินเข้ามามีไหม ก็ไม่เคย เอาเปรียบตลอดแล้วยังจะปอดแหก เหตุที่พูดกันอย่างนี้เพราะไม่รู้สึกว่าเป็นคนดีที่ต้องเคารพกันมากมาย ตนยังยืนยันว่าจะชุมนุมอยู่ที่นี่ แล้วพวกนี้ก็จะกระชับพื้นที่ เจอกัน ไม่ย้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการชุมนุมในช่วงค่ำที่ผ่านมายังคงเป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีการแสดงดนตรีสลับกับการปราศรัยของผู้ปราศรัย และยังมีการเปิดตัวกลุ่มพลังอาชีวะปกป้องชาติและราชบัลลังก์ ที่จะช่วยดูแลการชุมนุมร่วมกับกลุ่ม กปท. อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ไม่พบว่ามีบุคคลสำคัญทางการเมือง โดยเฉพาะนักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาให้กำลังใจหลังเวทีเหมือนเช่นทุกคืนที่ผ่านมา อีกด้านหนึ่งผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่ามีกำลังตำรวจปราบจลาจล (ปจ.) รวมตัวกันอยู่ที่กรมทางหลวง ถนนศรีอยุธยา ประมาณ 5 กองร้อย หรือ 750 นาย ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 600 เมตร แต่เมื่อลงพื้นที่พร้อมกับนายนัสเซอร์ ยีหมะ หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัย คปท.เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ไม่พบว่ามีภาพของการตั้งกำลังตำรวจให้เห็นเด่นชัด แต่ผู้สื่อข่าวเห็นรถตู้สีขาวติดสัญญาณไฟฉุกเฉินของตำรวจ ซึ่งมาจากตำรวจภูธรจังหวัดนครนายกขับวนเวียนภายในกรมทางหลวง นอกจากนี้ยังพบว่ายังมีรถตู้สีขาวในลักษณะเดียวกันอีก 2 คัน ซึ่งมาจากตำรวจภูธรจังหวัดอ่างทอง ขับผ่านถนนเพชรบุรีอีกด้วย ซึ่งคาดว่าอาจเป็นการสร้างปฏิบัติการทางจิตวิทยาต่อผู้ชุมนุม
อีกด้านหนึ่ง แหล่งข่าวจากที่ชุมนุมระบุว่า ในเช้าวันนี้ (16 ต.ค.) ตัวแทน คปท.พร้อมด้วยตัวแทนกลุ่มพลังอาชีวะปกป้องชาติและราชบัลลังก์ และกลุ่มการเมืองสีเขียว หรือกลุ่มกรีน จะร่วมกันไปยื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษ โดยเวลา 11.00 น.จะไปยื่นหนังสือต่อนายอรรถพล ใหญ่สว่าง อัยการสูงสุด ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เพื่อขอให้ทบทวนคำสั่งที่นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อดีตอัยการสูงสุด สั่งไม่ฟ้องคดีก่อการร้ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และผู้ต้องหาหนีคดีอาญาแผ่นดิน จากนั้นเวลา 13.30 น.จะเดินทางไหยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ถนนสนามบินน้ำ จ.นนทบุรี เพื่อขอให้ตรวจสอบและขอกล่าวโทษนายจุลสิงห์ ในฐานะเจ้าพนักงานกระทำความผิดฐานการใช้ดุลพินิจออกคำสั่งไม่ชอบด้วยกฎหมายอันเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157