“ยิ่งลักษณ์” ฝากคนแปดริ้วอดทน ยันเร่งผันน้ำบางปะกง ขอบคุณทหารทำแนวกั้น

นายกฯ ลงพื้นที่แปดริ้ว ย้ำเร่งผันน้ำลงแม่น้ำบางปะกง ผู้ว่าฯ เผยใช้แม่น้ำบางปะกงผลักดันน้ำ อีกส่วนใช้คลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต เชื่อบริหารจัดการได้ นายกฯ ขอให้ประชาชนอดทน ยันทุกภาคส่วนทำงานเต็มที่ สั่งจังหวัดสำรวจความเสียหายจ่ายเงินเยียวยา และขอบคุณทหารทำแนวกั้นน้ำ

วันนี้ (15 ต.ค.) นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะ เดินทางจากอำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี ถึงโรงเรียนดาราจรัส อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา พบปะประชาชนที่ประสบอุทกภัย พร้อมแจกถุงยังชีพแก่ผู้ประสบอุทกภัย โดยมีนาย อนุกูล ตังคณานุกูลชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา คณะหัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนชาวอำเภอบางคล้า จำนวนมาก ให้การต้อนรับ

นายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวรายงานสรุปสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ว่า มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 11 อำเภอ 59 ตำบล ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 15,016 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 6 ราย พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมเสียหายประมาณ 16,014 ไร่ การประมงเสียหาย 7,103 ไร่ ทั้งนี้ สถานการณ์ปัจจุบันคลี่คลายแล้ว 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแปลงยาว อำเภอสนามชัย และอำเภอท่าตะเกียบ ยังมีพื้นที่น้ำท่วมอีก 8 อำเภอ แบ่งเป็นระดับรุนแรง 5 อำเภอ คือ อำเภอราชสาส์น อำเภอบางคล้า อำเภอบางน้ำเปรี้ยว อำเภอคลองเขื่อน และอำเภอพนมสารคาม ระดับน้ำเฉลี่ยประมาณ 1-1.50 เมตร สำหรับอำเภอที่เหลือ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบ้านโพธิ์ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา และอำเภอบางปะกง มีสถานการณ์น้ำระดับปานกลาง และคาดว่าจะดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์นี้

ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวถึงการระบายน้ำและเร่งผลักดันน้ำว่า พื้นที่ฝั่งขวาของแม่น้ำบางปะกง ซึ่งรับน้ำจากจังหวัดปทุมธานี นครนายก และกรุงเทพมหานคร ได้เร่งระบายผ่านระบบชลประทานออกสู่แม่น้ำบางปะกง และออกสู่อ่าวไทย ปริมาณน้ำอีกส่วนหนึ่งระบายผ่านคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต ลงสู่อ่าวไทย ที่คลองด่านจังหวัดสมุทรปราการ สถานการณ์ยังสามารถบริหารจัดการได้

สำหรับพื้นที่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำบางปะกง อุทกภัยที่เกิดขึ้นสืบเนื่องจากในพื้นที่เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกันยายน ถึงต้นเดือนตุลาคม ทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนเก็บน้ำแควระบบ-สียัดเต็มความจุล้นสันเขื่อนเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ ประกอบกับมวลน้ำจากแม่น้ำนครนายก และปราจีนบุรี ล้นตลิ่งหลากเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งโครงการชลประทานฉะเชิงเทราได้เร่งระบายน้ำผ่านประตูระบายน้ำคูมอญ บางกระเจ็ด บางกระดาน และติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มขึ้นจากเดิม 13 เครื่อง นอกจากนั้นได้รับการสนับสนุนเครื่องผลักดันน้ำจากกองทัพเรือ ติดตั้งผลักดันน้ำในเขตเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา 2 จุด และที่อำเภอบางปะกง จำนวน 2 จุด รวมเครื่องผลักดันน้ำในพื้นที่ทั้งหมด 32 เครื่อง

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การลงพื้นที่ในวันนี้ เพื่อนำคณะภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมาแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ซึ่งพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำที่ไหลมาจากจังหวัดปราจีนบุรี ทำให้มีน้ำท่วมเป็นจุดๆ ซึ่งรัฐบาลจะเร่งแก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วน จะระบายน้ำและผันน้ำลงสู่แม่น้ำบางปะกง และจะเร่งแก้ไขปัญหาจุดที่เป็นพื้นที่สำคัญ จะป้องกันไว้ไม่ให้ได้รับผลกระทบ โดยขอให้ประชาชนอดทน ในบางพื้นที่อาจจะล่าช้าไปบ้าง แต่ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนจะเร่งทำงานอย่างเต็มที่ พร้อมกับดูแลให้ประชาชนได้รับความสะดวกในทุกด้านทั้งอาหาร การสาธารณสุข

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้ฝากผู้ว่าราชการจังหวัดให้เร่งสำรวจความเสียหาย และเร่งจ่ายเงินเยียวยาให้กับประชาชนโดยเร็วที่สุด พร้อมทั้งมอบหมายให้เจ้าหน้าที่เข้าไปฟื้นฟูในพื้นที่ที่น้ำลด ให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว และนายกรัฐมนตรียังได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทหารที่ได้ร่วมกันทำแนวกั้นน้ำระยะทาง 14 กิโลเมตร ทำให้ช่วยแบ่งเบาพื้นที่น้ำท่วมไปได้

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้มอบเงินช่วยเหลือให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับประชาชน และนายกรัฐมนตรีได้ปรุงอาหารผัดกะเพราไก่ให้กับประชาชนชาวบางคล้าด้วย ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะได้เดินทางต่อโดยรถ GMC ไปยังเทศบาลตำบลปากน้ำ อำเภอบางคล้า เพื่อมอบสิ่งของช่วยเหลือให้กับประชาชนผู้ประสบอุทกภัย โดยนายกรัฐมนตรีและคณะได้เดินเท้าลุยน้ำเพื่อไปมอบถุงยังชีพให้กับประชาชน โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมผู้ป่วยเป็นอัมพาต มอบถุงยังชีพ ยารักษาโรค เครื่องอุปโภคบริโภคให้กับผู้ป่วย พร้อมสั่งการให้กองทัพเข้ามาดูแลผู้ป่วยเป็นกรณีพิเศษ และกำชับให้กองทัพคอยช่วยเหลือดูแลประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ห่างไกลด้วย